จากวิกฤตที่กำลังเป็นปัญหาที่จะสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบด้วย จำนวนประชากร เกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ของประชากรญี่ปุ่นมีอายุ 65 ปีขึ้นไป และจำนวนสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ กลับกันอัตราการเกิดของประชากรนับวันยิ่งน้อยลง และขาดแคลนกำลังแรงงานที่จะมาดูแลเหล่าผู้สูงอายุ ปัญหานี้กำลังกลายจะเป็นปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต เท่านั้นยังไม่พอยังเกิดปัญหาด้านสังคมอีกหลายด้าน เมื่อคนหนุ่มคนสาวต้องใช้ชีวิตที่กำลังผลิบานของตนเองทุ่มเทให้กับผู้สูงอายุที่กำลังเป็นไม้ใกล้ฝั่ง จนเกิดคำถามว่าเมื่อถึงเวลาของพวกเขาเองแล้วใครจะดูแล ในเมื่อแรงงานรุ่นใหม่นับวันยิ่งจะน้อยลงทุกที แล้วเราจะแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุได้อย่างไร และ "การการุณยฆาต" ควรใช้เป็นหนึ่งในทางแก้ปัญหาหรือไม่
แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงสุดสะเทือนขวัญ
"มีชายคนหนึ่งก่อเหตุสุดสะเทือนขวัญในญี่ปุ่น ในปี 2016 เขาได้ฆ่าผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในสถานดูแลผู้สูงอายุไป 19 คน และบาดเจ็บกว่า 40 คน และแรงจูงใจของเขา เขากล่าวว่า 'พวกคนพิการเหล่านี้ไร้ประโยชน์ พวกนี้เป็นภาระของสังคม' เขาทำสิ่งนี้เพราะว่าเขาทำเพื่อสังคมต่างหาก ฉันรู็สึกช็อคมากกับเหตุผลนี้ แต่ในเวลาเดียวกันฉันรู้สึกว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสังคมญี่ปุ่นเพราะว่า ญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่สังคมที่ขาดความเห็นอกเห็นใจ แรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้มาจากความโกรธของฉันจากสังคมที่กลายเป็นแบบนั้น" ผู้กำกับ จิเอะ ฮายาคาวะ เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอนำมาเขียนเป็นเรื่องราวและนำเสนอประเด็นที่เธออยากนำให้เห็นปัญหาสำคัญของญี่ปุ่นที่ก้าวเข้าสู่ประเทศ
"สังคมผู้สูงอายุ" อันดับต้นของโลก
ก่อนจะมาเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรก ของจิเอะ ฮายาคาวะ Plan 75 เคยเป็นหนังสั้นมาก่อนที่ฉายอยู่ในภาพยนตร์ Jû-nen: Ten Years Japan หนังปี 2018 ซึ่งเป็นโปรเจ็คหนังรวมผลงานภาพยนตร์ขนาดสั้น 5 เรื่อง จากผู้กำกับ 5 คน ที่ได้ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ เป็นโปรดิวเวอร์ผู้ควบคุมดูแลโปรเจ็ค ผลงานเรื่อง Plan 75 ของจิเอะ ฮายาคาวะ คือหนึ่งในนั้น ในเวอร์ชั่นหนังสั้น เล่าเรื่องราวของ อิตามิ เจ้าหน้าที่รัฐที่คอยแนะนำให้ผู้ที่ยากไร้ ด้อยโอกาสหรือผู้ที่ป่วยหนักเข้าร่วมโปรแกรม Plan 75 แต่ในขณะเดียวกัน ซากิ ภรรยาของเขาก็กำลังจะคลอดลูก และมีชีวิตที่ยากลำบากจากการที่แม่ของเธอป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์
หนังเล่าเรื่องสังคมผู้สูงอายุในอนาคตอันใกล้ ประเทศญี่ปุ่นออกนโยบาย Plan 75 ออกมาให้ผู้สูงอายุวัย 75 ปีเลือกได้ว่าจะยังอยู่ หรือจะจากไปด้วยการการุณยฆาต หรือ "การเลือกที่จะตายโดยสมัครใจ" โดยผู้ที่เข้าร่วมกับโครงการนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่าง พวกเขาจะได้รับเงินจำนวนหนึ่งให้ใช้ในบั้นปลายของชีวิตในการพักผ่อน สิทธิการจัดงานศพฟรี แม้กระทั่งสิทธิการเข้าพักและจากไปในโรงแรมระดับห้าดาว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่สละชีพเพื่อสังคมและประเทศชาติ ตามเกียรติที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนานของประเทศญี่ปุ่น
ตัวเอกของเรื่อง มิจิ หญิงชราวัย 78 ทำอาชีพเป็นแม่บ้านทำความสะอาดในโรงแรม เธอต้องอาศัยอยู่คนเดียวหลังสามีเสียชีวิต และมีเหตุที่ทำให้เธอต้องตกงานและไร้ที่อยู่ ทำให้เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับการเข้าร่วมนโยบาย Plan 75
หนังได้ จิเอโกะ ไบโช นักแสดงระดับตำนานของญี่ปุ่น (ผู้พากย์เสียงโซฟีทั้งสาวและชราใน Howl's Moving Castle) มารับบท มิจิ ปัจจุบัน จิเอโกะ ไบโช อายุ 81 ปีแล้ว และห่างงานแสดงหนังไปเกือบ 9 ปี (เรื่องสุดท้ายคือ Tokyo New Comer ที่ออกฉายในปี 2013) ตัดสินใจกลับมารับงานแสดงในเรื่องนี้
"ฉันเกือบจะไม่รับงานหนังเรื่องนี้เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก เพราะเป็นเรื่องการกำจัดชีวิตผู้คนเนื่องด้วยอายุ แต่เมื่อฉันอ่านบทไปเรื่อย ๆ ฉันก็ติดใจกับเนื้อหาและเหตุผลของเรื่องจนตัดสินใจมาแสดงในหนังเรื่องนี้ นี่เป็นหนังเรื่องแรกของฉันในเกือบ 9 ปี หลังจากหนังเรื่อง Tokyo Newcomer ฉันหวังว่าผู้คนจะดูหนังเรื่องนี้แล้วจะได้นึกถึงเรื่องราวของชีวิต และความรัก และใช้มันกับชีวิตของตนเอง"
หนังยังได้ดาวรุ่ง ฮายาโตะ อิโซมุระ ผู้ได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก Japan Academy Prize จากเรื่อง What did you eat yesterday? (2021) และ A Family (2021) และมีผลงานโดดเด่นในเรื่อง Tokyo Revengers มารับบทเป็นเจ้าหน้าที่รับสมัครเข้าร่วมโครงการ Plan 75 และได้ ยูมิ คาวาอิ จากเรื่อง It's a Summer Film! (2020) มารับบทพนักงานผู้ช่วยให้คำปรึกษากับผู้เข้าร่วมโครงการ Plan 75 รวมถึงได้ สเตฟานี อาริอาน นักแสดงลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์ มารับบท มาเรีย แรงงานต่างด้าวผู้ทำงานเก็บกวาดของใช้ของผู้สมัครใจเสียชีวิตในโครงการ Plan 75 หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว
VIDEO
Plan 75 วันเลือกตาย
8 กันยายน ในโรงภาพยนตร์