ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์มาแล้วทั่วโลก สำหรับ "The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ" จากตำนานอันทรงคุณค่า สู่มหากาพย์ภาพยนต์ผจญภัยแฟนตาซีเรื่องเยี่ยมแห่งปี 2021 ครั้งแรกของค่ายหนังมือรางวัล A24 ที่เลือกนำเรื่องราวของอัศวินโต๊ะกลมผู้กล้าอย่าง "เซอร์กาเวน" (เดฟ พาเทล The Slumdog Millionaire, Lion) ซึ่งเป็นหลานชายของกษัตริย์อาเธอร์ เมื่อเขาต้องเผชิญบททดสอบแห่งความตายจาก "อัศวินมรกต" กาเวนจึงต้องเดินทางฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ในดินแดนลึกลับโดยที่เขาต้องรับมือ กับวิญญาณอาฆาต, ยักษ์ และโจร เพื่อค้นหาตัวตนและพิสูจน์คุณค่าของเขาต่อครอบครัวและอาณาจักร ซึ่งก่อนที่จะไปชมความสนุกตื่นเต้นของตำนานอัศวินที่โลกต้องจารึก ก็ขอมาอุ่นเครื่องทำความรู้จัก ใครคือ "เซอร์กาเวน"? ให้ผู้ชมรู้จักกันก่อน
"เลือดร้อน เจ้าสำราญ มั่งคั่ง" น่าจะเป็น 3 คำที่ตอบความเป็น "เซอร์กาเวน" ได้ชัดเจนที่สุด เขาคืออัศวินหนุ่มผู้ใช้ชีวิตสุขสบายในฐานะหลานชายของ "กษัตริย์อาเธอร์" ที่หลายคนคงคุ้นชื่อ เพราะถูกนำมาดัดแปลงมากมายหลายเวอร์ชัน แต่ครั้งนี้ The Green Knight จะเปิดตำนานของเซอร์กาเวนแบบอินไซด์ ซึ่งเป็นเพียงครั้งที่สาม ที่ปรากฏขึ้นในโลกภาพยนตร์!
อัศวินโต๊ะกลมระดับตำนาน แต่ไม่มีตำนาน
ไม่มีตำนานแล้วมีอะไรให้พูดถึง? อย่างที่บอกว่าเซอร์กาเวนเป็นหลานของกษัตริย์อาเธอร์ ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกอัศวินโต๊ะกลมแบบไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องต่อสู้กับใคร และไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ นั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่เคยเข้าใจความหมายของคำว่า "เกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นมนุษย์" ซึ่งผลของการไม่รู้จึงนำมาสู่การหาคำตอบว่าเขาเกิดมาทำไม?
อาสาสังหารอัศวินมรกต
ในปีหนึ่งของงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสของกษัตริย์อาเธอร์และบรรดาอัศวินโต๊ะกลม "อัศวินมรกต" ปรากฏกายขึ้นพร้อมคำท้าให้ผู้ใดที่กล้าจงลุกขึ้นมาบั่นหัวเขาให้ขาด สิ่งแลกเปลี่ยนเดียวที่ต้องการคืออีกหนึ่งปีข้างหน้า เขาจะเป็นฝ่ายลงมือคืนบ้างเท่านั้น ท่ามกลางความว้าวุ่นใจของบรรดาอัศวินโต๊ะกลม เซอร์กาเวนเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่อาสาสังหารอัศวินมรกต หรือเขาจะเกิดมาเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความกล้าหาญ?
ณ จุดที่สว่างที่สุด เขาจะส่องสว่างที่สุด
ถึงแม้ว่าเซอร์กาเวนจะไม่ใช่อัศวินที่สมบูรณ์แบบ แต่การรักษาสัจจะก็เป็นหัวใจสำคัญของอัศวิน เมื่อครบกำหนดสัญญาที่ให้ไว้กับอัศวินมรกต เขาจึงมุ่งมั่นที่จะทำภารกิจ คว้าขวาน คลุมเสื้อสีเขียว ควบม้าคู่ใจ ออกเดินทางพร้อมกับพรวิเศษที่ว่า "เขาจะไม่มีทางแพ้ศึกใด ตราบใดที่แสงอาทิตย์ส่องถึงตัวเขา”
บททดสอบของความ "กล้าหาญ" สัตว์ร้าย โจรป่า
ภูติผี สาวสวย และ "…"
อัศวินในปราสาทใหญ่ กลายเป็นเพียงชายหนุ่มในโลกความเป็นจริง การเดินทางครั้งนี้เปรียบเสมือนการค้นหาตัวตนของเซอร์กาเวน เขาต้องรับมือกับสัตว์ร้าย โจรป่า ภูติผี สาวสวย โดยเฉพาะการเอาชนะอีโก้ของตัวเอง The Green Knight จึงไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่เป็นทริปสั้น ๆ เพียง 2 ชั่วโมง 10 นาที ที่จะพาเราออกผจญภัย ทบทวนศักยภาพในตัวเอง และความกล้าหาญที่ทำให้เติบโตขึ้น
รวมสร้างตำนานบทใหม่ไปพร้อมกับเซอร์กาเวนได้ใน "The Green Knight" 11 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างพิเศษ