สวัสดีครับ เพื่อนที่รัก นักเสพย์ความเอนเตอร์เทนเม้นท์ ผ่านสื่อ อินเตอร์เน็ท กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ เมื่อมีภาพยนตร์ที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม ” ก็จะนำมาวิจารณ์ให้เหล่าเพื่อน ๆ ใน www.nangdee.com ได้อ่านกันนะครับ
เนื่องจากเดือนนี้น่าจะเป็นเดือนแห่งความสดใสหัวใจปิ๊งปั๊ง เพราะเดือนกุมภาพพันธุ์ ใคร ๆ หลาย ๆ คน ถือให้เป็นเดือนแห่งความรักและทุก ๆ ปี ในเดือนนี้ก็จะมีภาพยนตร์รักโรแมนติกมาให้เราได้ชมกันทุกครั้ง และในปีนี้ก็เช่นกันวันนี้ก็เลยได้โอกาสที่จะพา ไปดูภาพยนตร์เรื่องที่น่าชมอีกเรื่องเพราะได้รับเชิญอีกแล้วจากกระตุกฟิล์ม ดอทคอมนี่แหล่ะครับ ที่ให้โอกาสไปดูก่อนใคร ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ วันนั้นรู้สึกมีสมาชิกไปดูกันเยอะมากเลยทีเดียว อีกอย่างผมว่าอาจจะ เป็นภาพยนตร์ที่มีดาราดังที่เรารู้จักกันดีมาเล่นคู่กันอย่าง ดรูว์ แบร์รี่มอร์ และ ฮิวจ์ แกรนท์ ขวัญใจสาว ๆ จาก Notting Hill ภาพยนตร์เรื่องนี้คือ MUSIC AND LYRICS “ สี่ห้องหัวใจนี้ มีแต่เสียงเธอ ” ภาพยนตร์จะเป็นอย่างไรตามกันมาเลยครับ
ตัวภาพยนตร์
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของ นักร้องเพลงพ็อพ อเล็กซ์ เฟลทเชอร์ ( ฮิวจ์ แกรนท์ ) ร่วมสมัยในยุค 70 ที่กำลังมีชื่อเสียงร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่แล้วด้วยยอดผู้จัดการสมองเพชรได้คว้าโอกาสให้เค้าได้มีโอกาสกระชา กเรทติ้งคืนมาอีกครั้ง ด้วยการร้องเพลงร่วมและแสดงร่วมในคอนเสิร์ตกับนักร้องสาวพ็อพแดนซ์สุดเซ็ก ซี่ คอร่า คอร์แมน (เฮลีย์ เบนเน็ทท์) ที่ กำลังมาแรงที่สุดชนิดที่ว่าน่าจะเป็น บริทนี่ สเปียร์ส บวกกับ คริสตินา อากีเรล่า เลยทีเดียวแต่ทางออกที่เห็นก็ยังไม่สามารถทำให้พระเอกของเรามองออกได้เลยว่า จะทำได้อย่างไร แต่เมื่อเค้าได้รับโอกาสนั้น และ ด้วยความต้องการของนักร้องสาวเซ็กซี่ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของเค้า ต้องการให้เค้าแต่งเพลงและร่วมร้องบันทึกลงในอัลบัมใหม่ของเธอ พระเอกเราจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะต้องแต่งเพลงเอกเพลงนี้ให้ได้ ดังนั้นนางเอกของเรา โซฟี ฟิชเชอร์ (ดรูว์ แบร์รี่มอร์)จึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเหตุบังเอิญอย่างตกกระไดพลอยโจน ความรัก ความหวาน ความโรแมนติก จึงเริ่มขึ้น ณ จุดนี้เอง...
บทภาพยนตร์
ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากมายเป็นบทที่ค่อนค่างธรรมดาแต่ด้วยการดำเนินเรื่องและการแสดงของสองดาราอย่าง ฮิวจ์ และ ดรูว์ ก็สามารถรับประกันได้ระดับหนึ่งเลยครับว่าสนุกแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ครับ ภาพยนตร์ไม่ได้สนุกสนานอะไรมากมายแต่การดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมากมายแต่ก็ดูได้อย่างไม่เบื่อและจบได้อย่างน่ารัก และสิ่งที่มีเสน่ห์ อย่างยิ่งก็คือการที่ ดาราสองคนที่อายุอานามก็ไม่น้อยแล้วมาแสดงร่วมกันอย่างมีมุกตลกเล็ก ๆ แต่มีตลอดเรื่องถือเป็นสิ่งที่เค้าเขียนได้เก่งครับมันไม่ได้ฮากระจายแต่ก็ ทำให้เราได้ขำแบบอมยิ้มพอควร ส่วนตัวผมว่าทำได้พอดี ๆ เลยครับกับภาพยนตร์ประเภทนี้บางทีขำมากไปก็ดูเฝือครับ
ดารา
ในส่วนของดาราไม่ต้องพูดถึงเป็นดาราระดับคุณภาพที่ต้องยกนิ้วให้เลยครับเพราะ ฮิวจ์ และ ดรูว์ เล่นได้ดีแทบทุกเรื่องอยู่แล้วแต่เรื่องนี้ไม่รู้สิ ผมไม่ได้ชอบ ฮิวจ์ แกรนท์ และ ดรูว์ แบรี่มอร์ มากมาย แต่เรื่องนี้กลับทำให้ผมกลับชอบเค้ามากครับ เค้าเล่นกันได้ดีและดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ เลยโดยเฉพาะ ดรูว์ แบรี่มอร์ ที่อายุก็ไม่ใช่น้อยแต่เล่นภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องนี้ได้อย่างน่ารักน่า ชังมาก ๆ ผมชอบเธอมาก ๆ เลยครับจากเรื่องนี้แต่จะติหน่อยก็ตรง พระเอกของเรา ฮิวจ์ แกรนท์ เรื่อง นี้แก่ไปเยอะเหมือนกันครับ อาจจะไม่หล่อเร้าใจสาว ๆ เหมือนเดิมแต่ต้องขอบคุณ สเปเชี่ยลเอฟเฟค หรือ CG (คอมพิวเตอร์กราฟฟิค) ละครับ ตอนย้อนยุคเป็นสมัย 70 ก็สามารถกระชากวัย ฮิวจ์ ขึ้นมาได้โอ้โฮหน้าตาล่ะอ่อน เนี๊ยนเนียน ดีจริง ๆ ครับ รีทัชภาพได้เยี่ยมมาก ๆ ครับ
ภาพรวม
เป็นภาพยนตร์ที่ผมชอบพอควรอีกเรื่องนึงครับ แนะนำให้พาคนรักไปดูกันนะครับ แต่สิ่งที่ชอบมาก ๆ ๆ ๆ นั่นคือ เพลงซาวด์แทร็ก ในเรื่องนี้ครับ ผมรับประกันว่า เพราะทุกเพลงดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบแล้ว ผมว่าคุณต้องออกมาหาซาวด์แท็รคฟังอีกแน่ ๆ ขอยกนิ้วโป้งให้เลย คนทำเพลงสุดยอดจริง ๆ ครับ ไปชมกันแล้ว ลองฟังนะครับ เพราะทุกเพลงจริง ๆ โดยเฉพาะ เพลงที่พระเอกเล่นคอนเสิร์ต แล้วร้องเป็นเพลงแรกให้กับนางเองความหมายตลกดี แต่ทำนองอย่างเพราะ ครับส่วนเพลงเอกนั้นไม่ต้องบอกกันเลยครับไปฟังกันเอง ถ้าใครอยากฟังลองเข้าไปฟังเพลง Way Back Into Love คลิกที่นี่ หรือจะเป็นเพลง Pop! Goes My Heart คลิกที่นี่ แล้วโหลดไปฟังกันนะครับ
ความคุ้มค่า
ผมให้ 8.5 คะแนน เต็ม 10 ครับ
แล้วคราวหน้า เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม “ จะ กลับมาเล่าให้ฟัง เช่นเคยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ เข้ามาอ่านแล้ว โพสท์เข้ามา บอกความคิดเห็นกันบ้างนะครับ ว่า ชอบ หรือไม่ชอบ อย่างไร สวัสดีครับ
"นัวฟิล์ม "