ราชาปีศาจ
พวกเขาเป็นกลุ่มคนนอกกฏหมายโดยแท้จริง กล่าวคือพวกเขาไม่ใช่คนที่ตั้งใจจะเป็นอาชญากร แต่ละคนจะเป็นตัวแทนของชนชั้นในสังคมจีน ได้แก่ กวี, ทหาร, เด็กหนุ่มชนชั้นสูง, พ่อครัว, ชาวประมง, นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งกก็คือ “อาชีพ” ที่ไม่ได้ชั่วร้ายอะไร และถ้านี่เป็นภาพสะท้อนสังคม มันก็ไม่ได้เป็นแต่เพียงภาพแค่ภาพวาดล้อเลียนเท่านั้น
ต่วน
ต่างกับเพ่ยเพ่ย เพราะเขาเป็นคนที่โกหกไม่เป็น เขาไม่รู้จักโลกภายนอกมากนัก เขามีบางอย่างที่คล้ายกับ “กองดิด” ของฝรั่งเศส เป็นคนที่ช้ากว่าคนอื่น ในตอนต้นเรื่อง ต่วนยังคงเป็นเด็กที่สนใจเรื่องปีศาจและสงครามการต่อสู้ เขาเชื่อว่าตัวเองถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นวีรบุรุษ และก็ไม่มีใครคัดค้าน จนบางครั้งเค้าก็พูดอะไรอย่างฮีโร่ที่ดูน่าหัวเราะเยาะและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน นักพรตจางเป็นคนแรกที่ต่วนได้พบและบอกกับเขาว่า “เจ้าไม่ได้รู้อะไรเลย” จากนั้นเขาจึงเริ่มตั้งคำถาม หรือแม้แต่คิดก่อนที่จะถาม และเขาก็เริ่มเติบโตขึ้น
นักพรตจาง
เขาอยู่ในวัยบั้นปลาย ชอบพูดจาด้วยคำสวยหรูชวนงง ไขข้อเสื่อม ตาบอด และผิวหนังเหี่ยวย่น แต่ความคิดของเขายังเฉียบคมและรวดเร็ว สำหรับสาวกลัทธิเต๋า เขาคือผู้พิทักษ์ความสมดุลย์ของฟ้าดิน การเรียกแบบนี้ สำหรับคนทั่วไปอาจจะฟังดูไม่มีความหมาย แต่สำหรับเขาแล้ว มันชัดเจนและมีนัยยะที่ปฏิบัติได้จริง สำหรับเรา เขาเป็นคนพิลึก จนอาจจะเรียกได้ว่าชอบแสดงอะไรที่เกินจริงแบบเพ่ยเพ่ยด้วยซ้ำ
อสรพิษเหลือง
อายุ 17 มาจากครอบครัวที่ดีแต่ไร้การศึกษา การเติบโตมาในฐานะเด็กผู้หญิงคนเดียวท่ามกลางเด็กผู้ชาย 4 คน ทำให้เธอเป็นคนที่แต่งตัวไม่เป็น แทนที่จะเรียนงานบ้านงานเรือน เธอกลับเรียนกังฟู ฟันดาบ ขี่ม้า รวมทั้งเป่าปากด้วย เธอเป็นคนมีเสน่ห์แต่ไม่รู้ตัว จึงไม่รู้จะใช้เสน่ห์ของตัวเองยังไง เธอเป็นธรรมชาติมาก เธอพูดและทำอย่างที่คิด ไม่มีปิดบังหรือคิดคำนวนวางแผน แต่เมื่อถึงเวลาที่มีความรัก มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวและน่ากังวลใจ งูพิษเหลืองที่เคยเป็น “เด็กผู้หญิงแห่ง...” กำลังจะต้องกลายเป็น “ผู้หญิงแห่ง...” และเพราะงูพิษเหลืองปฏิเสธพรหมลิขิต เธอจึงเลือกเส้นทางของเธอเอง เส้นทางที่ทำให้เธอเป็นตัวของตัวเอง อาวุธคู่กาย: ผ้าพันคอไหมสีเหลืองและลวดโลหะ
หัวเสือดาว
อายุ 30 กว่า มีลักษณะอย่างแมว เงียบ สงบ ค่อนข้างลึกลับ เก็บตัวแต่มีแรงดึงดูด มีเสน่ห์ แตไ่ม่อวดตัว มีอำนาจโดยธรรมชาติ แต่เวลาพูดแทบจะไม่เคยเสียงดังกว่าคนอื่น เขาไม่ได้พูดเพื่อชวนเชื่อ แต่พูดเพื่ออธิบายความเห็นของตัวเองเพียงแค่นั้น อาวุธคู่กาย: กระบี่คู่
เพ่ยเพ่ย
มีเพ่ยเพ่ยอยู่ 2 คน คนหนึ่งเป็นเพ่ยเพ่ยที่เป็นเด็กผู้หญิงที่มีความเป็นธรรมชาติเหมือนเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน และอีกคนเป็น “นักเล่าเรื่อง” ที่แสดงในโรงเตี๊ยมแลกเงินยาไส้เล็กๆ น้อยๆ ในบทบาทนี้ เธอสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อดึงดูผู้ชม
กังหันดำ
เราไม่รู้แน่ชัดว่าชายร่างใหญ่ที่พกขวานแดงคู่นี้เป็นใครมาจากไหน เพ่ยเพ่ยเล่าว่า เขาเกิดมาจากความรักของพายุทอร์นาโดกับแผ่นดินไหว แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็เป็นตัวละครที่อันตราย เป็นเหมือนภัยธรรมชาติที่คาดเดาไม่ได้ รูปร่างของเขาไม่ได้น่ากลัวอะไรนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกสบายใจสักเท่าไร ตรงกันข้ามกับรูปร่างที่เห็น เพราะเขาไม่ได้เป็นพวกชอบใช้กำลัง แต่เป็นพวกชอบถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิด เขาเป็นพวกมีอารมณ์ขันและมีหลักการในการดำเนินชีวิตซึ่งนับเป็นทรัพย์สินอย่างเดียวที่เขามี อาวุธคู่กาย: ขวานทองแดงคู่
เคราแดง
คนขี้หงุดหงิด ไม่เคยพอใจกับอะไร โชคร้ายของเขาทำให้ดูน่าตลก แต่เขาก็ไม่ใช่พวกคนโง่เง่า เขารู้จุดอ่อนของตัวเองและจัดการกับมัน เขามักจะพูดว่าไม่ก่อนเสมอ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความไม่ถูกต้องขึ้น เขาก็หยุดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปช่วยเสมอ อาวุธคู่กาย: ทวน
หน้าขาว
หนุ่มนักภาษา เขามีความเชี่ยวชาญในการใช้ถ้อยคำแต่ไม่ใช่ในการใช้เสียง เราไม่เคยรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดจริงจังหรือเปล่า เขาช่างประชดประชันแต่ก็ไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย เขาล้อเล่นกับทุกอย่าง จนเหมือนไม่เคยทำอะไรสำเร็จอย่างจริงๆ จังๆ เลย เว้นแต่...”งูพิษ” อาวุธคู่กาย: โซ่เหล็ก
แมงป่องไฟ
มีชีวิตชีวา มองโลกในแง่ดีและร่าเริง ในขณะที่กังหันดำอยู่กับความยุติธรรม แมงป่องไฟก็อยู่แต่กับห้องครัว เขาเป็นพวกมือสมัครเล่นที่หลงใหลการทำอาหาร ถ้าเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ไหม้ก็ต้องมีอะไรผิดปกติกับน้ำซุป เขาคือผู้มีความสามารถในการสร้างหายนะให้กับโรงเตี๊ยม อาวุธคู่กาย: มีด... มีดสารพัดแบบ
สายฟ้าลั่น
สายฟ้าหูหนวกพอๆกับที่มือธนูเป็นใบ้ สายฟ้าเคยได้ยินอย่างปกติมาก่อนจนกระทั่งมาพบกับคู่หูอันตรายทั้งสามอย่าง ไนเตรต, ซัลเฟอร์, และถ่าน อาวุธคู่กาย: ระเบิด
มือธนูมหัศจรรย์
เขาเป็นใบ้พอๆกับที่สายฟ้าหูหนวก แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้เขามีบทสนทนาไม่จบไม่สิ้น อาวุธคู่กาย: ธนูและลูกดอก
มรณาก่อนกาลและมรณาฉับพลัน
พวกเขาเป็นพี่น้องฝาแฝด เป็นชาวประมง มีฉมวก แห และมีดสำหรับขอดเกล็ดปลา พวกเขาไม่ได้มีการศึกษาอย่างหน้าขาว ไม่เคยไปศาลอย่างหัวเสือดาว อาจารย์ที่ฝึกสอนอาวุธให้แก่เขาคือ ปูเจ้าเล่ห์ ปลาไหลตัวลื่น และปลาเทราต์จอมดื้อ เมื่อพ่อของพวกเขาตาย พวกเขาต้องการจะฝังศพพ่อด้วยตัวเอง แต่ทางการก็เข้ามาวุ่นวายเพราะถือว่าผิดกฏหมาย แต่พวกเขาก็ยังฝังศพพ่ออยู่ดี และฆ่าเจ้าหน้าที่และทิ้งศพไว้ข้างทาง พวกเขาไม่ฝังศพ เพราะมันคือกฏหมาย อาวุธคู่กาย: ฉมวกและตะขอ
จอมพลเกา
เกาไม่ใช่คนโง่หรือคนโหดร้าย เขาสามารถที่จะเป็นพระเอกได้เลย เขามีเสน่ห์และโดดเด่น มีร่างกายที่ดีที่เมื่อเขาต้องการจะใช้มันก็สามารถทำได้ แต่มันก็ถูกจำกัดด้วยปรัชญาตื้นๆที่ใช้ในการดำเนินชีวิตของเขา นั่นก็คือ ชีวิตมีไว้เพื่อหาประโยชน์จากทุกทาง ซึ่งมันเป็นความคิดที่ดีสำหรับพ่อค้า แต่สำหรับคนของรัฐแล้วมันนับเป็นความเสียหาย
ไก จิง
เขาไม่ได้ฉลาดนัก แต่ชอบช่วยเหลือคนอื่น เขาคือคนที่เชื่อมโยงปมต่างๆ ในเรื่อง เขาไม่ได้มีคาแรคเตอร์อะไรชัดเจนจริงๆ จังๆ บางทีเขาอาจจะเป็นคนดีถ้าเขาช่วยเหลือคนดี....?