แค่ชื่อเรื่องก็ตอกย้ำความเป็นลูกอีสานแบบของแทร่ สำหรับละคร ทายาทไหทองคำ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่ก่อนหน้านี้ทางผู้จัดและผู้กำกับ "ถา สถาพร นาควิไลโรจน์" ได้ออกมาการันตีถึงความครบรส พร้อมชูวัฒนธรรมอีสาน เล่าผ่านเรื่องราวสุดดรามาเข้มข้น ถ่ายทอดโดยนักแสดงมากความสามารถแน่นจอ และยังมีแพสชันสุดแรงกล้าในการผลักดันน้ำปลาร้าไทย ที่เป็นโจทย์หลักในละครเรื่องนี้ ให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ หรือ ได้เป็นหนึ่งในกระบอกเสียงในการเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารการกินแบบชาวอีสานให้เนียน แฝงไปกับเรื่องราวแบบไม่ยัดเยียดคนดู ซึ่งล่าสุด ละครเรื่องนี้ก็ได้ออกอากาศไป 6 อีพี แล้ว สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู วันนี้เราเลยขอมาแชร์ 5 เหตุผล ที่ไม่ควรพลาดดูละครเรื่องนี้ แต่จะมีเหตุผลอะไรกันบ้างไปดูกัน
เป็นละครแนวอีสานที่ตอบโจทย์คนทุกภูมิภาค
แน่นอนว่าละครเรื่อง ทายาทไหทองคำ ไม่ใช่แค่ทำมาเพื่อชาวอีสาน แต่ทำมาเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ที่มีความเลิฟในละครดรามาเข้มข้นได้ดู เพราะถึงแม้ว่าละครทายาทไหททองคำ จะเล่าเรื่องแบบเบสิกละครไทย แต่ความเลิศอยู่ที่ มีการเล่าถึงเรื่องราวที่มีความหลากหลายแง่มุม ทั้งความหลากหลายของภาษา ลักษณะวัฒนธรรม วิถีชีวิต บริบททางสังคม โดยเฉพาะเรื่องภาษาที่ปฏิเสธไม่ได้ คือแกนหลักของการนำเสนอ แต่ก็ทำให้ภาษามีความเข้าใจที่ง่ายขึ้นด้วยการใส่มีซัพไตเติ้ล ที่ช่วยให้เข้าใจในภาษาถิ่นของภาคอีสานอย่างมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มดูได้ทุกเพศทุกวัย
รวมเหล่านักแสดงซุปเปอร์แมสเมืองไทย รุ่นเล็กรุ่นใหญ่จัดเต็ม
คำว่ารวมนักแสดง ระดับซุปเปอร์แมส คำนี้ไม่เกินจริง เพราะแต่ละคนถ้าพูดชื่อไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน ทั้งรุ่นเล็ก-รุ่นใหญ่ที่จะมาสร้างความหรรษาให้ม่วนกันคับจอ ได้ "อั๋น อัครพรรฒ" ประกบคู่กับ "แป้ง มิตรชัย" พร้อมประชันฝีปาก กับ "ต้นข้าว อาร์สยาม" จะมาจับคู่แบบตบจูบกับนักแสดงน้องใหม่ "สกาย สุทธินันท์" ทั้งยังมี น้อย โพธิ์งาม, รุ่ง สุริยา, มนต์สิทธิ์ คำสร้อย, ลูกน้ำ พาเมล่า, เอ ไชยา, อ๊อฟ ศุภณัฐ, เปรี้ยว อนุสรา, ธงธง มกจ๊ก, โบว์ เบญจศิริ, ตวง สาวิกา, เก่ง ชัชวาล, อ้วน รีเทิร์น, หงส์ สุชาดา, เวนย์ ฟอลโคเนอร์ และนักแสดงท่านอื่น ๆ อีกมากมาย จัดเต็มพร้อมใส่ความบันเทิงแบบครบครัน ที่กล้าพูดได้เลยว่าคุณจะเพลิดเพลินและอินไปกับการแสดงของพวกเค้าได้ไม่ยากอย่างแน่นอน
เมโลดรามา เคล้าน้ำตา แทรกด้วย ความคอมเมดี้
ตอกย้ำความเป็น 1 ของละครช่อง 8 ด้วยละครเรื่อง ทายาทไหทองคำนี้ เป็นละครอีสานแนว เมโลดรามา ร้อนแรง ที่มีส่วนผสมสอดแทรกกับคอมเมดี้ อย่างลงตัว มีนิยามการนำเสนออย่างสั้น ๆ เล่าอย่างจัดจ้าน ไปกับ ความรัก ความริษยา เรียกได้ว่ามีครบทุกรส มันทุกอารมณ์ มีอุปสรรคระหว่างความรักของ จิณ รับบทโดย (อั๋น อัครพรรฒ) และ มะลิ (แป้ง มิตรชัย) ของทั้งคู่ให้ลุ้นตลอดเรื่อง รวมไปถึงเรื่องความลับสายเลือดที่แท้จริง ความลุ้นลูกและหลานแท้ๆ จะกลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัว จะต้องเจออุปสรรคอะไรอีกมากมาย แต่ละเรื่องราวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นสุดๆ ซึ่งอาจจะทำให้คนดูอย่างเรา ๆ ปรับอารมณ์แทบไม่ทัน เพราะ เดี๋ยว ทุกข์ เดี๋ยวสุข เดี๋ยวหัวเราะ เปรียบได้เหมือนกับชีวิตจริงของคนเรานั่นเอง
ปลูกฝังอยู่บนพื้นฐานของครอบครัวเป็นสำคัญ
ทายาทไหทองคำ ละครที่สะท้อนถึงความรักความกลมเกลียวในครอบครัว การให้อภัย ลดทิฐิเป็นสิ่งสำคัญและสะท้อนออกมาได้ชัดเจน เปรียบเทียบความรักและกลมเกลียว เหมือนปลาร้าในไห เพราะไม่ว่าจะเป็นปลาร้าปากไห หรือปลาร้าก้นไห ถ้าอยู่ในไหเดียวกัน ยังไงรสชาติก็เหมือนกันเป็นสิ่งที่เรื่องนี้พยายามเน้นย้ำกับคนดู อีกทั้งเรื่องราวความรักที่มีหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะ ความรักของพ่อแม่ ที่มอบให้กับลูก เช่นเดียวกับความรักของ มะลิ รับบทโดย(แป้ง มิตรชัย) ที่มีให้กับพ่อและแม่ ที่คอยเลี้ยงดูและได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี แต่สภาพแวดล้อมที่เธออยู่กลับไม่ได้ร่ำรวย ตรงกันข้าม เดือนงาม รับบทโดย (ต้นข้าว อาร์สยาม) มีพร้อมทุกอย่าง แต่ดันถูกได้รับการเลี้ยงดูในทางที่ผิด ทำให้มีนิสัยแย่ ๆ แสดงออกมาให้ใครหลาย ๆ คนเห็น ซึ่งสิ่งนี้เอง คนดูจะได้รับบทเรียนจากละครเรื่องนี้ ที่ไม่ต้องรอให้เกิดในชีวิตจริง หรือหากในชีวิตจริงได้เกิดขึ้นแล้ว ก็สามารถนำบทเรียนที่เกิดขึ้นในละคร มาปรับใช้กับชีวิตของเราได้อีกด้วย
ผลักดัน น้ำปลาร้า ของบ้านเราให้กลายเป็นซอฟพาวเวอร์
หลายปีที่ผ่านมาวงการอาหารไทยยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง โดยมีสื่อโซเชียลที่ช่วยส่งต่อพลังความอร่อยของอาหารไทยบ่อยครั้ง ดังนั้นน้ำปลาร้า ที่เป็นหัวใจหลักของละครเรื่องทายาทไหทองคำ จึงขึ้นแท่นดาวรุ่ง Soft power ของไทย สร้างปรากฏการณ์ปลุกให้เป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยชูรสอาหารให้มีความอร่อยและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งแซ่บทั้งนัว อีกทั้งละครเรื่องนี้ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมและผลักดันประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ และความน่าสนใจในแบบไทย ๆ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละคร เรื่องของอาหารการกิน สะท้อนถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต ซึ่งสิ่งนี้เป็นเป้าหมาย แพสชันของ ผู้กำกับ และผู้จัดถา สถาพร ที่หวังเป็นกระบอกเสียงส่งต่อให้คนทั่วโลกได้รับรู้นั่นเอง
ได้อ่านได้เห็นเช่นนี้แล้ว บอกเลยว่าไม่มีเหตุผลไหนที่จะทำให้แฟน ๆ พลาดรับชมความสนุกของละครเรื่องทายาทไหทองคำ ไปได้เลย นี่แค่กลิ่นอายน้ำจิ้ม ยังน่าดูขนาดนี้ สามารถติดตามความเข้มข้นนี้แบบจัดเต็มได้ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 สามารถรับชมย้อนหลังที่แรกที่เดียวที่ TrueID