แบรด พิตต์ (Brad Pitt) เปิดใจถึงเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจร่วมแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ Deadpool 2 (2018) ของผู้กำกับ เดวิด ลิตช์ (David Leitch) ซึ่งในเรื่องเขารับบทเป็น "แวนิเชอร์" มนุษย์ล่องหนผู้เป็นสมาชิก X-Force
พิตต์ บอกว่าการถ่ายทำ Deadpool 2 คืองานที่ง่ายที่สุดเท่าที่เคยทำมา "การถ่ายทำเรื่องนั้นมันเป็นยังไงน่ะเหรอ? มันคืองานที่ง่ายที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาเลยครับ เดฟเขาเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของผม เขาเคยเป็นสตั้นต์ให้ผมตั้งแต่ Fight Club มาเรื่อย ๆ จนถึงปี 2004 หลังจากนั้นเขาก็ออกไป และก็กลายมาเป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งหายากนะ หายากจริง ๆ"
เมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมรับเชิญในภาพยนตร์เรื่องนี้ พิตต์ ก็ตอบสั้น ๆ ว่า "ไรอันเขาโทรมาหาผม แล้วทำไมผมจะไม่ทำล่ะ"
พอล เวอร์นิค (Paul Wernick) ผู้เขียนบทเคยเผยว่าเดิมทีแล้วในบทที่เขากับ เร็ทท์ รีส (Rhett Reese) และ ไรอัน เรย์โนลด์ส (Ryan Reynolds) เขียนร่วมกันนั้นไม่ได้นึกถึงการใช้คนดังมาร่วมรับเชิญเลย แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็คิดว่าคอนเซ็ปต์ของ แวนิเชอร์ น่าจะเหมาะให้คนดังมาร่วมแสดง "เราไม่เคยเห็นแวนิเชอร์ในบทต้นฉบับเลย เขาเป็นคนลึกลับเสมอมา แต่เมื่อเขาต้องเข้ามาพัวพันกับความยุ่งเหยิง เราก็เกิดความคิดกันว่า 'โอ้พระเจ้า มันจะสมบูรณ์แบบแค่ไหนนะถ้าได้คนดังมาแสดง' แล้วจากนั้นเราก็คิดกันว่า 'ใครกันนะที่ยากที่สุดที่จะได้มาในวงการฮอลลีวูดนี้?' โทรหาเขากันเถอะ"
ด้านผู้กำกับ ลิตช์ ก็บอกว่าไม่ได้มีความกดดันอะไร เมื่อ พิตต์ ตอบตกลง "มันเป็นบทที่เล็กน้อยมาก แต่เมื่อเราได้รับการตอบตกลงแล้ว มันก็ไม่ได้มีความรู้สึกกดดันอะไร เรามีช่องทางที่จะทำมันออกมาให้สำเร็จ เราถ่ายแผ่นกระจก และเราก็แค่ต้องการให้เขามาถ่ายหน้ากรีนสกรีนเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น"
เมื่อปี 2018 เรย์โนลด์ส เคยให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Online เกี่ยวกับฉากของ แวนิเชอร์ ว่า พิตต์ ยอมตกลงมาถ่ายให้ฟรี ๆ "มันเป็นบทที่เล็กมาก แต่เมื่อเราได้รับการตอบตกลง ก็เลยมีการเพิ่มรายละเอียดปลีกย่อยลงไปนิดหน่อย มีคนบอกผมว่าเขาต้องการแค่กาแฟสักแก้ว ผมเลยถามไปว่า 'แฟรนไชส์สักร้านหรือกาแฟแค่แก้วเดียวนะ?' แล้วผมก็ได้รับการยืนยันว่ากาแฟเพียงแก้วเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาบอกคือ 'ผมทำมันโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน' นั่นมันคือสิ่งที่ดีงามและอ่อนโยนที่สุดที่ใครคนหนึ่งจะทำได้เลยครับ"