นักแสดงหนุ่มสุดฮอต ฮวังอินยอบ (Hwang In-Yeop) ถูกคว้าตัวมาถ่ายแบบให้กับนิตยสาร Marie Claire ในคอนเซ็ปเก๋ไก๋แต่คลาสสิก พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิด และมุมมองในการใช้ชีวิตมาอัปเดตให้แฟน ๆ ได้อ่านกัน
ในบทสัมภาษณ์ ฮวังอินยอบ ได้เล่าถึงเรื่องราวเบื้องหลังที่ทำให้หันมาเล่น IG ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนพุ่งสูงกว่า 8.7 ล้านคนว่าก่อนที่จะมีคนมาบอกให้เขาเริ่มโพสภาพลงบนโซเชียลมีเดียเมื่อช่วง 3 หรือ 4 ปีที่แล้ว เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปตัวเองเพราะเขารู้สึกเขิน และถึงแม้ว่าตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกเขิน ๆ อยู่บ้าง แต่เขาก็พยายามที่จะโพสภาพนิด ๆ หน่อย ๆ ให้แฟน ๆ ของเขาได้ดูกัน
แม้ปัจจุบันจะกลายมาเป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมอย่างมากแล้ว แต่ ฮวังอินยอบ ก็พยายามจะใช้ชีวิตติดดิน ตามเส้นทางที่เขาตั้งใจเอาไว้ “ผมเขียนความคิดของผม และความปรารถนาลึก ๆ ที่อยู่ในใจของผมลงไป แล้วก็พยายามที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นอย่างเรียบง่าย ผมต้องใช้เวลากับตัวเองให้มากพอ แทนที่จะออกไปพบปะผู้คน ผมคิดว่าการเลือกฟังเพลงแล้วก็เดินเล่นคนเดียว มันคงจะเข้าท่าและเป็นประโยชน์กับสถานการณ์ของผมในปัจจุบันมากกว่าครับ”
ฮวังอินยอบ บอกว่าเขาไม่สามารถจะเริ่มเป็นนักแสดงตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก ๆ ได้เพราะเขาเป็นคนขี้อาย ซึ่งเขาได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “ผมควรจะฟังเสียงของตัวเองมากกว่าฟังคนอื่น แต่ผมกลับยุ่งกับการฟังว่าคนอื่นว่าพวกเขาจะพูดยังไงมากเกินไป ที่ผมทำแบบนั้นก็คงเป็นเพราะผมไม่เชื่อมั่นในตัวเองในฐานะที่เป็นนักแสดง ผมคิดว่าการแสดงออกแบบนั้นมันเป็นรูปแบบของความขี้ขลาด”
เมื่อลองมองย้อนดูตัวเองในอดีต ฮวังอินยอบ เผยว่ามีหนึ่งในลักษณะนิสัยที่เขาอยากจะเก็บรักษาเอาไว้ตลอดชีวิตการเป็นนักแสดงของเขา “ผมไม่ชอบการแข่งขันครับ โดยปกติแล้วผมไม่ได้คิดว่าผมจะต้องชนะ หรือต้องโดดเด่น ผมไม่ชอบคิดว่าผมต้องเหนือกว่า หรือต้องเอาชนะใครเพื่อไปให้ถึงจุดที่ผมต้องการ ผมอยากจะปล่อยมันเป็นไปตามน้ำ อย่างที่เป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมแน่ใจว่านี่มันไม่ได้ใช้แค่กับการที่เป็นนักแสดงเท่านั้น อีกหลายคนที่อยู่บนเส้นทางอื่น ๆ ก็คงจะรู้สึกเหมือนกัน ผมคงจะไม่มีความสุขถ้าผมอยากจะเอาชนะคนอื่นด้วยความคิดในเชิงแข่งขัน มันไม่เข้ากับบุคลิกของผมเลยครับ ดังนั้นเวลาที่ผมอยู่กับคนที่ชอบแข่งขันมาก ๆ แม้มันจะเป็นแค่เกมส์ง่าย ๆ ผมก็จะแกล้งทำเป็นแพ้ แต่แน่นอนครับว่ามันก็มีบางครั้งที่ผมแพ้จริง ๆ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็สนุกกับการทำแบบนี้นะครับ ถ้าผมเก่งในเรื่องไหน ผมคิดว่าสิ่งนั้นมันก็น่าจะโชว์ออกมาเมื่อถึงเวลา ผมเริ่มจะคิดว่าผมพูดเหมือนคนที่มองโลกในแง่ดีแล้วนะครับ แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ผมพยายามจะบอกก็คือแทนที่จะพยายามเอาชนะ ผมก็แค่ต้องทำงานให้หนักเท่านั้นเองครับ”
จากนั้นเมื่อถามถึงความปรารถนาที่เขามีในช่วงเวลานี้ ฮวังอินยอบ ก็บอกว่าเขาอยากจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียว และกังวลว่าครอบครัวของเขาอาจจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจถ้าได้ยินข่าวนี้
สุดท้าย ฮวังอินยอบ ได้พูดถึงกิจกรรมพิเศษที่เขาต้องทำให้ได้ว่า “ผมชอบทำอาหารครับ ล่าสุดผมทำต๊อกบ๊กกี แล้วมันก็ออกมาดีกว่าที่ผมคาดเอาไว้อีกครับ ผมคิดว่าผมทำได้ดีในเรื่องของรสชาตินะครับ และผมก็อยากจะจัดโต๊ะให้สวยงามด้วยผ้าปูโต๊ะ แทนที่จะมีแค่จานอย่างเดียว แม้ว่านี่มันอาจจะอยู่ได้ไม่นานก็เถอะครับ”
: