ก่อนที่แฟนภาพยนตร์จะได้ชมผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของแอ็คชั่นสตาร์แห่งยุคระดับแถวหน้าของฮอลลิวู้ดอย่าง "เจสัน สเตทแธม" กับบทบาทบอดี้การ์ดฝีมือระดับพระกาฬแห่งลาสเวกัสในภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง "Wild Card มือฆ่าเอโพดำ" ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ นี่จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะย้อนดูการรับบทบาทแอ็คชั่นสุดมันส์ในภาพยนตร์เรื่องเด่น ซึ่งเขาต้องใช้ทั้งฝีมือ พลังกาย และแรงใจในการสร้างสรรค์ฉากสุดมันส์เหล่านี้ออกมาสู่สายตาผู้ชม
และนี่คือ 5 บทบาทมันส์สุดเดือดในภาพยนตร์ของ "เจสัน สเตทแธม" ทุกครั้งที่เขาบู๊ ทุกครั้งที่เขาแอ็คชั่น ย่อมมีเทคนิคการนำเสนอมุมมองที่แปลกใหม่ ฉากสุดมันส์อันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งล้วนโดนใจกลุ่มผู้ชมคอแอ็คชั่นเสมอมา
1. แฟรงค์ มาร์ติน (Frank Martin)
จากในภาพยนตร์ชุด The Transporter (2002 – 2008)
ในภาพยนตร์ชุด The Transporter เขา รับบทเป็น แฟรงค์ มาร์ติน พนักงานส่งของผู้เคารพในกฎระเบียบของตนเองอย่างเคร่งครัดโดยมีกฎประจำตัวข้อแรกคือไม่เปลี่ยนข้อตกลง ข้อที่สองคือ ไม่ถามชื่อ โดยเขาไม่เคยตั้งคำถามว่าเขากำลังขนอะไร ขนให้ใคร ในหีบห่อนั้นคืออะไร และข้อสุดท้ายคือ ไม่เปิดดูของในหีบห่อก่อนถึงที่หมาย ไม่ว่างานส่งของนั่นจะเสี่ยงอันตรายแค่ไหน
โดยในไตรภาคของภาพยนตร์ชุดนี้ เจสัน สเตทแธม ต้องศึกษา และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนง เพราะเขาได้ทุ่มเท เล่นฉากแอ็คชั่น เสี่ยงอันตรายต่าง ๆ ด้วยตัวเองแทบทุกฉาก และนี่เองจึงกลายเป็นผลงานเปิดตัวเขาในฐานะแอ็คชั่นสตาร์คนใหม่ของวงการฮอลลิวู้ด และยังทำให้เขาได้รับการจับตามองจากทีมผู้สร้างภาพยนตร์ และคอภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นอีกมากมาย
2. เชฟ เชเลียส ( Chev Chelios )
จากในภาพยนตร์ชุด Crank ( 2006 – 2009 )
นอกจากลีลาแอ็คชั่นสุดระห่ำแล้ว ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เจสัน สเตทแธม ยังต้องใส่ลูกบ้าแบบสุดโต่งเพื่อรับบทการแสดงอีกด้วย โดยเขารับบทเป็น เชฟ เชเลียส ชายหนุ่มซึ่งต้องเจอกับปัญหาครั้งใหญ่สุดในชีวิต เมื่อเช้าวันหนึ่งเขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ และได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายว่าเขาถูกวางยาพิษในช่วงที่นอนหลับ และมีเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่
วิธีเดียวที่จะเอาชีวิตรอด เขาต้องทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายหลั่งตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ยาพิษไปออกฤทธิ์ต่อหัวใจ และแล้วภารกิจท้ามฤตยู พร้อมความมันส์แบบบ้าสุดขีดจึงประทุขึ้น
นอกจากพล็อตเรื่องสุดแหวกแนวแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ในภาพยนตร์ชุดนี้ก็คือการที่ เจสัน สเตทแธม ยังคงทุ่มทุนกับฉากแอ็คชั่นมันส์หยดอีกมากมายเหมือนเช่นเคย โดยเขาตัดสินใจที่จะเล่นเอง แสดงเอง ในทุกฉากของภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งฉากการต่อสู้ และฉากการขับรถไล่ล่าสุดอันตราย โดยไม่ขอพึ่งสตั๊นท์แมนใดๆ ทั้งสิ้น
3. อาร์เธอร์ บิชอพ ( Arthur Bishop )
จากในภาพยนตร์เรื่อง The Mechanic ( 2011 )
นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่แอ็คชั่นสตาร์แห่งยุคอย่าง เจสัน สเตทแธม และ ไซมอน เวสต์ ผู้กำกับมือโปรแห่งภาพยนตร์แอคชั่นที่มีผลงานโดนใจคอหนังอย่าง Con Air (1997) และ Lara Croft: Tomb Raider (2001) ได้มาแท็กทีมร่วมงานกัน
ในภาพยนตร์เรื่องนี้เขารับบทเป็น อาร์เธอร์ บิชอพ ซึ่งได้รับสมญานามว่า "เมคคานิค" ผู้เป็นสุดยอดมือสังหารที่ยึดมั่นในกฎ และมีความสามารถพิเศษในการล้างเป้าหมายที่ได้อย่างไร้ร่องรอย ทำให้เขาเป็นหนึ่งในวงการ แต่แล้ววันหนึ่งเพื่อนสนิทของเขาได้ถูกฆ่าตาย นี่จึงทำให้เป้าหมายต่อไปของเขาคือการไล่ล่า และสะสางคนที่ลงมือมารับความผิดสุดมหันต์ในครั้งนี้
ไซมอน เวสต์ ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยไอเดีย และฝีมือในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น และการยิ่งได้มาร่วมงานกับดารามากฝีมืออย่าง เจสัน สเตทแธม จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อุดมไปด้วยความแอ็คชั่นแบบสุดเดือด และฉากการต่อสู้สุดเข้มข้นจนยากที่จะลืม
4. พาร์คเกอร์ ( Parker )
จากในภาพยนตร์เรื่อง Parker ( 2013 )
ครั้งนี้ เจสัน สเตทแธม ขอประกบ - ร่วมแสดงกับสาวละตินสุดฮ้อตอย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ พร้อมร่วมกันสานความมันส์ในภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์เรื่องนี้
เจสัน สเตทแธม รับบทเป็น พาร์คเกอร์ นักโจรกรรมมืออาชีพที่ใช้ชีวิตตามกฏของตัวเอง นั่นคือไม่ขโมยจากคนที่ไม่มี และไม่ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้ แต่กลับกลายเป็นว่าการปล้นธนาคารครั้งล่าสุด เขาถูกทั้งทีมหักหลัง ... พาร์คเกอร์ ซึ่งรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดจึงจัดสินใจที่จะไล่ล่าทีมของเขา โดยอาศัยความร่วมมือกับ เลสลี่ (เจนนิเฟอร์ โลเปซ) สาวสวยที่รอบรู้เรื่องในวงการเพชร ในการที่จะตลบหลังทีมเก่าด้วยการชิงปล้นตัดหน้า !
นอกจากในส่วนลีลาการบู๊ - แอ็คชั่นอย่างสะใจของเจสัน สเตทแธมแล้ว ในภาพยนตร์เรื่องนี้ผู้ชมยังจะได้พบกับเนื้อหาความมันส์ในส่วนของการหักเหลี่ยม เฉือนคม และชิงไหวพริบกันระหว่างบุคคล 2 กลุ่มอีกด้วย
5. นิค ไวลด์ ( Nick Wild )
จากในภาพยนตร์เรื่อง Wild Card ( 2015 )
เจสัน สเตทแธม และ ไซมอน เวสต์ ผู้กำกับมือโปร โคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้พวกเขาเตรียมที่จะพิสูจน์ และสร้างสรรค์ความมันส์ชนิดสะใจถล่มจอภาพยนตร์ทั้งโลก
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เจสัน สเตทแธม รับบทเป็น นิค ไวลด์ บอดี้การ์ดฝีมือพระกาฬแห่งลาส เวกัสที่พยายามพาตัวเองออกจากโลกของการพนัน ... วันหนึ่งเพื่อนของเขาอย่าง ดีดี ( โซเฟีย เวียร์การา ) โดนนักเลงทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ ซึ่งนิคค้นพบว่าหนึ่งในกลุ่มนักเลงนั้นเป็นลูกชายของหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียผู้ทรงอิทธิพล นิคจึงตัดสินใจออกไปจัดการสะสางแค้นกลุ่มมาเฟียที่ทำร้ายเพื่อนของเขาให้สิ้นซาก แม้นั่นจะหมายถึงการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกก็ตาม
จุดเด่นในการกลับมาแอ็คชั่นสุดระห่ำในครั้งนี้ก็คือ … “ Wild Card ” นั้นถือได้ว่าเป็นโปรเจคภาพยนตร์ที่เจสันทุ่มเทสุดชีวีต ! เขา และไซมอน เวสต์ ต้องใช้เวลาเตรียมงานสร้างนานถึง 5 ปี รวบรวมทั้งไอเดีย และประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อมาพัฒนาเรื่องราว และออกแบบฉากแอคชั่นต่างๆ ให้ออกมาพร้อมความแปลกใหม่การันตีความมันส์ระดับมาสเตอร์พีซที่เหล่าผู้ชมจะต้องอึ้ง และทึ่งชนิดที่เกือบลืมหายใจ
"Wild Card มือฆ่าเอโพดำ" มีกำหนดการแอ็คชั่น สร้างความมันส์กระหน่ำแบบนัน-สต๊อป 18 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์