“โอ้ มันคือตอนที่หนังของเขาเพิ่งจะออกฉาย และฉันก็เพิ่งจะเสร็จจากหนัง Sorority Row เมื่อปี 2009 ดังนั้นเราทุกคนจึงอยู่ที่เวกัส เพื่อร่วมงานประกาศรางวัลงานหนึ่ง รูเมอร์ วิลลิส และนักแสดงทุกคนก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาเข้ามาหา และแนะนำตัวกับฉัน แล้วเขาก็ให้เบอร์โทรศัพท์เขากับฉัน พวกสาว ๆ แอบเตะฉันใต้โต๊ะ แล้วพูดว่า ‘โอ้พระเจ้า เธอไม่รู้หรอว่าเขาเป็นใคร’ ฉันเลยบอกไปว่า ‘ไม่รู้’ แล้วพวกเธอก็บอกว่า ‘เขาคือ คริส ไพน์’ ตอนนั้นฉันรู้สึกแบบ ‘โอ้ เขาดูฮอตมาก’เราออกไปเที่ยวด้วยกันสองสามครั้ง เราไปเดตกัน จริง ๆ แล้วเราไปด้วยกันมากกว่าสองสามครั้ง แต่จากนั้นฉันก็ต้องถ่ายซีรีส์ The Hills อยู่ตลอดเวลา ส่วนงานของเขาก็กำลังจะเริ่ม เขาไม่ชอบพวกปาปารัสซีที่มาแอบตาม แต่นั่นมันคือชีวิตของฉัน เวลาออกไปข้างนอก ฉันมักจะถูกปาปารัสซีตาม ดังนั้นช่วงที่ถ่าย The Hills ชีวิตของเรามันก็เลยตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง มันก็แค่ความแตกต่างกันมากด้วยไลฟ์สไตล์และการถ่ายทำของฉันเขาเป็นยิ่งกว่านักแสดงตัวจริง และนักแสดงละครเวที เขารักการอ่านหนังสือ และเพลงแจ๊ส เขาไม่ชอบไปเที่ยวคลับหรืออะไรแนว ๆ นั้นเลยจริง ๆ ชีวิตของฉันในช่วงนั้นทั้งหมดที่ฉันทำก็คือออกไปคลับ เพราะตอนนั้นเราถ่ายทำกันตลอดเวลา รวมถึงคนรอบข้างด้วย เขาเป็นผู้ชายที่ดี มีเสน่ห์ และสุภาพบุรุษมาก ๆซึ่งมันเป็นแนวแบบฟุ่มเฟือยค่ะ ตอนนั้นเราไปเดตกันที่ซิลเวอร์ เลค หรือไม่ก็แถว ๆ ย่านลอสเฟลิซ เราอยู่ในรถของเขา ที่ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก เขามีเจ้ากระต่ายแก่อยู่ตัวหนึ่ง มันเป็นรถเปิดประทุนรุ่นเก่าค่ะ”
“มันเท่มาก ๆ เลยที่เขามีรถรุ่นเก่าอย่างนี้ เขาก็แค่สวมวิญญาณนักแสดงของเขา มันเท่มาก ๆ เลยค่ะ และเราก็ไปร้านอาหารอิตาเลียนกัน เราจิบไวน์กันขวดนึง ตอนที่เราอยู่ที่ร้านอาหารอิตาเลียน ฉันจำได้ว่าเขาสั่งพาสต้าหมึกดำ ตอนนั้นฉันไม่รู้จริง ๆ ว่ามันคืออะไร ฉันจำได้ว่าตอนที่เขากำลังกิน ริมฝีปากเขาเป็นสีดำตอนที่เขาเลียมัน เขาบอกว่า ‘คุณสวยมาก ผมจูบคุณได้มั้ย?’ และฉันก็ตอบไปว่า ‘โอเค’ ดังนั้นฉันก็เลยจูบเขาพร้อมกับหมึกดำ ยังไงก็ตามฉันก็ไม่ได้แคร์หรอกนะคะ แต่นั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่ฉันจะไม่มีวันลืมเลย มันเป็นจูบที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ค่ะ”
“ฉันหมายความว่าคุณไม่มีทางรู้หรอก อย่าพูดว่าเป็นไปไม่ได้ ฉันจะไม่บอกว่าไม่หรอกนะคะ แล้วฉันก็ไม่ได้ปิดกั้นมันด้วย”