"ผู้จัดการของฉันโทรมาแล้วบอกว่า 'พวกเขากำลังจะทำหนังแบทแมน และมันก็มีบทแคทวูแมนอยู่ เธออยู่ในลิสต์รายชื่อนักแสดงที่พวกเขาสนใจ' ฉันคิดว่าสิ่งแรกที่เกิดขึ้นก็คือฉันเดินทางไปหา แมตต์ รีฟส์ ผู้ที่รับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบท ที่แอลเอ เพื่อพูดคุยกับเขา เมื่อฉันอ่านบทแล้ว เขาก็คุยกับฉันอีกครั้งเพื่อฟังความคิดเห็นของฉัน และก็เพื่อที่จะดูว่าเราเห็นตรงกันหรือไม่ ตอนนั้นฉันไม่ได้รู้จักเขาดีนัก มันจึงมีกระบวนการเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อมีโอกาสใหญ่ ๆ เหล่านี้เข้ามา และบทบาทที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ฉันก็อยากที่จะคว้ามันเอาไว้มาก ๆ เพราะมันคงรู้สึกเหมือนอกหักถ้าฉันไม่ได้รับโอกาสเหล่านี้ ฉันก็เลยใส่เอนเนอร์จีลงไปเยอะเลยล่ะค่ะ"
"สิ่งที่ฉันพยายามจะควบคุมเอาไว้ตลอดเวลาก็คือความต้องการที่จะเป็นที่พอใจและชื่นชอบ เพื่อจะได้บทนี้มาครอง การได้อ่านบทและพูดว่า 'ฉันรักมัน ฉันรักทุกอย่างเกี่ยวกับมัน' เมื่อไปออดิชั่น ฉันก็จะมีเอนเนอร์จีของลูกสุนัขแบบนี้อยู่ค่ะ"
"สิ่งสำคัญคือการบอกให้เขารู้ว่าการทำงานกับฉันจะเป็นประมาณไหน เพื่อที่จะบอกถึงสิ่งที่ฉันคิดจริง ๆ ถ้าเราต้องทำงานในกองถ่ายร่วมกัน และเพื่อที่จะถามคำถามต่าง ๆ ที่ฉันอยากจะถาม ฉันพยายามที่จะเข้าถึงมันจากมุมที่ฉันแสดงออกให้เขาเห็นในสิ่งที่ฉันเข้าใจ และความรู้สึกที่ฉันมีต่อตัวละครนี้ ฉันเชื่อว่านั่นคือสาเหตุที่เกิดขึ้น และฉันก็ได้บทนี้มาครอง แมตต์ เขาเป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมเลยนะคะ เขาคุยถึงตัวละครนี้อย่างจริงจัง เราได้หารือกันเป็นอย่างดีเลยจริง ๆ ฉันมีความเห็นบางอย่างเกี่ยวกับตัวละครนี้หลังจากที่ได้อ่านบทด้วย และพวกเขาก็ยินดีที่จะรับฟัง"
"ใช่ค่ะ ฉันดูหนังทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ฉันได้อ่านการ์ตูนไปบ้างแล้วด้วย แต่ฉันไม่ใช่คอการ์ตูนหรืออะไรทำนองนั้น ฉันพยายามที่จะคิดทบทวนเกี่ยวกับมัน ไม่ใช่ด้วยฐานะแคทวูแมน แต่ในฐานะของผู้หญิงคนหนึ่ง นี่มันทำให้ฉันรู้สึกยังไง? เราจะไปถึงจุดนี้ได้ยังไง และเราจะมั่นใจว่าเราไม่ได้ก่อให้เกิดการยั่วยวนทางเพศ หรือสร้างทัศนคติเชิงอคติยังไง? ฉันรู้ว่ามันจำเป็นต้องแสดงความเป็นคนอย่างแท้จริง"