สวัสดีครับ เพื่อนที่รัก นักเสพย์ความเอนเตอร์เทนเม้นท์ ผ่านสื่อ อินเตอร์เน็ท กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ เมื่อมีภาพยนตร์ที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม ” ก็จะนำมาวิจารณ์ให้เหล่าเพื่อน ๆ ใน www.nangdee.com ได้อ่านกันนะครับ
วันนี้ จะมาเล่าความประทับใจ ความชอบ ให้ฟังก็แล้วกัน สำหรับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ The Devil Wears Prada “ นางมารสวมพราด้า ”
ตัวภาพยนตร์
เป็นภาพยนตร์แนว ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรดี ผมขอเรียกว่า ดรามา/คอมเมดี้ ก็แล้วกัน ภาพยนตร์กล่าวถึง เรื่องราวของ แอนเดรีย สาวสวยเพิ่งเรียนจบหมาด ๆ แต่พกความมั่นใจเต็มร้อย พร้อมความเชยเปิ่น ที่ต้องการเดินเข้าสู่วงการ นิตยสารแฟชั่น ชื่อดัง RUNWAY ที่มี เจ้าแม่แฟชั่น อย่าง มิแรนด้า เป็นคนปลุกปั้น นิตยสารเล่มนี้ ให้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งของนิตยสารแฟชั่น โดยที่ แอนเดรีย ต้องไปรับหน้าที่ผู้ช่วย มิแรนด้า จึง ทำให้เธอต้อง ปรับลุค ตัวเองจากความเชย ให้เป็น ความเปรี้ยวทันสมัย ความเฉื่อยชา ต้องกลายเป็น กระฉับกระเฉง ความอ่อนต่อโลก ต้องกลายเป็นความเขี้ยว ชนิดลากดิน ด้วยการหล่อหลอม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และ ปลุกปั้น ให้เธอ โดยเจ้านายจอมโหดของเธอ โดยเธอ มิอาจจะได้รู้ตัวเลย และ เมื่อเธอรู้ตัว ก็เกือบจะสายเกินไป
บทภาพยนตร์
พอทราบเลา ๆ ว่า สร้างมาจากหนังสือขายดีเล่ม นึงนะครับ แต่ด้วยความที่ภาพยนตร์อะไรก็แล้วแต่ ถ้าสร้างมาจากหนังสือ นิยายขายดี มักจะโดนติฉินเสียมากกว่าจะชม เพราะมักจะไม่สามารถสร้างได้ดีเท่ากับหนังสือ แต่เรื่องนี้ ผมก็ไม่ค่อยสนใจครับ เพราะเราไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อน แต่ตามข่าวว่า ในอเมริการได้รับการตอบรับดีพอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีติดในใจนิดนึงว่า ภาพยนตร์จะออกมาน่าเบื่อหรือเปล่า เพราะครั้งแรก ผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นแนว คอมเมดี้ ด้วย อีกทั้งผมยังเป็นคนไม่ได้เข้าถึง แฟชั่น มากมาย ดังนั้นทั้งที่อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาก แต่ ก็ยังไม่ได้ไปดูซักที ทำให้ช้าไปเลยครับ แต่ที่อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะ ดาราขวัญใจผมแสดงด้วยครับเลยอยากดู คุณ ๆ คงคิดว่า เป็น นางเอก แอน แฮ็ทธาเวย์ ล่ะ ซิ เสียใจด้วยครับ ทายผิด ขวัญใจผมคือ เมอรีล สทรีพ ครับ ซึ่งผมชอบบทบาทการแสดงของเธอมากกว่าหน้าตาที่ดูแล้ว เหมือน ตัวร้ายแบบมาดดีซะมากกว่า
การกำกับ
เดวิด แฟรงค์เกล คงไม่ต้องบรรยาย กันมาก เพราะ ผู้กำกับคนนี้ เคยประสบความสำเร็จ ได้ใจนักชมภาพยนตร์ มาแล้วจาก เซ็กส์แอนด์เดอะซิตี้ มา แล้ว และเรื่องนี้ เค้าก็ทำได้ดีมาก ๆ ผมว่าการเล่าเรื่องด้วยภาพทำได้ดีมาก ๆ พร้อมทั้ง ความไม่เยิ่นเย้อ เสียเวลา การลำดับภาพ และ อีกทั้งคุณภาพของการถ่ายภาพ มุมภาพ ทำได้ดีมาก ๆ รวมไปถึง อาร์ตไดเรคชั่น ที่ต้องกำหนด เรื่องราวของฉากในเรื่อง ก็สามารถทำได้ดูเก๋ทันสมัย สมกับเป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วย ความดุเดือดของแฟชั่น ยุคใหม่ ความสวย ความเนี๊ยบเนียน และ พ่วงด้วย ดารา คุณภาพเช่นนี้ ย่อมทำให้ภาพยนตร์มีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง
ดารา
สำหรับ ดาราอย่าง เมอรีล สทรีพ นั้น เธอมีชื่อเสียงมากมายเป็นประกันอยู่แล้ว ผมชอบเธอมาก ๆ จากภาพยนตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์แนวตลกร้ายอย่าง เดด บีคัม เฮอร์ แนว แอคชั่นอย่าง เดอะ ริเวอร์ไวล์ด และ อีกหลาย ๆ เรื่อง ที่ไม่ว่าเธอจะแสดงบทบาทใด ก็สามารถเข้าถึง และ กลืนตัวเองเข้าไปอยู่ใน ตัวละคร ตัวนั้นได้อย่างประหลาด เพราะฉะนั้นคงวางใจได้ในฝีมือการแสดงของเธอในเรื่องนี้ ผมถือว่าเธอโดดเด่นมาก ๆ และ ทำให้ตัวเธอเสมือนเป็นนางมารยุคใหม่จริง ๆ ดูไปชอบเธอไป แต่ก็เกลียดเธอ (ในบทบาท)ไปพร้อม ๆ กัน ส่วนข้าง แอน แฮทธาเวย์ คนนี้ ในส่วนของการแสดง เธอก็สามารถทำได้ดี แต่สิ่งที่เธอทำได้ดีมากกว่าคือ การ ปรับตัวให้เข้ากับ ตัวละคร ที่พอเธอจะใส่ชุดเสื้อผ้าธรราดาก็จะดู บ้าน ๆ เปิ่น ๆ โบราณ ๆ แต่พอเธอปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง เฮ้อ....เธอก็งามราวกับนางฟ้าได้ไม่ยากเย็นเลย ชักหลงรักเธอเข้าซะแล้ว ผู้หญิงอะไร ตาโต ปากกว้าง ตัวใหญ่ แต่ ไม่ขี้เหร่ ทุกอย่างมารวมกันกลับทำให้เธอดูดี๊ ดูดี น่ารักสมบทบาทครับ ผมว่าเธออนาคตไกลเลยทีเดียว เมื่อดูวิวัฒนาการของเธอ จาก ปริ๊นเซส ไดอารี มาจนถึงเรื่องนี้
ภาพรวม
จริง ๆ น่าจะเป็นภาพยนตร์ ที่คนในวงการ แฟชั่น หรือ สาวสวยนักช็อป ทั้งหลาย น่าจะอยากไปดู และ ชอบ แต่ไป ๆ มา ๆ ผมถามน้อง ๆ หลายคนในที่ทำงาน ไปดูมาแล้วก็ชอบกันทุกคน ผมว่าหลาย ๆ คนคงชอบในบทบาทการแสดงมากกว่า ในเรื่องของ แฟชั่น คอสตูม ของภาพยนตร์ ที่มีมาให้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ มันสามารถให้ แง่คิด มุมมอง หลาย ๆ อย่าง สำหรับคนทำงานออฟฟิศ อย่างเรา พวกมนุษย์เงินเดือน ที่มีเจ้านานสุดแสบสันต์ อย่างในภาพยนตร์ ว่าทำไม เมื่อ เค้าสูง ๆ ขึ้นไปในตำแหน่งแล้ว เค้าถึงได้เป็นเช่นนั้น แล้วเรา ๆ ที่อยู่ภายใต้คำสั่งชนิดเคร่งครัด รู้สึกอย่างไร และจะปรับตัวอย่างไร ได้ดีพอสมควร
สุดท้าย
ต้องบอกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ คุณภาพ อีกเรื่อง ที่น่าดูมาก ๆ หากท่านพลาดไป ก็อาจจะสรรหาเป็น ภาพยนตร์แผ่นมาดูก็ได้ เมื่อเค้าออกเป็นแผ่นมาขาย และผมก็คงซื้อเก็บเป็น ภาพยนตร์ สะสมส่วนตัวเหมือนกันครับ คุณ ๆ ล่ะครับ อย่าแอบอ่าน อย่างเดียว อย่าเอาเปรียบผมนะ เขียนมาให้อ่านตั้งเยอะ เล่าความรู้สึกให้ผมฟังมั่งนะครับ นัวฟิล์ม จะรอนะครับ.
ความคุ้มค่า
และ ความชอบส่วนตัวผมให้ 8 คะแนน เต็ม 10 ครับ
แล้วคราวหน้า เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม“ จะ กลับมาเล่าให้ฟัง เช่นเคยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ เข้ามาอ่านแล้ว โพสท์เข้ามา บอกความคิดเห็นกันบ้างนะครับ ว่า ชอบ หรือไม่ชอบ อย่างไร หรือ อยากให้ วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอะไร ก็บอกกันนะครับ สวัสดีครับ
"นัวฟิล์ม"