สวัสดีเพื่อนๆ ชาวหนังดีดอทคอม  อากาศหนาวมาแล้วนะครับ เมื่ออากาศเริ่มหนาวฤดูแห่งความเหงาก็มาเยือน (ใช่เหรออ) ก่อนอื่นแสดงยินดีกับหนังไทยเรื่อง ไอฟาย..แต้งกิ้ว..เลิฟยู้ เพียงแค่ฉายไปได้หนึ่งสัปดาห์ก็กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลายกวาดรายได้เกือบสองร้อยล้าน แล้วยังคงเก็บรายได้ไปอย่างต่อเนื่อง และในสัปดาห์นี้มีภาพยนตร์ฟอร์ยักษ์ The Hobbit: The Battle of the Five Armies – เดอะ ฮอบบิท: สงคราม 5 ทัพ   ภาพยนตร์ไตรภาคตอนที่ 3 ที่จะเป็นบทสรุปของการผจญภัยของบิลโบ แบ๊กกินส์และผองเพื่อน  เรามาทราบเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ของหนังเรื่องนี้ก่อนที่จะไปชมภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายบ้านเรา 18 ธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์   

• The Hobbit หรือ There and Back Again ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1937 ในรูปแบบของนิทานก่อนนอน
   
• ในผลงานใหม่ของไตรภาคยังเป็นการกลับมาร่วมงานระหว่างผู้กำกับฯ และนักแสดงชื่อดังจาก “The Lord of the Rings” ที่นานเกือบ 10 ปีหลังจากที่มีการฉาย เช่น เอียน แม็คเคลเลน ผู้รับบทพ่อมดแกนดัล์ฟเทา; เคท บลันเช็ตต์, ฮิวโก้ วีฟวิ่ง และ ออร์แลนโด บลูม ผู้รับบทเอลฟ์ผู้สูงส่งกาลาเดรียล, เอลรอนด์ และเลโกลัสตามลำดับ; คริสโตเฟอร์ ลี ผู้รับบทซารูมานพ่อมดขาว; เอียน โฮล์ม ผู้กลับมารับบทบิลโบ แบ๊กกิ้นส์ตอนแก่ และ แอนดี้ เซอร์คิส ผู้กลับมารับบทกอลลัมที่น่าจดจำจากภาคแรกเรื่อง “The Hobbit: An Unexpected Journey” รวมถึงเป็นผู้กำกับกองย่อยของภาพยนตร์ไตรภาค 
   
• ภาพยนตร์เรื่อง “The Hobbit: The Battle of the Five Armies” เป็นตัวแทนของการเดินทางขั้นสูงสุดของผู้กำกับฯ /ผู้ร่วมเขียนบท/ผู้อำนวยการสร้างฯ ปีเตอร์ แจ็คสัน ตลอด 16 ปีที่สร้างโลกมิดเดิ้ล-เอิร์ธเกือบ 100 ปีที่แล้วให้มีชีวิตขึ้นมา จากผลงานชิ้นโบว์แดงของเจ.อาร์.อาร์.โทลคีน เรื่อง The Hobbit และ The Lord of the Rings

• ผู้ร่วมงานกับแจ็คสันยังมีกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ที่สนิทกันและเหล่านักแสดงที่มาร่วมการผจญภัยครั้งใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางถ่ายทำทั่วนิวซีแลนด์นานถึง 9 เดือนเพื่อสร้างหนัง 3 เรื่องพร้อมกัน มีการฉายภาคแรก “The Hobbit: An Unexpected Journey” เมื่อปี 2012 อีก 1 ปีต่อมาตามด้วย “The Hobbit: The Desolation of Smaug” การเดินทางฉายภาพยนตร์ที่น่าสนใจครั้งนี้ได้มาถึงบทสรุปด้วยการฉายภาพยนตร์ภาคที่ 3 ซึ่งเป็นภาคสุดท้าย เรื่อง “The Hobbit: The Battle of the Five Armies”
   
• คณะคนแคระผู้ซื่อสัตย์ของธอริน ได้แก่ บาลิน (เค็น สต็อตต์), ดวาลิน (กราแฮม แม็คทาวิช), ฟิลี (ดีน โอ’กอร์แมน), คิลี (ไอดัน เทอร์เนอร์), โบเฟอร์ (เจมส์ เนสบิตต์), บอมเบอร์ (สตีเฟ่น ฮันเตอร์), ไบเฟอร์ (วิลเลียม เคอร์เชอร์), โออิน (จอห์น คอลเลน), โกลอิน (ปีเตอร์ แฮมเบิลตัน), โดรี (มาร์ค แฮดโลว์), โนรี (เจ็ด โบรฟี่) และโอรี (อดัม บราวน์)
   
• ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง “The Hobbit” ถ่ายทำพร้อมกันนานกว่า 266 วันในช่วงแรกของการถ่ายทำ โดยมีนักแสดงและทีมงานกลับมารวมตัวกัน 10 สัปดาห์ก่อนจะเริ่มถ่ายทำส่วนขยาย “The Hobbit: The Battle of the Five Armies” พร้อมทั้งมีการถ่ายการแสดงที่โรงถ่ายแคปเจอร์เพิ่ม ตลอดการถ่ายทำคณะผู้ชำนาญและทีมงานฝ่ายเทคนิคได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทั้ง 8 เอเคอร์ ซึ่งรวมถึงโรงถ่าย 6 แห่งของ Stone Street Studios บน Miramar Peninsula และเดินทางทั่วนิวซีแลนด์จนเรียกได้ว่าทั่วโลกของมิดเดิ้ล-เอิร์ธในหนัง เพื่อทำให้การต่อสู้แห่งตำนานซึ่งเป็นหัวใจหลักของภาพยนตร์มีชีวิตชีวา
   

​
 

• ฉากภายนอกที่ใหญ่สุดที่สร้างขึ้นมาเพื่อภาพยนตร์ไตรภาคคือเมืองแห่งเดลที่มีขนาด 1,600 ตารางฟุต ซึ่งเฮนนาห์และทีมงานของเขาได้สร้างขึ้นมาบนยอด Mount Crawford ที่มองลงไปจะเห็นเมืองเวลลิงตัน ฉากที่ขยายตัวออกไปต้องอาศัยช่างไม้และช่างฝีมือ 200 คนใช้เวลาสร้างนานกว่า 12 สัปดาห์ด้วยช่างฝีมือที่ใช้หลายวิธีในการก่อสร้าง ตั้งแต่เทคนิคแบบสมัยก่อนไปจนถึงการตัดด้วยเลเซอร์ที่ล้ำสมัยเพื่อสร้างบ้าน 36 หลัง กำแพง รวมถึงพระราชวังและห้องโถงใหญ่ของกษัตริย์ด้วย 
   
• ฉากการพังทลายของเมืองทะเลสาบที่สร้างขึ้นด้วยไม้เหมือนถูกทำลายโดยสม็อก ได้รับความเสียหายจากเปลวไฟอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่อง “The Hobbit: The Battle of the Five Armies” เฮนนาห์ได้สร้างเมืองทะเลสาบที่สร้างได้จริงขึ้นมาเป็น 2 ฉาก ฉากหนึ่งอยู่ที่โรงถ่าย Stone Street มีขนาด 25,000 ตารางฟุต ส่วนอีกฉากหนึ่งอยู่ที่ K Stage มีขนาดเกือบ  13,000 ตารางฟุตจากจุดสูงสุด

​

 

• อาซ็อกและบอล์กเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค ผสมผสานกับการแสดงแบบจับการเคลื่อนไหวของมานู เบ็นเน็ตต์ และ จอห์น ทูอิ ตามลำดับ
   
• “The Last Goodbye” เพลงประกอบภาพยนตร์ “The Hobbit: The Battle of the Five Armies”  ได้ บิลลี่ บอยด์ นักแสดงที่ให้เสียงพากย์ Hobbit Peregrin Took หรือ พิพพิน ในภาพยนตร์ไตรภาค “The Lord of the Rings” มาร่วมแต่งเพลงและร้องเพลง 
   
• ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง “The Hobbit” เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมิดเดิ้ลเอิร์ธ 60 ปีในเรื่อง “The Lord of the Rings”

•