The Glory ว่าด้วยเรื่องราวการแก้แค้นของ "มุนดงอึน" (ซงฮเยคโย) หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน เธอจึงอุทิศทั้งชีวิตในการวางแผนแก้แค้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อลงโทษกลุ่มคนที่เคยรังแกเธอ จนทำให้วัยเด็กของเธอตกอยู่ในฝันร้าย และในที่สุด 18 ปีให้หลัง เธอก็ได้กลับมาลงมือแก้แค้นตามแผนที่วางไว้
นำแสดงโดย ซงฮเยคโย (Song Hye-Kyo), อีโดฮยอน (Lee Do-Hyun), จองซองอิล (Jung Sung-Il), อิมจียอน (Lim Ji-Yeon), พัคซองฮุน (Park Sung-Hoon), ยอมฮเยรัน (Yum Hye-Ran), ชาจูยอง (Cha Joo-Young), คิมฮีออรา (Kim Hieora) และ คิมกอนอู (Kim Gun-Woo) กำกับการแสดงโดย อันกิลโฮ (Ahn Gil-Ho) จากฝีมือเขียนบทของ คิมอึนซุก (Kim Eun-Sook) โดยซีรีส์แบ่งออกเป็น 2 พาร์ต พาร์ตละ 8 ตอน
The Glory ภาคแรกปูให้เห็นที่มาที่ไปแผลลึกในใจของเหยื่ออย่าง "มุนดงอึน" จากเหล่าผู้กระทำที่ไม่เคยสำนึกในความผิดของตัวเอง พร้อมทิ้งปมคำถามชวนสงสัยเอาไว้ให้ติดตาม ขณะที่ภาคสองกลับมายกระดับความดุเดือดด้วยการเดินหน้าล้างแค้นของ "มุนดงอึน" แบบเต็มสตรีม พร้อมตอบทุกคำถามที่ค้างคาเอาไว้จากภาคแรก
ครึ่งแรกว่าดุดันมากแล้ว ครึ่งหลังดุเดือดยิ่งกว่า! ดูรวดเดียวจบ หยุดไม่ได้! โดนใจแบบไม่ปรุงแต่งความเป็นมนุษย์ให้สวยหรูดูเพ้อฝัน ถ่ายทอดออกมาแบบเรียล ๆ ดิบ ๆ ตรง ๆ สะเทือนอารมณ์ สมการรอคอย บทอาจดูโหดเหี้ยม เลวร้ายเกินไปสำหรับบางคน แต่จิตวิญญาณความเป็นมนุษย์สูงปรี๊ดที่แฝงอยู่ในบททำให้ซีรีส์สนุก และน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีเบื่อ แม้การเล่าเรื่องจะเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ แต่ตลอดทางก็มีการทิ้งคำถาม สอดแทรกปมชวนสงสัยแบบเนียน ๆ จนทำให้หยุดดูต่อไม่ได้
ขณะเดียวกันก็แฝงแง่คิดสะท้อนการใช้ชีวิต ความคิด การกระทำ และผลลัพธ์ที่ตามมา ผ่านตำราชีวิตของแต่ละตัวละคร ที่ล้วนก็มีทั้งด้านดีและไม่ดีอยู่ในตัว ซึ่งทุกคนต่างก็ต้องแบกรับผลลัพธ์จากการกระทำของตัวเองในมุมที่แตกต่างกันออกไป ทั้งยังเสียดสีความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ที่สุดท้ายแล้วทุกอย่างต้องขับเคลื่อนด้วย "อำนาจเงิน" อย่างที่นางเอกทุ่มเทเก็บหอมรอมริบมาตลอด 18 ปี เพื่อการแก้แค้นครั้งนี้ เพราะเธอรู้ดีว่า "ถ้าไม่มีเงิน เธอก็จะไม่มีวันแก้แค้นได้สำเร็จ" อย่างไรก็ตามท่ามกลางเรื่องราวสุดชอกช้ำ นักเขียน คิมอึนซุก ก็ยังสอดแทรกซีนน่ารัก ๆ อบอุ่นหัวใจ ระหว่างพระนาง และมิตรภาพระหว่างเธอกับผู้ร่วมชะตากรรมให้ผู้ชมได้เยียวยาจิตใจกันแบบพอประมาณ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นว่าบนโลกที่โหดร้ายก็ยังมีมุมเล็ก ๆ ที่สวยงาม ช่วยเยียวยาให้เรามีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปอยู่ด้วยเหมือนกัน
ในส่วนของนักแสดงคือดีมาก! ทุกคนถ่ายทอดตัวละครของตัวเองออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ โดดเด่น น่าติดตาม เรียกได้ว่ากินกันไม่ลง ไม่มีตัวไหนจม หรือเหมือนใส่มาแค่ประกอบฉากให้เต็มเลยสักตัว แม้แต่ตัวประกอบที่โผล่มาแปป ๆ ก็ยังมีดีเทลของตัวเองที่น่าสนใจ ซึ่งจุดนี้ต้องขอชื่นชมความแกร่งกล้าสามารถของนักเขียน คิมอึนซุก
สรุปแล้ว The Glory ถือได้ว่าเป็นซีรีส์อีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด สนุก ดุเดือด น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่ซีรีส์โลกสวย แต่รวยจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ ถ่ายทอดแบบดิบ ๆ เรียล ๆ ดุดันไม่เกรงใจใคร แคสต์ปัง โดดเด่น เสน่ห์เหลือล้นทุกตัวละคร เชื่อว่าน่าจะเป็นซีรีส์ที่โดนใจใครอีกหลาย ๆ คน แต่สุดท้ายการดูภาพยนตร์หรือซีรีส์จะดี โดนใจมากน้อยแค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนด้วย นี่แค่เป็นผลงานอีกเรื่องที่เราแนะนำ แต่ลองดูแล้วตัดสินด้วยตัวคุณเองดีกว่า ซีรีส์ The Glory ภาค 1 และ ภาค 2 มีความยาวรวมกันทั้งหมด 16 ตอน สามารถรับชมทั้งแบบซับไทยและพากย์ไทยได้แล้ว วันนี้ ทาง Netflix ให้คะแนน 10/10