เรื่องราวถูกวางเอาไว้ในปี 1985 MaXXXine คือภาพยนตร์ที่สาดแสงสปอตไลต์ไปที่ตัว แม็กซีน มิงซ์ ผู้หญิงคนสุดท้ายที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ฆาตกรรมนองเลือดในบ้านไร่ที่เป็นบทสรุปภาพยนตร์สยองขวัญสุดโหดที่วางเหตุการณ์เอาไว้ในยุค ‘70s อย่าง X แม็กซีนที่บัดนี้ได้ทำงานอยู่ในฮอลลีวู้ด และกำลังโด่งดังสุดๆ ในโลกหนังโป๊ เธอวางเป้าหมายว่าจะทะยานสู่จุดสูงสุดของอาชีพ นั่นก็คือการพาตัวเองก้าวข้ามสู่การเป็นดาราดังในภาพยนตร์จอเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย
“เธอตัดสินใจจะไล่ตามความฝันของตัวเอง ไม่มีอะไรหรือใครจะหยุดเธอจากการได้มีชีวิตอย่างที่เธอต้องการได้ค่ะ” มีอา ก็อธบอก “ตอนที่เราได้เจอเธอในช่วงกลางยุค ‘80s เธอได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของตัวเอง อย่างเช่นความทะเยอทะยาน แม้แต่ความเชื่อมั่นในความสามารถของเธอที่มีมากขึ้นเนื่องจากความสำเร็จของเธอในภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ เธอได้สร้างชีวิตใหม่นี้ให้กับตัวเองในแอลเอ แล้วจู่ๆ เธอก็ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต นั่นก็คือการแสดงภาพยนตร์สยองขวัญภาคต่อ”
เธอได้รับเลือกให้แสดงบทนำในภาพยนตร์เรื่อง The Puritan 2 ซึ่งกำกับโดยผู้กำกับชาวอังกฤษที่เป็นคนตรงไปตรงมา ซึ่งรับบทโดย เอลิซาเบธ เดบิคกี้ MaXXXine เพิ่มความเข้มข้นและขยายโลกของภาพยนตร์สองภาคก่อนออกไปด้วยโลเกชั่นที่ใหญ่มากขึ้น และมีทีมนักแสดงสมทบที่เป็นนักแสดงชื่อดัง ที่รวมถึงเควิน เบคอน และจิอันคาร์โล เอสโพซิโต และยังมีตัวผู้ร้ายที่แสนลึกลับที่จ้องทำร้ายเหล่าดาราหน้าใหม่ เป็นนักไล่ล่ายามราตรีที่เคยทำให้ชาวเซ้าเธิร์นแคลิฟอร์เนียเกิดความหวาดกลัวในยุค ‘80s มาแล้ว
“MaXXXine เปรียบเสมือนจดหมายรักที่เขียนถึงทศวรรษ 1980s, ภาพยนตร์ยุค ‘80s และภาพยนตร์โดยทั่วไปด้วยค่ะ มันคือภาพยนตร์ที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มภาพยนตร์อีกหลายเรื่องค่ะ” เดบิคกี้กล่าว เธอเองก็เพิ่งจะมีผลงานระดับคว้ารางวัลด้วยการรับบทเป็นบุคคลที่ทุกคนชื่นชมจากยุค ‘80s อย่างเจ้าหญิงไดอะน่าแห่งเวลส์ ในเรื่อง The Crown “ภาพยนตร์ภาคที่ 3 นี้สร้างโดยคนที่ชื่นชมภาพยนตร์และวิธีการสร้างภาพยนตร์ และมีความเคารพในสิ่งที่มีคนสร้างออกมาก่อน”
“MaXXXine คืองานที่พัฒนามาจาก X และ Pearl ซึ่งเป็นผลงานแสดงฝีมือของ มีอา ก็อธ ในแบบที่แตกต่างไปจากภาพยนตร์สองภาคแรกครับ” ไท เวสต์กล่าว “แม็กซีนอยู่ในจุดที่แตกต่างออกไปในชีวิตของเธอ อยู่ในจุดสุดยอดของความโด่งดัง ซึ่งก็สะท้อนเรื่องราวของ Pearl ในแบบที่ไม่ธรรมดา เธอเปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับภาพยนตร์ชุดนี้ เช่นเดียวกับความโด่งดังของมีอาเอง เป้าหมายของภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องนี้ก็คือการเน้นให้เห็นถึงฝีมือในงานสร้างภาพยนตร์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการแสดง มันน่าตื่นเต้นที่ได้มานั่งดู มีอา ทำงานในภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องนี้ ซึ่งเผยให้เห็นถึงฝีมือที่มีความหลากหลายและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องในการแสดงและในพรสวรรค์ของเธอ เรื่องสำคัญสำหรับเราทั้งคู่ก็คือ การพยายามที่จะไม่ทำอะไรซ้ำเดิมในภาพยนตร์แต่ละตอนครับ”
19 กรกฎาคม 2567 เฉพาะที่ House Samyan