"ถ้าโลกยังไม่แตกแบบเห็น ๆ ก็จงใช้ชีวิตในแบบที่โลกนี้ยังหมุนต่อไป"

          
คำกล่าวของ นิโคลัส โจเซฟ ฟิวรี่ หรือ 'นิค ฟิวรี่' ชายผู้เริ่มต้นหน้าที่การงานจากการเป็นทหารทักษะสูงในกองทัพสหรัฐ ผ่านสมรภูมิรบยุคสงครามเย็น และปฏิบัติภารกิจในฐานะสุดยอดสายลับมาแล้วอย่างโชกโชน จนกระทั่งได้ขึ้นรับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยชีลด์ หรือ S.H.I.E.L.D. ซึ่งย่อมาจาก Strategic Homeland Intervention, Enforcement and Logistics Division (กองงานยุทธวิธีจัดระเบียบกำลังพิเศษแห่งมาตุภูมิ) มีภารกิจหลักในการปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่าง ๆ เป็นเหตุให้นิคมุ่งมั่นที่จะรวบรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ ของโลกมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อนจะจัดตั้งกลุ่มฟอร์มทีมให้พวกเขาเป็น 'อเวนเจอร์ส' คอยพิทักษ์และกอบกู้โลกให้รอดพ้นจากวิกฤติมาหลายต่อหลายครั้ง
 

นิค ฟิวรี่ ปรากฏตัวครั้งแรกใน Iron Man ปี 2008 แบบไม่มีพลังพิเศษใด ๆ เป็นของตนเองแถมหลายครั้งก็ยังได้ซีนแค่สั้น ๆ ให้ผู้ชมเห็นหน้ากันแค่ฉากท้ายเรื่องหรือเป็นตัวละครรับเชิญในเรื่องต่าง ๆ แต่นิคกลับกลายเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ที่มีแฟนคลับติดตามและสนใจชีวิตความเป็นไปไม่น้อยไปกว่าใคร ชายตาเดียวคนนี้มีดีอะไร ทำไมเขาจึงสามารถดูแลแก๊งอเวนเจอร์สให้ทำภารกิจลุล่วงจนสำเร็จได้ มาหาคำตอบกัน!
 

1. คือผู้นำที่โดดเด่น        

นอกจากจะมีบุคลิกลึกลับ สุขุม มาดเข้ม นิคยังเต็มไปด้วยคุณสมบัติของความเป็นผู้นำ มองการณ์ไกล เก่งกาจด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ พร้อมกับจิตใจที่เข้มแข็งไม่หวั่นไหว ในวันที่อเวนเจอร์สถือกำเนิดขึ้น การรวมตัวของ ไอรอนแมน (Iron Man) กัปตันอเมริกา (Captain America) ธอร์ (Thor) ฮัลค์ (The Hulk) ฮอว์คอาย (Hawkeye) และแบล็ค วิโดว์ (Black Widow) ไม่ได้เริ่มต้นอย่างราบรื่นนัก แต่นิคก็ยังสามารถรับมือกับบุคลิกที่หลากหลาย รู้จักจุดเด่นจุดด้อยของเหล่าฮีโร่แต่ละคน แถมยังรู้วิธีพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เช่น การบอกถึงที่เก็บซ่อนการ์ดซูเปอร์ฮีโร่ของเจ้าหน้าที่ฟิล โคลสัน (Phil Coulson) ว่าเขาเชิดชู ชื่นชมและเชื่อในเหล่าฮีโร่แม้ในลมหายใจสุดท้าย เพื่อสร้างอารมณ์และความรู้สึกสะเทือนใจให้ชาวแก๊งยอมหันหน้ามาร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จ การใช้จิตวิทยาคุมเกมเช่นนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของนิคเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ เขายังพร้อมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับทีม ไม่ว่าจะในศึกกลางมหานครนิวยอร์ก ที่ต้องปะทะกับโลกิ (Loki) ท่ามกลางสถานการณ์สุดกดดันเพราะทั้งเมืองตกอยู่ในความเสี่ยง แต่นิคก็ยังสามารถวางแผนและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ หรือแม้แต่การแนะแนวให้ทีมใน กัปตันอเมริกา: มัจจุราชอหังการ (Captain America: The Winter Soldier) และ อเวนเจอร์ส: มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก (Avengers: Age of Ultron) เขาก็ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมและมีแผนสำรองเสมอ ทำให้ทั้งเหล่าฮีโร่และเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. ออกปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับชัยชนะในหลายศึกที่ผ่านมา

2. คือมิตรภาพที่ชัดเจน

ในแง่ความสัมพันธ์ นิคไม่ใช่เพียงผู้ก่อตั้งกลุ่มที่เอาแต่ออกคำสั่งหรือทำตัวเป็นสายลับจอมบงการ แต่เขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทีม ไม่ว่าจะเป็นกัปตันอเมริกา ซึ่งให้ความเคารพกันและกันอย่างสูง เพราะมีรากฐานชีวิตภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกันคือต้องการปกป้องโลกจากเหล่าร้าย และร่วมทำภารกิจด้วยกันหลายหน

ในขณะที่กับเศรษฐีหนุ่มใหญ่อย่างโทนี่ สตาร์ค หรือไอรอนแมน แม้ว่านิคจะเป็นคนมองเห็นศักยภาพและเป็นคนเริ่มเข้าหาโทนี่ก่อน แต่ทั้งสองมีนิสัยและความเชื่อในการทำงานสวนที่ทางกันพอสมควร ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่โทนี่ตั้งใจสร้างหุ่นอัลตรอนขึ้นมาปกป้องโลก ใน อเวนเจอร์ส: มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก (Avengers: Age of Ultron) (2015) แม้จะไม่ได้ทะเลาะถึงขั้นใช้กำลังต่อสู้กันรุนแรง แต่เราก็ได้เห็นความตึงเครียดจากความคิดที่ขัดแย้งระหว่างนิคและโทนี่ เพราะโทนี่เชื่อในการสร้างหุ่นด้วยเทคโนโลยี AI และลงมือสร้างหุ่นขึ้นมาด้วยความเชื่อมั่น ในขณะที่นิคยืนยันว่าควรผ่านความเห็นชอบจากทีมอเวนเจอร์สเสียก่อน และทุกคนควรได้มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งประดิษฐ์นี้ จนถึงวันที่อัลตรอนก่อกบฏเพื่อทำลายล้างมนุษย์ นิคและโทนี่ก็สามารถละวางความไม่พอใจแต่เดิม และหันมาร่วมมือกันต่อสู้แก้ปัญหาเพื่อปกป้องโลกไปด้วยกันได้อย่างดี

จากเหตุการณ์นี้จะเห็นได้ว่า นิคให้คุณค่าต่อการทำงานร่วมกันกับทีมอเวนเจอร์สอย่างมาก แม้แต่โทนี่เอง นิคก็ยังให้มิตรภาพในฐานะเพื่อนร่วมงานที่ชัดเจน เป็นเหตุเป็นผล และพร้อมยื่นมือช่วยเหลือเมื่อทำผิดพลาด ในขณะที่กับเจ้าหน้าที่โคลสัน มือขวาคนสำคัญ นิคก็ยังให้ความห่วงใยในวันที่เขาบาดเจ็บ ในทางกลับกันโคลสันเองก็เคารพและนับถือนิคอย่างมาก หรือแม้กระทั่งกับกูส (Goose) เอเลี่ยนในร่างแมว นิคก็ยังให้ความเอ็นดูและเผยมุมความเป็น 'ทาสแมว' ของเขาออกมาแบบไม่กลัวเสียลุค จะเห็นว่าแม้จะมีพื้นฐานของความเป็นคนเชื่อใจคนยาก แต่นิคก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง วางตัวอยู่ในระยะห่างไปพร้อมกับการวางใจในการมอบหมายงานและปฏิบัติภารกิจไปด้วยกันได้อย่างเหมาะสมจนทำให้ทีมไปต่อด้วยกันได้อย่างดี  

3. คือหนึ่งในคนสำคัญของ MCU

อย่างที่ทราบกันดีว่าเหล่าซูเปอร์ฮีโร่แต่ละคนนั้นมีภูมิหลัง นิสัย และความสามารถแตกต่างกัน แถมที่ผ่านมาก็ถนัดทำแต่งานเดี่ยวไม่เน้นงานกลุ่ม คงเป็นไปได้ยากที่จะตกลงหรือเห็นตรงกันทุกเรื่อง การมีนิคคอยดูแลและตัดสินใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ และถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่ขาดไม่ได้ในการปฏิบัติภารกิจในจักรวาล MCU

อีกบทบาทหนึ่งในการเป็นหัวใจของกลุ่มคือ ทุกครั้งที่ปรากฏตัวขึ้นในภาพยนตร์หรือซีรีส์ นิคจะทำหน้าที่เสมือนผู้เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่อยู่ระหว่างรอยต่อของแต่ละภาค ทำให้เรื่องมีความต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเผยถึงอัญมณีทรงอำนาจอย่าง เทสเซอแรคท์ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 มณีอินฟินิตี้ ที่มีบทบาทสำคัญใน กัปตันมาร์เวล (Captain Marvel) หรือการสร้างอัลตรอน หุ่นยนต์ตัวร้ายสุดแกร่งแห่งจักรวาล ใน อเวนเจอร์ส: มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก (Avengers: Age of Ultron) และศึกหนักหลังจากการดีดนิ้ว ใน อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล (Avengers: Infinity War)

ในเมื่อรับบทเป็นหัวใจสำคัญที่กำความลับและขับเคลื่อนเรื่องราวขนาดนี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่อดีตผู้บัญชาการ S.H.I.E.L.D คนนี้ จะพาทุกคนไปไขความลับทำภารกิจกันอย่างเต็มรูปแบบด้วยตัวเองกันเสียที
 

ใน Secret Invasion มหันตภัยอำพราง ซีรีส์ออริจินัลใหม่ล่าสุดจาก Disney+ Hotstar ที่มอบหมายภารกิจสุดเข้มข้นให้นิค ฟิวรี่ ออกตามล่าเหล่าสโครลล์ (Skrull) เอเลี่ยนวายร้ายที่ใช้พลังปลอมตัวแทรกซึมเข้ามาในโลกเพื่อทำภารกิจบางอย่าง แอบบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นนิคในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นทักษะการวางแผน แก้ปัญหา ต่อสู้ หรือแม้แต่ตัวตนภายใน แถมเรื่องราวยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญของจักรวาลมาร์เวลอีกด้วย นิคจะทำอย่างไร เมื่อเขาต้องออกเดินทางอีกครั้งเพื่อตามล่าหาความจริงที่ยากจะแยกแยะได้ด้วยตาเปล่าโดยไม่ง้อพลังของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ 

เตรียมวอร์มร่างกายให้ฟิต เตรียมสติให้พร้อม แล้วติดตามลุ้นไปด้วยกันใน Secret Invasion มหันตภัยอำพราง เริ่มสตรีม 21 มิถุนายนนี้ บน Disney+ Hotstar เท่านั้น