โดนเข้าเต็มๆ นักแสดงสาวอดีตนางเอกยอดนิยมขวัญใจจอแก้ว หม่อม – รุจิเรข พักตระเกษตริน อดีตพระ-นางคู่ขวัญจอแก้ว ยมนา ชาตรี – รุจิเรข พักตระเกษตริน ที่มีผลงานละครทีวีฮิตเรตติ้งกระฉูดหลายเรื่องทางช่อง7 อาทิ สางเขียว,ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ และผลงานกับนักแสดงท่านอื่นอีกหลายเรื่อง อาทิ มนุษย์ประหลาด,พระทิณวงศ์,แก้วหน้าม้า,แม่นาคพระโขนง  ฯลฯ  

ล่าสุดคัมแบ๊คเล่นหนัง หลังห่างจอไปนานร่วม 30 ปี  ประเดิมด้วยภาพยนตร์เรื่อง ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ ผลงานกำกับโดย สมเกียรติ เรือนประภัสสร์  ภาพยนตร์ที่อุดมด้วย อาถรรพณ์ ปาฏิหาริย์ต่างๆมากมาย หม่อม รุจิเรข เจอเข้าเต็มๆ เมื่อเธอต้องรับบท ยายผ่อง  ยายของ สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี  ขณะเข้าฉากตายในอ้อมกอดลูกสาว ภาพนิ่งปรากฏเป็นภาพสั่นไหวเฉพาะที่ใบหน้าของเธอเท่านั้น ขณะที่บริเวณอื่นชัดหมด เจ้าตัวถึงกับอึ้งขนลุกซู่ สารภาพขณะเล่น ไม่รู้สึกตัว เล่นเสร็จยังงงว่า เกิดอะไรขึ้นกับตนเอง

นักแสดงสาวเจ้าบทบาท หม่อม รุจิเรข เล่าด้วยอาการตื่นเต้นไม่หาย “ฉากนี้เป็นฉากที่ ยายผ่อง ยายของ สมเด็จพุฒาจารย์โตฯ หรือ ขรัวโต เจ็บหนักใกล้ตาย โดยมีลูกสาวคือ “ละมุด” มารดาของ ขรัวโต คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ถ่ายทำกันที่ วัดอัมพวัน จ.ราชบุรี บนเรือนกุฏิพระ ก่อนเข้าฉาก ป๋าเกียรติ ผู้กำกับ ทำพิธีกรไหว้ครู และอธิบายคาแรคเตอร์ และความเป็นมาของฉากนี้ให้ฟังว่าเป็นอย่างไร มีที่มาอย่างไร ฟังป๋าเกียรติพูดไปสักพักพี่ก็เริ่มรู้สึกในตอนนั้นว่าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว มันเบลอๆ ลอยๆ รู้แต่ว่าอยากจะร้องไห้อย่างเดียว รู้สึกว่ามีคนพาเข้าไปในห้องนอน  ซึ่งมารู้หลังจากถ่ายเสร็จว่า ป๋าเกียรติเป็นคนประคองเราเข้าไปนอนในฉากที่เตรียมการถ่ายทำเอาไว้แล้ว ทั้งกล้อง ทั้งไฟ ทั้งเสียง ระหว่างถ่ายทำไม่ค่อยรู้ตัว เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว จริงๆแล้วบทพูดในตอนนั้น ยายผ่องจะต้องขอโทษลูกสาว ที่ให้ลูกสาวแต่งงานกับชายหนุ่มที่ไม่ได้สอบถามก่อนว่า เขาเป็นใคร มาจากไหน จนกระทั่งท้องแล้วเขาก็หายจากไปจนลูกสาวตัวเอง ท้องไม่มีพ่อ  ทำให้ลูกสาวต้องเสียใจมาตลอด เป็นเหมือนการ ขอโทษก่อนจะลาตาย จริงๆตอนนั้นพี่จำบทพูดของตัวเองได้หมด แต่พอถึงตอนถ่ายทำ ผู้กำกับบอกว่า พี่พูดฟังแทบไม่รู้เรื่อง เอาแต่พูดคำว่า แม่ขอโทษ...แม่ขอโทษ... แล้วก็ร้องไห้ ร้องไห้... หลังเล่นเสร็จรู้สึกว่าเหนื่อยมากๆ และยังงงอยู่เลยว่าถ่ายจบลงได้ยังไง ที่อึ้งมากก็คือ ป๋าเกียรติ ผู้กำกับกับบอกว่า “ยายผ่องตัวจริงมา!” พี่งี้ขนลุกเลย...”

“หลังถ่ายเสร็จอยู่หลายวัน ป๋าเกียรติบอกว่า รู้มั๊ยว่าฉากที่พี่ถ่ายนั้น ตอนที่เดินไปเข้าฉาก   ปรากฏเป็นดวงสีขาวลอยตามร่างพี่เข้าไปในห้องที่ใช้ถ่ายทำ แล้วลอยอยู่ในฉากตลอดการถ่ายทำ ปรากฏทั้งในภาพวิดิโอ และภาพนิ่ง ป๋าเกียรติได้เปิดให้บางคนดู มี น้องเพลง (เจษฏาพร ชมศรี)  ที่เล่นบท สามเณรได้เห็นทั้งในภาพนิ่งและวิดิโอ ยืนยันว่า เห็นจริงและตื่นเต้นใหญ่  พี่ฟังแล้วก็อยากเห็นมาก  แต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที จนวันหนึ่งพี่เข้าไปที่บริษัท อยู่กันพร้อม    ป๋าเกียรติตั้งใจจะเปิดให้ทุกคนได้ดูกัน  และตอนนั้นมีการพูดกันว่า จะทำฉากนี้ให้เป็นข่าว  ปรากฏว่า พอป๋าเกียรติเปิดดู ภาพหายไปหมดเลย ทั้งในวิดิโอและภาพนิ่ง  ทุกคนเสียดายกันมาก แต่ก็มีหลายคนที่ได้เห็นและยืนยันว่า เกิดขึ้นจริง”

“แต่ก็ยังพอเหลือภาพที่ชวนประหลาดใจอยู่ภาพหนึ่งคือ ภาพที่พี่นอนเจ็บอยู่ในอ้อมกอดของลูกสาวในเรื่อง  บริเวณหน้าพี่สั่นไหวไม่ชัด แต่รอบข้างส่วนอื่นๆค่อนข้างชัด ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก พี่เห็นแล้วขนลุกเลย ตั้งแต่เล่นหนัง ละครมาก็ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรอย่างนี้กับเรามาก่อน ยังประหลาดใจมาจนถึงทุกวันนี้”

“หนังเรื่องนี้  ตอนที่มีคนมาชวนเล่นหนังเรื่องนี้ พี่รู้สึกดีใจมาก เพราะว่าปกติพี่นับถือสมเด็จโตอยู่แล้ว เพราะว่าบ้านของพี่อยู่ตรงข้ามวัดระฆัง  พี่เข้าไปไหว้พระ ขอพร อยู่เป็นประจำ  ตอนที่ทีมงานบอกว่าจะให้พี่เล่นบทนี้ พี่ก็ยังไม่เชื่อนะว่าเราจะได้เล่นจริง เพราะพี่ก็ไม่ได้เล่นหนังมานานกว่า30ปี เรื่องสุดท้ายคือ “พิฆาตทรชน” เล่นคู่กับ คุณกรุง ศรีวิไล หลังจากตอบรับเล่นแล้ว  ทีมงานก็เงียบหายไปอีกเป็นเดือนจนคิดว่าไม่ได้เล่นแล้ว เขาคงเปลี่ยนตัวแล้ว เพราะทราบมาว่ามีคนเสนอนักแสดงไปหลายคน จนสุดท้ายทีมงานนัดถ่าย นั่นแหละพี่ถึงได้เชื่อว่าเราได้เล่นจริงๆ”

“พี่ปลื้มที่ได้มีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ เพราะว่าเป็นหนังประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องราวของบุคคลสำคัญของวงการศาสนาที่ไม่ค่อยมีคนสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์อย่างนี้  รู้สึกเป็นเกียรติมาก บอกเลยว่า ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยเล่นบทคนแก่ขนาดนี้ แต่เรื่องนี้พี่ยอมหมด ให้ตัดผมก็ตัดเลย ให้แก่แค่ไหนก็ยอม และยอมรับว่า เล่นเรื่องนี้เหมือนเราเริ่มต้นชีวิตการแสดงใหม่หมด ต้องขอขอบคุณ ป๋าเกียรติ ผู้กำกับ และ ครูฉลวย ศรีรัตนา ที่คอยให้คำแนะนำในเรื่องการแสดง เป็นผลงานที่พี่ภาคภูมิใจมากค่ะ”        

ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ ภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดิน ที่ปรึกษาภาพยนตร์ฝ่ายสงฆ์โดย สมเด็จพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสณโณ  ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาสโดย อ.ฉลวย ศรีรัตนา  ผลงานสร้าง – บริษัท อกาลิโก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด อำนวยการสร้าง – พันเอกศักดิ์สุธี – คุณจรัลรัตน์ คงพ่วงพันธ์, คุณสุพัทชฏา พ่วงพันธ์ กำกับภาพยนตร์ – สมเกียรติ เรือนประภัสสร์  บทภาพยนตร์โดย ศัลยา

บท สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี แต่ละช่วงวัย โดย  เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ ปี2554 (ขรัวโต วัยชรา), น้ำแข็ง – ปรัชญา ประทุมเดช (ขรัวโต วัยหนุ่ม), น้องเพลง – เจษฏาพร ชมศรี (ขรัวโต วัยรุ่น) และ น้องเพชร - ด.ช.ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์ (ขรัวโต วัยเด็ก)  และ  เอิร์ท AF9 – บารมี ชำนาญกิจ รับบท คนเล่าเรื่อง พร้อมนักแสดงคุณภาพชื่อดังคับคั่ง อาทิ รุจิเรข พักตระเกษตริน,ชุมพร เทพพิทักษ์, โกวิท วัฒนกุล,โสธร รุ่งเรือง,รัญ เมืองลพ,จีระศักดิ์ แสงโชติ,ธนายง ว่องตระกูล,สรนันท์ ร. เอกวัฒน์  พร้อมนักแสดงหน้าใหม่อีกคับคั่ง

26 กุมภาพันธ์ 2558 ความรัก บารมี เมตตา จะแผ่พลังศรัทธาพร้อมกันทั่วแผ่นดินสยาม.