มีรายงานข่าวออกมาว่าทั้ง Apple และ Netflix ต่างหมายมั่นจะคว้าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ชีวประวัติของตัวแทนคนดังมากความสามารถ ซู เมนเจอร์ส ไปครอบครอง โดยโปรเจกต์นี้ได้ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) มารับบทนำ ภายใต้การกำกับของ เปาโล ซอร์เรนติโน (Paolo Sorrentino)
แมทธิว เบลโลนี (Matthew Belloni) อดีตผู้อำนวยการกองบรรณาธิการของ The Hollywood Reporter เผยในจดหมายข่าว What I’m Hearing… ของเขาว่า "แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกว่า Apple เสนอราคาประมูลอยู่ที่ราว ๆ 80 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมกับค่าธรรมเนียมที่บวกไปอีก 20 ล้านดอลลาร์ สำหรับ ลอว์เรนซ์ ที่จะมารับบทนำ และอำนวยการสร้างร่วมกับ จัสติน โพลสกี ผ่านบริษัท Excellent Cadaver ของพวกเขา"
เมนเจอร์ส ทำงานให้กับ ICM, MCA และบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง William Morris Agency มาตลอดเส้นทางสายอาชีพที่โดดเด่นของเธอ และเธอยังเคยเป็นตัวแทนให้กับลูกค้าผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย อาทิ บาร์บรา สไตรแซนด์ (Barbra Streisand), แชร์ (Cher), สตีฟ แม็คควีน (Steve McQueen), เบิร์ต เรย์โนลด์ (Burt Reynolds) และผู้มีชื่อเสียงอื่น ๆ อีกมากมาย
เมนเจอร์ส เป็นตัวแทนที่มีอิทธิพลอย่างมากในยุค 60 ถึงต้นยุค 70 เธอช่วยลูกค้ารายใหญ่ของเธอหลายรายให้บรรลุการทำข้อตกลงเป็นประวัติการณ์ และเธอยังช่วยสนับสนุนดารารุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตมากมายเช่น แคนดิซ เบอร์เกน (Candice Bergen), เฟย์ ดันอเวย์ (Faye Dunaway) และ ไซบิลล์ เชพเพิร์ด (Cybill Shepherd) อย่างไรก็ตามเธอเริ่มปิดรับลูกค้าในช่วงปลายยุค 70 ถึง 80 เมื่อธุรกิจตัวแทนเริ่มเปลี่ยนไป และมีนักเจรจาต่อรองที่โหดเหี้ยมเพิ่มขึ้นมากมาย อย่างเช่น ไมเคิล โอวิตซ์ (Michael Ovitz) ตัวแทนจาก CAA ผู้เป็นดั่ง "ทหารราบ" ในการทำสงครามกับเอเจนซี่คู่แข่งตลอดกาล สุดท้าย เมนเจอร์ส ได้เสียชีวิตลงเมื่อปี 2011 ในวัย 81 ปี