หนึ่งในฉากแอ็กชันระดับมาสเตอร์พีซที่ถูกจับตามอง และตั้งตาคอยมากที่สุดของนักแสดง ทีมงาน ตั้งแต่ไอเดียเริ่มแรกของบทภาพยนตร์ “ขุนพันธ์ 3” สำหรับฉากการดวลเดือด สาดคาถาปะทะอาคม ของ ขุนพันธ์ กับ เสือดำ คู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม โหดเหี้ยม และดุดันที่สุด ที่ผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ ผนึกไอเดียแท็กทีมกับ ท็อป วีระพล ภูมาตย์ฝน ผู้ออกแบบและกำกับฉากแอ็กชันสำคัญๆให้กับภาพยนตร์ไทยระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลต, ต้มยำกุ้ง 2 รวมถึงทุกแอ็กชันดีไซน์ของภาพยนตร์ขุนพันธ์ตั้งแต่ภาค 1 ที่งานนี้ขอทิ้งทวนกันแบบจัดเต็มที่สุดให้สมกับ 10 ปีแห่งภาพยนตร์ขุนพันธ์ โดยถูกนำเสนอออกมาเป็นฉากเรียลแอ็กชันที่หนักหน่วง สมจริง และดุดันที่สุด

“ฉากนี้จะเป็นการต่อสู้ระหว่างเสือดำกับขุนพันธ์ที่จริงจังที่สุดในเรื่อง มันเป็นการดวลกันแบบลูกผู้ชายจริงๆกลางชุมโจรครับ เราจะได้เห็นเสือดำ และขุนพันธ์สู้กันในแบบที่ทั้งใช้และไม่ใช้เวทมนตร์ เป็นการดวลกันในทุกรูปแบบจริงมีทั้ง ปืน มีด ดาบ ไม้ตะพด เราก็ไปทำการดีไซน์ฉากต่อสู้นี้ให้มันน่าดูยิ่งๆขึ้นไปอีก”  ท็อป วีระพล ได้เล่าให้ฟังถึงความตั้งใจของรูปแบบแอ็กชันดีไซน์

เราจะได้เห็นการปะทะกันแบบตัวต่อตัวระหว่างขุนพันธ์กับเสือดำ ท่ามกลางเหล่าเสือร้ายในชุมโจร นับร้อยชีวิตที่ต่างโห่ร้องห้อมล้อมส่งเสียงเชียร์ โดยทั้งคู่จะต้องสาดอาวุธและซัดอาคมห้ำหั่นใส่กันชนิดใครดีใครอยู่ และด้วยความยากและคิวที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ฉากนี้ฉากเดียวต้องใช้เวลาถ่ายทำชนิดสุดเดือดถึงสองคืนเต็มๆท่ามกลางนักแสดงที่ร่วมเข้าฉากนับร้อยชีวิต  ซึ่งต้องยกนิ้วและชื่นชมในสปิริตของ อนันดา เอเวอร์ริงแฮม และ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ 2 นักแสดงหลักที่เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัวยอมเจ็บเนื้อเจ็บตัวใส่คิวบู๊กันแบบไม่มียั้ง ได้ใจผู้กำกับก้องเกียรติไปเต็มๆ

“ทันทีที่สั่งแอ็กชัน ไม่มีใครเป็นโตโน่ ไม่มีใครเป็นอนันดาแล้วครับ พวกเขากลายเป็นตัวละคร อัดใส่กันแบบไม่ยั้ง เสือดำปล่อยพลังแห่งความเกลียดแค้นออกมาเต็มที่ ขณะที่ขุนพันธ์ก็ต้องต่อสู้เต็มที่ นอกจากแอ็กชันแล้ว ฉากนี้ยังมีดราม่าสำคัญที่ซ่อนอยู่ ซึ่งทำให้ ขุนพันธ์ เข้าใจความเกลียดชังของ เสือดำ ว่าทำไมเสือดำถึงเกลียดตำรวจขนาดนี้ เป็นฉากที่เหนื่อยกันทุกคนครับ ทำงานเสร็จก็หมดสภาพกันเลย เพราะต้องใช้พลังกันเยอะมากครับ”

พร้อมกันนี้ผู้กำกับก้องเกียรติ ยังการันตีถึงความมันส์สะใจของฉากนี้ที่กลายเป็นการบ้านชิ้นใหญ่ ของทั้งอนันดาและโตโน่ เพื่อตอกย้ำจุดเด่นของทั้ง 2 คาแรกเตอร์ที่มีความสามารถและความโดดเด่นเฉพาะตัว

“อาวุธประจำตัวของเสือดำ จะมีปืนลูกซองสั้นเหน็บไว้ และมีปืนสั้นอีกคู่หนึ่ง ขุนพันธ์จะมีปืนประจำตัวหนึ่งกระบอก มันจะเกิดการต่อสู้กันจากการใช้ปืน ดวลกัน รวมไปถึงการต่อสู้เชือดเฉือน และดวลกันด้วยอาคม อย่างที่เรารู้กันว่าเสือดำใช้ฝุ่นเสกสลายกระสุน ส่วนขุนพันธ์มีมนตร์หายตัว รวมไปถึงการนำเอาไม้ตะพดมาเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ มันก็เลยกลายเป็นฉากต่อสู้สนุกสุดมันส์ที่ต้องไปดูกันในหนังให้เห็นกับตาครับ”

งานนี้เราเลยได้เห็น 2 พระเอกระดับซูเปอร์สตาร์ ปล่อยของกันชนิดจัดหนักจัดเต็ม ใส่กันไม่มียั้ง ทั้งหมัดเท้าเข่าศอก และ อาวุธ อาคม โดยเฉพาะตัวเสือดำที่มีมนตร์ฝุ่นเสกสลายกระสุน ที่จะถูกนำมารับมือกับขุนพันธ์หนังเหนียวในฉากนี้

“มันเป็นการดวลกันทั้งแบบใช้อาคม กับไม่ใช้อาคมครับ ตอนแรกเราตั้งเป้าว่าจะถ่ายกันทั้งวันทั้งคืน แต่พอถ่ายจริง สองวันสองคืนเลยครับ เพราะว่ามันค่อนข้างละเอียด และคิวแอ็กชันค่อนข้างเยอะ ทั้งตัวผม และพี่จ่อยก็เล่นเอง เราก็งัดทุกอย่างที่มีใส่เข้าไปในซีนนั้น ถ้าพวกเราไม่เตรียมตัวมามันก็คงทำไม่ได้ การยิงปืนลูกซองสั้น หรือการรับแอ็กชันที่เราทั้งสองคนเล่นกันเอง มันพลาดไม่ได้ ถ้าพลาดเจ็บขึ้นมาก็ยาวแน่ ดังนั้น นอกจากเราจะต้องเป็นตัวละครแล้ว ยังต้องมีสติในการที่จะต้องจำคิว มันก็เลยเป็นซีนที่ทั้งใช้ความรู้สึก และใช้สมาธิสูง แต่ก็สนุกอยู่ดีครับ ถึงแม้ว่ามันจะใช้เวลาถ่ายทำนาน และเหนื่อย แต่เรารู้ว่างานละเอียดและพี่โขมก็ไม่ปล่อยผ่านด้วย รวมถึงพี่จ่อยเขาก็ช่วยออกความเห็นในการแอ็กชันเป็นขุนพันธ์ของเขา และตัวเราเองก็ทำหน้าที่ในการเป็นเสือดำ ดังนั้น พอมาชนกัน มันก็ไม่รู้จะไปหาดูที่ไหนได้อีกแล้วครับ” โตโน่ กล่าว

ในขณะที่อนันดา ผู้รับบท ขุนพันธ์ และผ่านฉากแอ็กชันรับความหนักหน่วงจากนักแสดงชายที่มารับบทเป็นเสือคู่ปรับมาตั้งแต่ภาคแรก มาจนถึงคู่ปรับล่าสุดอย่างเสือดำ ถึงแม้ว่าก่อนการถ่ายทำจะมีการซักซ้อมคิวบู๊กันมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังแอ็กชันที่มีความสมจริงในการต่อสู้แล้ว การเจ็บตัว และอุบัติเหตุที่คาดเดาไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี โดยในฉากนี้ถึงกับต้องมีการเปลี่ยนไม้ตะพดที่ใช้ในการถ่ายทำถึง 2 อันด้วยกัน ซึ่งอนันดาก็ได้พูดถึงการถ่ายทำในฉากนี้ว่า

“จริงๆ ผมว่ามันเป็นเรื่องของความแรงมากกว่า เพราะตัวไฮไลท์ของฉากนี้มันเป็นเรื่องของการตีเข่าพร้อมกัน ต่อยพร้อมกัน มีการจับไม้ตะพดด้วยกัน แล้วไม่ยอมปล่อยทั้งคู่ แล้วสุดท้ายก็เห็นว่าสองคนนี้มันจะเข้าใส่พร้อมๆ กัน มันก็มีหลายดอกที่หวิดกันไปนิดๆ หน่อยๆ พอมาอินเสิร์ท โตโน่เขาก็โดน เขาก็มีความรู้สึกแบบเอาให้โดนเลย ผมเองก็ถ้าอยากโดน ก็ยินดีครับ ในทางกลับกันเรากล้าจะโดนก็ต้องโดน มีหลายอันที่ไม้ตะพดไปตีขาเขาแล้วไม้หักเลย ตีครั้งแรกเขาบอกว่ามันยังดูค่อยไป เราก็เอาไงดีโตโน่ เขาก็เอาเลยพี่จ่อยใส่เลย เราก็ใส่จนไม้ตะพดตีขาหักเลย ไม่ใช่ขาหักนะ ไม้ตะพดหัก แต่อยากให้ไปดูกันว่าในฉากแอ็กชันฉากนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ถูกเล่าเข้าไปในฉากนี้ด้วย”

เรียกได้ว่าทุกหยาดเหงื่อ พร้อมหลั่งเลือด และทุ่มสุดตัวเพื่อตอบแทนคนดูที่เฝ้าติดตาม และรักภาพยนตร์ขุนพันธ์มาตลอด10 ปี มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในปรากฎการณ์ภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่พร้อมกัน พุธที่ 1 มี.ค.นี้ พร้อมจับตายทุกเสือ ในทุกโรงภาพยนตร์