ตั้งตารอคอยที่จะได้ชมเทรลเลอร์ หรือ ตัวอย่างภาพยนตร์ของเรื่อง Fast & Furious 7 ของนักแสดงดังผู้ล่วงลับ “พอล วอล์คเกอร์”มานานนับปี ล่าสุดได้มีการปล่อยตัวอย่างหนังออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว งานนี้เพื่อนนักแสดงต่างทั้งสุขๆเศร้าๆหลังชมตัวอย่างเต็มๆ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของนักแสดงดังผู้ล่วงลับ พอล วอล์คเกอร์ ออกมาอย่างเป็นทางการ เพื่อให้แฟนๆได้ตื่นเต้นที่มีโอกาสได้เห็นเขาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2013 จากอุบัติเหตุทางรถยนต์
ต้องบอกว่าหลังการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของพอล ได้ส่งผลกระทบอย่างมากมายต่อการถ่ายทำ และต้องประกาศเลื่อนกองออกไปเพื่อวางแผนปรับเนื้อหาและเค้าโครงใหม่หมด แต่ด้วยความช่วยเหลือของ คาเลบ และโคดี พี่น้องของ พอล ที่อาสารับหน้าที่แสดงแทนในบางฉากบางตอนเพื่อให้ภาพยนตร์สมบูรณ์ก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถถ่ายทำจบลงได้อย่างเรียบร้อย
ซึ่งนอกจากแฟนๆของภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้เห็นพอล วอล์เกอร์ ในภาพยนตร์แบบเต็มๆแล้ว แฟนๆชาวไทยก็ได้เฮเมื่อได้เห็นโทนี จา หรือ จา พนม ยีรัม นักแสดงบู๊ชาวไทยโผล่ในตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ส่วนนักแสดงรายอื่นก็กลับมารับบทตัวละครเดิมของตนเองอีกครั้งทั้ง มิเชล โรดริเกซ, จอร์ดานา โบร์วสเตอร์, ดเวย์น “เดอะร็อค” จอห์นสัน, ไทรีส กิ๊บสัน, ลูดาคริส และ เอลซา พาทากี ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้ เจสัน สเตแธม ที่จะมารับบท เอียน ชอว์ พี่ชายของ โอเวน ชอว์ ( ลุค อีแวนส์ ) ที่เสียชีวิตไปในภาคที่แล้วเพื่อมาล้างแค้นแทนน้องชายในภาคนี้ด้วย
ด้านนักแสดงทีมหลักของเรื่องต่างพูดคุยกับสื่อในทิศทางเดียวกันว่าหลังจากที่ได้ชมตัวอย่างภาพยนตร์ต่างก็คิดถึง พอล วอล์คเกอร์ เพื่อนผู้จากไป โดยวิน ดีเซล ถึงกับกล่าวหลังชมตัวอย่างหนังจบลงว่า “พูดจริงนะ ผมว่ามันเป็นตัวอย่างหนังที่ดีที่สุดที่ผมเคยดูมาเลย” โดยขณะที่รับชมนักแสดงแต่ละคนต่างแสดงออกทั้งสุขและเศร้าโดยมิเชล โรดริเกซ และ จอร์ดานา โบร์วสเตอร์ยังกอดกันบนเวทีให้กำลังใจกันในงานแถลงข่าวด้วย
ซึ่งหลังจากที่สูญเสียพอลไป แต่ละคนต่างเผยถึงวิธีการรับมือกับความเศร้าที่เกิดขึ้น โดยไทรีส ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “เวลาที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ไม่ว่าจะต้องสูญเสียครอบครัวหรือพอลไป ต้องบอกว่าเราทุกคนต่างก็มีคนสำคัญ เราต่างก็มีวงจรของครอบครัว เพื่อน และคนที่เรารักในรูปแบบของแต่ละคนแตกต่างกันไป แต่พวกเขาไม่ได้รู้จักพอลในวิถีแบบที่พวกเรารู้จักเขา ดังนั้นสำหรับพวกเราถ้าไม่ได้มีการนัดเจอกัน พูดคุยกัน และมีบทสนทนาต่างๆกัน...คือผมหมายถึง อย่างผมกับมิเชลเราเป็นประเภทจะออกไปปาร์ตีกัน 4-5 วันจนกว่าผมจะได้เห็นเธอยิ้มได้อีกครั้ง ส่วนผมไปอยู่บ้านวิน แล้วก็ทำทุกอย่างที่ผมสามารถทำได้ ส่วนจอร์ดานาออกนอกเมืองออกไปต่างประเทศบ่อยมาก เราจะทำทุกอย่างที่เราทำได้ในแบบที่คนในครอบครัวที่สูญเสียเขาทำกัน แล้วก็มีการให้กำลังใจกันและกัน พูดคุยกันในแบบที่มีแต่เราเท่านั้นที่รู้กัน เพื่อช่วยให้พวกเราสามารถผ่านเหตุการณ์เลวร้ายเหล่านั้นไปได้”
ขอบคุณข่าวจาก :: http://www.manager.co.th/