สานต่อเรื่องราวสุดยิ่งใหญ่ในโลกเวทมนตร์หลังจากจอมเวทย์ร้าย เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ วางแผนครองโลกมนต์วิเศษเตรียมพร้อมทำสงครามกับโลกมนุษย์ ร้อนถึง อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ต้องขอความช่วยเหลือจาก นิวท์ สคามันเดอร์ ศิษย์รักนักสัตว์วิเศษวิทยานำทัพเหล่าพ่อมดแม่มดและเพื่อนซี้นักอบขนม เจค็อบ มาเข้าร่วมภารกิจเสี่ยงอันตรายเพื่อปกป้องโลกทั้งสองฝั่งเอาไว้ให้ได้
ภาคนี้หนังเน้นไปที่แฟนเซอร์วิส แก้ปมที่ผูกไว้ได้ฉลุยไม่ขัดใจ กลมกล่อมกว่าภาคที่แล้วมาก ทั้งประเด็นเรื่องภูมิหลังของครีเดนซ์ ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของดัมเบิลดอร์กับกรินเดลวัลด์ก็ชัดเจนแจ่มแจ้งไม่ต้องมานั่งจิ้นเองให้เหนื่อย มีตัวละครให้ได้ทำความรู้จักเพิ่มขึ้นอีกเป็นกระบุง แถมด้วยประเด็นการเมืองเข้ามาทำให้เราได้เห็นโลกเวทมนตร์ที่กว้างใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งบ้านเก่าอย่างฮอกวอตส์ ซึ่งนับเป็นฉากเชื่อได้เลยว่าพอตเตอร์เฮดเห็นแล้วก็กรีดร้องอยู่ในใจ อยากกลับไปย้อนดู Harry Potter กันอีกรอบแน่นอน เรียกว่าฉลาดเล่นกับความทรงจำของเรามาก เพราะแอบแทรกไข่อีสเตอร์เอาไว้เต็มไปหมด สาวกโลกเวทมนตร์ตัวจริงคืองานนี้ต้องได้สนุกไปกับการระลึกความหลังตลอดเวลา ชอบที่ภาคนี้ไม่ทิ้งสัตว์วิเศษเอาไว้ข้างหลังอย่างภาคก่อน เท็ดดี้กับพิกเก็ตสองคู่หูคู่ใจนิวท์คือยังคงความน่าเอ็นดู แถมเรายังได้รู้จักกับสัตว์วิเศษตัวใหม่ที่บอกเลยว่าตราตรึงใจมากจริง
ชอบที่สุดเลยคือเคมีของ จู๊ด ลอว์ และ แมดส์ มิคเคลสัน ทั้งสองถ่ายทอดความเป็น อัลบัส ดัมเบิลดอร์ และเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ออกมาได้มีเสน่ห์มาก หลายคนอาจขัดใจที่ป๋าเดปป์ถูกแทนที่ แต่บอกเลยว่าการแสดงของแมดส์เองก็เอาอยู่ไม่แพ้ใครเช่นกัน เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของพวกเขาเองก็สมเหตุสมผล จากเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ลุ่มหลงในกันและกัน โตมารู้ความก็แค่ต้องเลือกระหว่างสิ่งที่รักกับสิ่งที่ถูก ส่วน เอ็ดดี้ เรดเมย์น ก็ยังคงรับหน้าที่เป็น นิวท์ สคามันเดอร์ ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง บทบาทของเขาในภาคนี้กลับมาโดดเด่นเหมือนเคย ในส่วนของตัวละครหน้าใหม่อื่น ๆ ถือว่าปูเรื่องมาได้ดี เล่าภูมิหลังได้กระชับ ไม่ยืดเยื้อ ไม่ต้องเป็นพอตเตอร์เฮดความรู้แน่นปึ้กก็สามารถทำความรู้จักและเข้าใจในทุกเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์ ประทับใจตรงที่หนังสามารถทำให้เรารู้สึกผูกพันกับตัวละครใหม่ไปด้วยในตอนจบ
ถ้ามีส่วนติก็คงเป็นส่วนที่ปมทุกอย่างดูแก้ได้ง่ายดาย แผนลับโค่นพ่อมดที่ทรงพลังที่สุดในรอบหลายปีก็ไม่ได้ดูซับซ้อน เดาทางได้ง่าย ไม่มีหักมุมให้ว้าวอะไรเป็นพิเศษ การกระจายบทของตัวละครแม้ว่าจะทั่วถึง แต่ก็เหมือนพยายามยัดทุกเรื่องมาเล่าให้ครบในภาคเดียว มันเลยมีช่วงที่เนือยบ้าง เร่งบ้าง อินตามไม่ทันบ้างอยู่ประปราย ในมุมของคนดูหนังคงมีช่วงที่อาจจะเฉย ๆ เบื่อ ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถ้าดูในมุมของพอตเตอร์เฮดนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันดูตื่นตาไปหมด ก็สมกับชื่อเรื่องว่าความลับของดัมเบิลดอร์อยู่นะว่าไม่ได้
โดยรวมภาพยนตร์ดูได้เพลิน ๆ ครบรสความสนุก ปลื้มปรื่มไปกับความรัก ความผูกพันของตัวละคร เหมือนได้นั่งรถไฟกลับบ้านเก่าที่เราคิดถึง ตื่นตากับสิ่งใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยได้รู้มาก่อนตอนดู Harry Potter พูดได้ว่านี่อาจไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดแต่มันทำให้อิ่มเอมใจที่สุดจริงๆ ขออนุญาเคาะคะแนนไว้ที่ 9/10 เลยแล้วกัน!