เตรียมพบกับอีกหนึ่งผลงานสุดท้าทาย ของสาวสวยมากความสามารถอย่าง นาโอมิ วัตส์ นักแสดงหญิงแถวหน้าผู้เคยฝากผลงานสุประทับใจเอาไว้มากมาย รวมถึงเคยรับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากแล้วจาก 21 Grams (2003) และ The Impossible (2012) สู่ผลงานระทึกขวัญชั้นเยี่ยมอย่าง "The Desperate Hour ฝ่าวิกฤตวิ่งหนีตาย" โดย ฟิลิป นอยส์ ผู้กำกับ (Salt และ The Giver) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่มีความแปลกใหม่ และมีชั้นเชิงรวมไปถึงการนำเสนอเรื่องราวแบบเรียลไทม์ ช่วงเวลา 84 นาทีแห่งความเป็นความตายจากเหตุกราดยิงในโรงเรียน ทางเดียวที่จะช่วยลูกชายได้คือเธอต้องอย่าหยุดวิ่ง!
โดย นาโอมิ วัตส์ พูดถึงการเตรียมตัวมารับบท เอมี่ คาร์ หญิงสาวที่ต้องทำทุกวิถีทางแม้จะมีเพียงแค่โทรศัพท์เครื่องเดียว ท่ามกลางป่าลึก เพื่อวิ่งไปให้ถึงสถานที่เกิดเหตุ เรียกได้ว่าเธอต้องฉายเดี่ยวทางการแสดงแบบเต็มขั้น ทั้งสีหน้า อารมณ์ และท่าทาง จนทำให้ภาพยนตร์ได้รับคำชมจากสื่อทั่วโลก หลังได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต โดยนาโอมิได้กล่าวถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่า
"เอมี่ เป็นคุณแม่ลูกสอง ในขณะที่ลูกชายของเธออยู่ในช่วงวัยรุ่น เธอแทบไม่มีเวลาใส่ใจลูกเธอเลย นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในเรื่อง สาเหตุที่ทำให้ฉันรับบทนี้เพราะฉันเองก็เป็นคุณแม่ ฉันวิตกและกลัวทุกครั้งที่เห็นข่าวกราดยิงบนหน้าหนังสือพิมพ์ ยิ่งการที่สถานศึกษาที่มีแต่เด็กๆ กลายมาเป็นเป้าโจมตี เรื่องนี้มีความระทึก, ตัวละครที่น่าสนใจและสมจริง การที่ผู้หญิงธรรมดาต้องมาเจอเหตุการณ์ไม่ธรรมดา ฉันได้กลับไปทำร่วมงานกับ ฟิลลิป นอยซ์ผู้กำกับที่เชื่อฝีมือได้ ฉันยังชอบผลงานก่อนหน้าของเขาอย่าง Buried ซึ่งมันมีความคล้ายกับเรื่องนี้ เพราะมันเป็นสถานที่บีบคั้นซึ่งเกิดขึ้นกับตัวละครเดียว หลังตัดสินใจเล่นหนังเรื่องนี้ ฉันเริ่มโปรแกรมวิ่งอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าฉันแทบไม่ต้องปรับตัวเท่าไหร่เลย เหมือนร่างกายยังจำได้ ฉันคิดว่าตอนถ่ายจริงคงวิ่งแค่สั้นๆ แต่กลายเป็นว่า ผู้กำกับชอบถ่ายลองเทคยาวมากกว่าจะคัทที กว่าจะปิดกล้องฉันฟิตขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย"
เมื่อทุกเสี้ยววินาทีคือเส้นตายเธอต้องห้ามหยุดวิ่ง ถ้าอยากรอด! จากผู้กำกับ Salt และ The Bone Collector "The Desperate Hour ฝ่าวิกฤตวิ่งหนีตาย" 10 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์