ภาพยนตร์เรื่องโปรดของแอนดี้หนุ่มน้อยเจ้าของเหล่าของเล่นจาก Toy Story ที่ได้หุ่นบัซ ไลท์เยียร์มาเป็นเพื่อนเล่นในปี 1995 ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวการผจญภัยของ บัซ ไลท์เยียร์ นักบินอวกาศผู้มีความมุ่งมั่นและภักดีในอาชีพของตัวเอง การผจญภัยของบัซเริ่มต้นเมื่อเขาต้องติดอยู่บนดาวเคราะห์ร้างที่ห่างไกลจากโลกถึง 4.2 ล้านปีแสง เขาและทีมจึงได้เร่งพัฒนายานอวกาศหาวิธีการเพื่อพาทุกคนกลับสู่โลก วันหนึ่งในขณะที่พวกเขากำลังทดสอบยานอวกาศลำใหม่ เกิดเหตุผิดพลาดขึ้นทำให้บัซและซ็อกซ์ หุ่นยนต์แมวคู่ใจไปตกยังดาวปริศนาแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะที่บัซพยายามหาทางเอาตัวรอดและพาตัวเองออกจากดาวแห่งนั้น ต้องเผชิญกับกองทัพหุ่นยนต์เอเลี่ยนเซิร์ก ที่แสนโหดเหี้ยม แต่ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดีที่ได้พบกับเพื่อนใหม่ร่วมผจญภัยไปพร้อมกันกับเขา
ก่อนอื่นต้องขอชมเลยว่า Pixar ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้งเพราะ Lightyear ก็เป็นผลงานอีกเรื่องที่ทำออกมาได้น่ารัก ดูสนุกดูเพลิน และทำให้เราเข้าใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงเป็นหนังเรื่องโปรดของแอนดี้ที่ยังเป็นหนุ่มน้อยอยู่ในตอนนั้น บัซในเรื่องนี้คือเท่มากกกกก หล่อมากกกกกก แถมยังฉลาดระดับหัวกะทิของทีมนักบิน คือเข้าใจเลยว่าทำไมบัซถึงมีนิสัยเอาจริงเอาจังกับทุกสิ่งอย่าง ทำไมถึงต้องมีระเบียบแบบแผน ก็เพราะว่าเขาเคยแบกชีวิตรวมถึงอนาคตของเพื่อนร่วมงานเอาไว้บนบ่ามาก่อน หนังไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ Toy Story เลย เป็นเรื่องของบัซล้วน ๆ องค์ประกอบให้ฟีลเหมือนได้กลับไปดูหนังในวัยเด็กอีกครั้ง แต่ก็มีหลากหลายประเด็นที่ทันสมัยไม่เบา
ที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาบัซของเราไปเลยก็คือน้องแมวซ็อกส์ หุ่นยนต์เพื่อนคู่หูของบัซตัวสร้างสีสันให้กับเรื่องนี้ บอกตรง ๆ เลยว่าถ้าขาดน้องไปตัวหนังคงน่าเบื่ออยู่พอสมควร ด้วยปมของหนังกับตัวร้ายไม่ได้แปลกใหม่ หรือเอาชนะอะไรยากเย็นขนาดนั้น ว่าง่าย ๆ คือไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์หรือตื่นเต้นลุ้นระทึกเท่าไร เพราะเน้นไปที่การผจญภัยกับการเติบโตของบัซ ได้เห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบบัซเปลี่ยนไปขนาดไหน และอะไรทำให้เขากลายเป็นบัซ ไลท์เยียร์ขวัญใจของแฟน ๆ Toy Story จนถึงทุกวันนี้ แต่เชื่อเลยว่าดูจบแล้วทุกคนจะต้องหลงรักนักบินคนเก่งคนนี้มากขึ้น แถมแฟน ๆ จะรู้ความหมายของประโยคดังอย่าง "สู่ความเวิ่งว้างอันไกลโพ้น To infinity and beyond" ได้ลึกซึ้งมากขึ้นแน่นอน
ชื่นชมที่ภาพยนตร์สนับสนุน LGBTQIA+ ทำให้เรื่องของความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องปกติในสังคม ไม่ว่าใครก็สามารถมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ ทั้งยังทำให้คิดได้ว่าบางครั้งมิตรภาพดี ๆ ก็สามารถเป็นเซฟโซนให้เราได้ไม่ต่างอะไรจากครอบครัว สรุปโดยรวมหนังทำออกดีตามมาตรฐานของ Pixar แฟน ๆ Toy Story ดูได้ไม่ผิดหวัง แต่ก็เป็นหนังที่ย่อยง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน เน้นขายความเป็นบัซ ไลท์เยียร์ มิตรภาพ และครอบครัว ใครคาดหวังฉากบู๊บุ๋น มันส์จนนั่งไม่ติดเบาะ หรือสงครามอวกาศระดับจักรวาลระเบิดระเบ้อขนาดนั้นอาจจะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร ขอเคาะคะแนนเอาไว้ที่ 8.5/10