เมื่อเกือบ 25 ปีที่แล้ว ริดลีย์ สก็อตต์  ผู้กำกับชื่อดัง ได้ปลุกชีพและเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของแนวภาพยนตร์ที่เป็นที่รักของแฟนๆ ด้วย Gladiator อีพิคอิงประวัติศาสตร์ที่กวาดรายได้ถล่มทลายถึงกว่า 465 ล้านเหรียญทั่วโลก และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสองในปี 2000 Gladiator ที่ส่งให้รัสเซล โครว์ นักแสดงนำของเรื่องโด่งดังไปทั่วโลก ได้รับการเสนอชื่อชิง 12 รางวัลออสการ์และคว้ารางวัลมาได้ 5 รางวัล ซึ่งรวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย สองทศวรรษให้หลัง Gladiator II ได้นำนักรบผู้กล้ามาต่อต้านความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมันในนามของความเข้มแข็งและเกียรติยศ

ฉากตระการตา เครื่องแต่งกายวิจิตร เอฟเฟ็กต์น่าอัศจรรย์และการต่อสู้ประชิดตัวที่ชวนตะลึงผสมผสานกันก่อเกิดเป็นประสบการณ์น่าตื่นเต้น ที่สร้างขึ้นเพื่อรับชมทางจอขนาดใหญ่ สก็อตต์ ได้รวมนักแสดงและทีมงานที่จะเนรมิตชีวิตให้กับเรื่องราวนี้ด้วยซีเควนซ์แอ็กชัน เอฟเฟ็กต์และงานสตันท์ลุ้นระทึก ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในปี 2000 ตั้งแต่การรุกรานทางน้ำจากป้อมปราการโบราณมาจนถึงยุทธนาวีที่สมจริงตามประวัติศาสตร์ ที่เกิดขึ้นในโคลอสเซียมที่ถูกน้ำท่วม Gladiator II เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ท้าทายทีมงานที่มีความสามารถสูงสุดของวงการให้ทุ่มสุดฝีมือเพื่อเนรมิตชีวิตให้กับวิสัยทัศน์ที่พิเศษสุดของสก็อตต์ 

 

“การสร้างหนังสเกลขนาดนี้ทำให้เกิดความตื่นเต้นมากมายครับ” สก็อตต์ กล่าว “คุณต้องใช้ชีวิตอยู่กับความตึงเครียดมหาศาลเลย จริงๆ แล้ว คุณต้องยอมรับมันครับ! ผมเองก็ยอมรับมัน มันทำให้ผมโบยบินไปได้ หนังเรื่องนี้ต้องอาศัยรายละเอียดที่เจาะลึกมากๆ แล้วยิ่งคุณเผยแพร่แนวคิดของคุณออกไปมากเท่าไหร่ คุณก็จะพบการผสมผสานกันที่มากขึ้นด้วยครับ”

การเดินทางสู่จอเงินของภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อกว่า 20 ปีก่อนในตอนที่ผู้อำนวยการสร้างดักกลาส วิคได้รับงานวิจัยน่าทึ่งที่อธิบายการที่ถนนทุกสายในกรุงโรมโบราณมุ่งหน้าสู่โคลอสเซียม “จักรพรรดิและทาส นักการเมืองและสามัญชนต่างก็ไชโยโห่ร้องไปกับภาพนองเลือดที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยความเทิดทูนบูชาในแบบที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีของอาณาจักรไปได้เลยล่ะครับ” วิคอธิบาย

วิคเข้าหาดรีมเวิร์คส์ ผู้ชื่นชอบโอกาสในการได้ปรับโฉมหน้าให้กับอีพิคดาบและรองเท้าสานเรื่องนี้สำหรับผู้ชมรุ่นใหม่และสตูดิโอก็ได้ซื้อข้อเสนอที่ยังไม่ได้มีการเขียนขึ้นมาจากมือเขียนบทเดวิด ฟรานโซนี วิคได้เขียนร่างบทภาพยนตร์ขึ้นมาร่วมกับดรีมเวิร์คส์ พวกเขาได้เสนอแนวคิดนี้ให้กับสก็อตต์ และเรื่องราวที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีกแล้ว

“หนังภาคแรกกลายเป็นความสำเร็จทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่สำหรับคอหนังทั่วโลก” ผู้อำนวยการสร้างไมเคิล พรัส ประธานฝ่ายภาพยนตร์ที่สก็อตต์  ฟรี โปรดักชันส์ ผู้ร่วมงานกับสก็อตต์ อย่างใกล้ชิดนานกว่าหนึ่งทศวรรษ กล่าว “โลกของอาณาจักรโรมันและตัวละคาที่ตราตรึงใจเราจาก Gladiator ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม การจำลองเรื่องพวกนั้นขึ้นมาในสเกลที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเป็นสิ่งจำเป็นครั้ง เราอยากได้แรงจูงใจสำหรับการแก้แค้นที่ทรงพลังแบบเดียวกันแต่มันก็ต้องเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ ทันสมัยและไม่เหมือนใครด้วย มันใช้เวลานานกว่าที่ใครๆ คาดคิดเอาไว้ แต่แนวคิดเยี่ยมๆ และดรามาที่มีความเป็นมนุษย์ก็ต้องใช้เวลาในการรังสรรค์ หวังว่าผลลัพธ์ที่ได้จะบ่งบอกได้อย่างชัดเจนนะครับ”

 

มีการพูดคุยกันเรื่อง Gladiator II นับตั้งแต่ความสำเร็จเบื้องต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตามที่สก็อตต์ ได้กล่าวไว้ “ความนิยมของ Gladiator มีแต่จะขยายออกไปครับ” เขาอธิบาย “หนังเรื่องนี้อยู่ในความคิดของสาธารณชน ผมรู้ว่าเราน่าจะพิจารณาเรื่องการสร้างซีเควล แต่เราใช้เวลาหลายปีมากๆ ในการคิดหาคำตอบว่าเรื่องราวนั้นจะเป็นยังไงน่ะครับ” 

“เรารู้ว่าเราจะต้องทำให้เหนือกว่าแอ็กชันที่สะกดใจของภาคแรก แต่ก็ต้องพยายามถ่ายทอดความสนิทสนมทางอารมณ์ออกมาให้ได้ด้วยค่ะ” ผู้อำนวยการสร้างลูซี ฟิชเชอร์ ผู้เริ่มพัฒนาภาพยนตร์ภาคใหม่นี้ร่วมกับวิค คู่หูของเธอในปี 2001 กล่าว “เราใช้เวลานานกว่าจะได้เรื่องราวที่เราคิดว่าน่าจะคู่ควรกับการเป็นซีเควลของ Gladiator แต่พอเรายึดติดกับตัวละคร ลูเชียส ที่เป็นคนหนุ่มผู้โกรธเกรี้ยว ถูกเนรเทศและถูกทอดทิ้ง และมุ่งมั่นที่จะทำลายเมืองที่ทั้งสร้างและหักหลังเขา เรื่องราวของเราก็เริ่มเดินหน้า ลูเชียสเป็นเหมือนเจ้าชายผู้หลงทาง เขาต้องการจะไปที่ไหนๆ ก็ได้ที่ไม่ใช่โรม แต่ถนนทุกสายกลับนำเขาไปที่นั่น”

วิคกล่าวว่า นั่นให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องราวที่คู่ควรกับการบอกเล่า “แต่ทันทีที่เราตระหนักว่าหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราจะต้องเผชิญคือปัญหาหนักใจที่ชาวโรมันโบราณรู้กันดี” เขากล่าว “ผู้ชมได้เห็นการต่อสู้ที่อลังการมาหลายต่อหลายครั้งและความกระหายที่อยากจะเห็นอะไรมากกว่านี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจดับลงได้ ไม่ว่าเราจะสร้างอะไรขึ้นมา สิ่งนั้นจะต้องนำเสนอความลุ้นระทึกแบบใหม่ๆ เป็นความน่าตื่นตาตื่นใจและตราตรึงใจอย่างแท้จริงครับ”

 

 

วิคกล่าวว่านั่นเป็นเรื่องราวที่คุ้มค่าที่จะบอกเล่า “แต่ไม่นานเราก็รู้ว่าความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งที่เราจะต้องเผชิญคือปัญหาที่ชาวโรมันโบราณรู้ดี” เขากล่าว “ผู้ชมได้เห็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่มาหลายครั้งแล้ว และความกระหายของพวกเขาที่อยากได้อะไรมากกว่านี้ก็ไม่สามารถดับได้ ไม่ว่าเราจะสร้างอะไรขึ้นมาก็ต้องมอบความตื่นเต้นเร้าใจใหม่ๆ ที่น่าดึงดูดใจ เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงสำหรับทุกยุคทุกสมัย” ในปี 2021 สก็อตต์ ได้ติดต่อเดวิด สการ์พา ผู้เขียนบทภาพยนตร์ดรามาอาชญากรรมเรื่อง All the Money in the World ของผู้กำกับในปี 2017 ให้สร้างเรื่องราวที่น่าสนใจโดยอิงจากเรื่องราวของปีเตอร์ เคร็ก (มือเขียนบท Top Gun: Maverick) เรื่องราวเกิดขึ้น 15 ปีหลังจากการเสียชีวิตของแม็กซิมัส เดซิมัส เมอริเดียส ตัวละครของโครว์ในภาพยนตร์ต้นฉบับ การต่อสู้ในโคลอสเซียมกลายเป็นเรื่องที่อันตราย รุนแรง และน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น เนื่องจากฝูงชนกระหายเลือดเร่งเร้าให้จักรพรรดิฝาแฝดที่บ้าคลั่งไปสู่ระดับความโหดร้ายใหม่

จักรวรรดิโรมันยังคงเคลื่อนพลไปทั่วโลกอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อขยายพรมแดน ปล้นสะดมทุกวัฒนธรรมที่ขวางทาง และบังคับให้ผู้รอดชีวิตต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของพวกเขาในสังเวียน “ผมรู้จักและรักหนังต้นฉบับครับ” สการ์พา ผู้เขียนบทภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดเรื่อง Napoleon ของสก็อตต์  กล่าว “เมื่อริดลีย์ติดต่อมาหาผม ผมก็รู้สึกตื่นเต้นมาก Gladiator เป็นหนังคลาสสิกที่ได้รับการยกย่องและเป็นหลักยึดสำหรับภาพยนตร์แอ็กชันอิงประวัติศาสตร์ ผมทั้งรู้สึกเป็นเกียรติและกังวลเล็กน้อยกับการร่วมงานกับผู้ที่สร้างโลกใบนั้นขึ้นมา ริดลีย์มีจุดยืนด้านการกำกับที่เข้มแข็งมาก และวิสัยทัศน์ของเขาถือเป็นหัวใจสำคัญของหนังเรื่องนี้ครับ”

 

 

สการ์พายังกล่าวถึงความท้าทายโดยธรรมชาติในการสร้างภาคต่อของภาพยนตร์ที่ตัวละครหลักส่วนใหญ่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เขาก็พบโอกาสสร้างสรรค์มากมายในการหยิบเรื่องราวนี้ขึ้นมาอีกครั้งในเวลาหลายปีต่อมา “เราเริ่มต้นด้วยการวางตัวละครหลักของเรา ลูเชียส ในสถานการณ์ที่ตรงข้ามกับเรื่องราวของแม็กซิมัสโดยสิ้นเชิง” มือเขียนบทกล่าว “แม็กซิมัสเริ่มต้นจากการเป็นผู้นำในกองทหารโรมันที่ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพอนารยชน ในขณะที่ลูเชียสเป็นอนารยชนที่ปกป้องบ้านเมืองของเขาจากพวกโรมันที่รุกราน แม็กซิมัสมีความภักดีต่อจักรพรรดิ แต่ลูเชียสเกลียดกรุงโรมและทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับกรุงโรม แต่สุดท้ายแล้วทั้งคู่กลับถูกบังคับให้ฆ่าหรือถูกฆ่าเพื่อความบันเทิงของฝูงชน”

การค้นคว้าเชิงลึกจำนวนมากที่ทำเอาไว้สำหรับภาพยนตร์ภาคแรกยังคงมีให้สการ์พาได้ใช้ต่อยอด “เราเริ่มต้นด้วยกรุงโรมตามประวัติศาสตร์ที่แท้จริง” เขากล่าว “ลูเชียสก็ไม่ใช่บุคคลที่มีชีวิตอยู่จริงในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับแม็กซิมัส แม้ว่ามาร์คัส ออเรเลียส, คอมโมดัส และลูซิลลาจะเป็นบุคคลจริงก็ตาม จักรพรรดิฝาแฝดของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างคาราคัลลาและเกตาก็มีตัวตนอยู่จริงเช่นกัน แม้ว่าเราจะใช้เสรีภาพในการสร้างสรรค์บางอย่างในนำเสนอความเป็นปรปักษ์ระหว่างทั้งคู่น่ะครับ”

 

Gladiator II
แกลดดิเอเตอร์ นักรบผู้กล้า ผ่าแผ่นดินทรราช 2
เข้าฉายแล้ว วันนี้ ในโรงภาพยนตร์