"...เด็กพิเศษจะมีพัฒนาการช้าทั้งร่างกายและสมองที่จะเด็กกว่าวัย แต่ก็จะมีความสามารถพิเศษด้านใดด้านหนึ่งแบบที่เก่งเลย มันเลยทำให้ผมต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในการแสดงแบบเดิม ๆ สำหรับผม ผมคิดว่านอกจากความท้าทายอย่างมากแล้ว มันคือการเปิดโลกการเรียนรู้ในคาแรคเตอร์ใหม่ ๆ ที่ผมเองไม่เคยแสดงมาก่อนมันทำให้ผมก้าวไปอีกขั้น ผมว่าการที่รับบทเป็นเด็กพิเศษมันคือเรื่องยากสำหรับผมมาก ๆ นะ พี่ไมค์ผู้กำกับพาผมไปเวิร์กช็อปที่มูลนิธิฯให้ผมค่อย ๆ เรียนรู้การใช้ชีวิตของน้อง ๆ ที่นี่ให้ได้คุ้นชินกับสิ่งต่าง ๆ ที่น้องๆเขาทำในชีวิตประจำวัน เป็นการมาเวิร์กช็อปที่ดีมากสำหรับผมเลยครับ หลังจากนั้นพี่ไมค์ผู้กำกับเริ่มใส่ข้อมูลของบทเต๊ะที่ผมรับให้ผมได้เข้าใจกับคาแรคเตอร์ของเต๊ะ ซึ่งคาแรคเตอร์ของเต๊ะคือ เด็กวัดที่หลวงตาเก็บมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก เต๊ะเป็นเด็กพิเศษแต่มีความจําดีมาก สามารถสวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่ว เต๊ะซึ่งเด็กพิเศษที่เขาเป็นคือจะสามารถช่วยเหลือตัวเองในชีวิต ประจำวันได้ แต่จะเป็นคนที่ทำอะไรจดจ่อโฟกัสกับสิ่งเดียวที่ตัวเองชอบทำ อย่างเช่น กันปั้นดิน ก็แปลกนะเพราะทุกครั้งที่ผมหยิบดินขึ้นมาปั้นมันทำให้ผมกลายเป็นเต๊ะไปแบบไม่รู้ตัวนะ มันเหมือนอินในสิ่งที่เต๊ะชอบทำหมกมุ่นไปกับการปั้นตัวอะไรขึ้นมาสักตัว ผมว่าจากวันนั้นเต๊ะก็ไม่เคยออกไปจากตัวผมเลย ฟังแล้วอาจดูหลอน ๆ แต่มันคือการเข้าใจเข้าถึงแล้วแสดงออกมาให้เป็นเด็กพิเศษให้ได้จริง ๆ อันนี้คือโจทย์ที่ยากและท้าทายมาก ซึ่งผมต้องทำให้ได้ นี่ยังไม่รวมกับการที่เต๊ะต้องมาเจอกับสิ่งเร้นลับหรือผีมันคือพีคในพีคมาก ๆ อยากให้ไปดูในหนังครับว่ามันจะพีคและน่ากลัวขนาดไหน 9 มีนาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์นะครับ..."