เดินทางมาถึงภาพยนตร์ลำดับที่สามแล้วสำหรับแฟรนไชส์โลกเวทมนตร์และสัตว์วิเศษ Fantastic Beasts ที่ภาพยนตร์ภาค Fantastic Beasts: The Secrets Of The Dumbledore เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ เตรียมพร้อมเปิดเรื่องราวความลับของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกพ่อมด-แม่มด อัลบัส ดัมเบิลดอร์ และเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ท่ามกลางสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่อาจเปลี่ยนแปลงชะตาของโลกแห่งมนต์วิเศษไปตลอดกาล
แต่ก่อนที่จะไปพบกับเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ หนังดีดอทคอม ขอชวนทุกคนมาทบทวนความทรงจำจากภาพยนตร์ที่ผ่านมาก่อนไปลุ้นระทึกหวนสู่เวทมนตร์ในดรงภาพยนตร์กัน
เนื้อเรื่องหลัก
Fantastic Beasts เป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่เรื่องราวเกิดก่อนเหตุการณ์ทั้งหมดในแฟรนไชส์ Harry Potter ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยจะเล่าถึงเรื่องราวในโลกเวทมนตร์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1920 ของเหล่าพ่อมด-แม่มด และโน-แมจ (ผู้ไร้เวทมนตร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ มักเกิ้ล) ทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกา
ภาพยนตร์เกี่ยวกับ นิวท์ สคามันเดอร์ (เอ็ดดี้ เรดเมย์น) นักสัตว์วิเศษวิทยา ลูกศิษย์คนโปรดของ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ที่เชี่ยวชาญด้านการรับมือกับสัตว์วิเศษในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มพ่อมด-แม่มดสายเวทมนตร์มืดนำโดย เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ซึ่งจะเปิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในโลกเวทมนตร์ในภาคนี้ ทำให้ ดัมเบิลดอร์ ขอให้ สคามันเดอร์ และสหายรวมทีมเพื่อปกป้องโลกจากมหันตภัยสายเวทย์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ลีตา เลสแตรงจ์ จากเราไปแล้ว
ในตอนท้ายของ The Crimes of Grindelwald เราได้เห็นว่า ลีตา สละชีวิตตัวเองเพื่อให้พ่อมด-แม่มดคนอื่นรอดปลอดภัยจากไฟเพลิงของ กรินเดลวัลด์ แน่นอนว่าเราไม่อาจมั่นใจได้แน่ชัดว่าการเสียสละครั้งนี้จะทำให้ ลีตา จากเราไปตลอดกาลหรือไม่ แต่สังเกตจากการที่ โซอี้ คราวิตช์ นักแสดงผู้รับบท ลีตา ไม่ปรากฏตัวใน The Secrets of Dumbledore ก็สามารถตั้งเป็นข้อสันนิษฐานได้ว่าเวลาโลดแล่นในโลกเวมทนตร์ของ ลีตา นั้นได้จบลงแล้ว
สำหรับตระกูลเสแตรงจ์นั้นเราเคยได้รู้จัก เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ผู้เสพความตายมือสังหาร ซีเรียส แบล็ค กันไปแล้วใน Harry Potter อ้างอิงจากในนิยายตระกูลนี้เป็นตระกูลที่เป็นผู้เสพความตายและใช้ศาสตร์มืดมาอย่างยาวนาน ก็เป็นที่น่าสนใจว่า The Secrets of Dumbledore จะมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ศาสตร์มืดของตระกูลนี้ก่อนจะที่จะไปรับใช้ผู้เสพความตายอย่าง โวลเดอมอร์ หรือไม่
ครีเดนซ์ แบร์โบน คือ ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์
ในตอนแรก ดัมเบิลดอร์ คิดว่า ครีเดนซ์ คือ คอร์วุส เลสแตรงจ์ ที่ 5 สมาชิกตระกูลเลสแตรงจ์ที่หายสาบสูญไปอย่างยาวนาน แต่ใน The Crimes of Grindelwald มีการฉากที่บ็อกการ์ดของ ลีต้า ปรากฏภาพญาติพี่น้องทารกของเธอจมน้ำหายไปในมหาสมุทร
และในตอนท้ายของ The Crimes of Grindelwald ยังมีการเปิดเผยโดย กรินเดลวัลด์ว่า แท้จริงแล้ว ครีเดนซ์ นั้นคือ ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์ ยืนยันทางการที่เขามีพลังเชื่อมโยงกับนกฟีนิกซ์ ซึ่ง ดัมเบิลดอร์ เคยบอกกับ นิวท์ ตั้งแต่ต้นเรื่องว่าสมาชิกตระกูลดัมเบิลดอร์ของเขาทุกคนนั้นมีความสามารถประจำตระกูลนั่นก็คือ การเรียกนกฟีนิกซ์
นากินี อีกหนึ่งตัวละครน่าจับตา
ใน The Crimes of Grindelwald เราได้รับรู้ว่า นากินี นั้นเป็นเพื่อนสนิทของ ครีเดนซ์ เพราะพวกเขาอยู่ในคณะละครสัตว์ในฐานะมนุษย์ประหลาดเหมือนกัน เพราะ นากินี นั้นมีพลังกลายร่างเป็นงู แต่แท้จริงแล้วเธอคือ มาเลดิกตัส ผู้ต้องคำสาปทางสายเลือดให้กลายร่างเป็นสัตว์ตลอดไป ซึ่งเราคุ้นหูชื่อของเธอกันอย่างดีจาก Harry Potter กับบทบาทงูเคียงคู่กาย โวลเดอมอร์ ซึ่งเป็นฮอร์ครักซ์ชิ้นสุดท้ายของเขาด้วยนั่นเอง
จากเนื้อเรื่องใน The Crimes of Grindelwald ทาง นากินี ดูจะอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ต้องกลายร่างเป็นงูโดยสมบูรณ์ เธอจึงหวังพึ่งให้ นิวท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์วิเศษวิทยามาช่วยเหลือ ในขณะที่ทาง ครีเดนซ์ กลับอยากใช้พลังออบสคูรัสในตัวทำสิ่งที่อาจจะตรงข้ามกับเพื่อนรักของเขา และเราจะได้เห็นกันต่อไปว่าชะตากรรมของสองเพื่อนรักนี้จะเป็นเช่นไรใน The Secrets of Dumbledore
ครีเดนซ์ และ ควีนนี่ เข้าร่วมทัพศาสตร์มืดกับ กรินเดลวัลด์
แม้แต่พ่อมด-แม่มดผู้แข็งแกร่งก็ไม่อาจต้านทานวาจาของ กรินเดลวัลด์ได้! ฉากสุสานตระกุลเลสแตรงจ์ที่ปรากฏใน The Crimes of Grindelwald กรินเดลวัลด์ ได้เอ่ยปากเชิญชวนเหล่าผู้ใช้เวทย์มาเข้าร่วมทัพล้มล่างโลกเคียงข้างเขา และแม้จะรักหวานชื่นกับ เจค็อบ มากขนาดไหน แต่สุดท้าย ควีนนี่ โกลด์สตีน ก็ตัดสินใจเข้าร่วมฝั่งกับ กรินเดลวัลด์ พร้อม ๆ กับ ครีเดนซ์ ที่ตัดสินใจทิ้ง นากินี ไว้ข้างหลังเช่นเดียวกัน
ดัมเบิลดอร์ อาจทำลายสัญญาเลือดระหว่างเขากับ กรินเดลวัลด์
ดัมเบิลดอร์ เคยเปิดเผยให้ นิวท์ ฟังว่า สัญญาเลือด ที่เขาทำไว้กับ กรินเดลวัลด์ นั้นคือสัญญาที่ทำให้เขากับ กรินเดลวัลด์ ไม่อาจเผชิญหน้าปะทะกันได้ แต่เมื่อ นิวท์ ถามว่าสัญญานี้สามารถทำลายเป็นโมฆะได้หรือไม่ ดัมเบิลดอร์ กลับตอบว่า “อาจจะได้” นั่นหมายความว่าอาจมีสมาชิกในตระกูลดัมเบิลดอร์ที่ทรงพลังมาก ๆ มาทำลายสัญญานี้ หรือเรื่องราวอาจจะน่าเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้นหากมีการเปิดเผยเบื้องลึกของประเด็นนี้ใน The Secrets of Dumbledore
ที่มา : cinemablend.com