กงยู (Gong Yoo) เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด Seobok ซึ่งถ่ายทอดถึงภารกิจครั้งสุดท้ายของอดีตสายลับ “มินกีฮอน” (กงยู) ที่ต้องช่วยปกป้อง “ซอบก” (พัคโบกอม) มนุษย์โคลนคนแรกของโลกระหว่างการส่งตัวไปยังที่ปลอดภัย เนื่องจากซอบกตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนที่ต้องการจะได้เขาไปครอบครองเพื่อประโยชน์ส่วนตน
เนื่องจาก Seobok เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับมนุษย์โคลนนิ่ง และยังผูกกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย ดังนั้นการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่ง กงยู ได้แสดงความเห็นถึงหนังเรื่องนี้ว่า “Seobok เป็นหนังที่ทำให้ผมได้คิด และสงสัยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วมันก็ยังทำให้ผมอยากมีส่วนร่วมในปัญหานั้นด้วย”
กงยู บอกว่า Seobok เปรียบเหมือนกับ “การบ้าน” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า “ผมเคยปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ผมคิดทบทวนเกี่ยวกับมันอย่างหนัก แล้วก็ตัดสินใจว่า ‘มันเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ผมจะสามารถถ่ายทอดออกมาได้’ แต่ผมก็ได้รับการติดต่อจากหนังเรื่องนี้อีกครั้ง แล้วจากนั้นผมก็ได้ไปพบผู้กำกับ อียงจู เพื่อที่จะฟังรายละเอียดต่าง ๆ”
กงยู ยังพูดถึงเคมีความโบรแมนซ์ระหว่างเขากับ พัคโบกอม (Park Bo-Gum) อีกด้วย “พัคโบกอม เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ และซื่อตรงมาก ๆ เขาซื่อตรงมากซะจนมันทำให้ผมคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ไม่สนุก แต่ในหนังเรื่องนี้สายตาของพัคโบกอมมันไม่เหมือนตัวเขาเอามาก ๆ และมันก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อนเลยด้วย ผมคิดว่า Seobok จะช่วยขยายขอบเขตของโปรเจกต์ และตัวละครใหม่ ๆ ที่เขาจะได้รับหลังจากที่เขากลับมาจากกองทัพครับ”
“พัคโบกอม เป็นคนที่ไม่เปิดเผยถึงความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญ เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะบ่นเมื่อต้องเจอกับเรื่องยาก ๆ ผมเองก็รู้ว่าเขารู้สึกยังไงเหมือนกัน ดังนั้นผมก็เลยบอกเขาไปว่าให้ระบายทุกอย่าง และปลดปล่อยความรู้สึกออกมา” กงยู เสริม
จากนั้น กงยู ยังเล่าให้ฟังอีกว่าเขาได้รับสายที่คาดไม่ถึงจาก พัคโบกอม “เขามีความสุขมาก ๆ ครับที่หนังของเรากำลังจะเข้าฉาย และเราก็กำลังจะจัดงานแถลงข่าวกันด้วย แล้วเขายังบอกอีกว่าเขาเองก็รู้สึกกังวลอยู่เหมือนกัน ผมคิดว่าผมคงจะรู้สึกกังวลน้อยลงถ้าเขาอยู่ที่นั่นกับผมด้วย มันเหงานะครับที่ต้องอยู่คนเดียว ผมคิดว่า ‘เขาคงได้ดูทุกอย่างจากในกรม’”
กงยู ยอมรับว่าเขาไม่รู้ว่าเขาจะได้ร่วมงานกับ พัคโบกอม “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำหนังเพียงลำพังกับนักแสดงชายรุ่นน้อง แม้ว่าผมจะเคยร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่มาเยอะแล้วก่อนหน้านี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้แสดงนำในหนังร่วมกับนักแสดงชายรุ่นน้อง หลาย ๆ คนชอบความเป็นทีมเวิร์คของเรา ดังนั้นผมก็หวังว่าเราจะสามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้สักเล็กน้อยนะครับ”
ต่อมา กงยู ได้เผยถึงความรู้สึกที่ต้องพูดคำหยาบในหนังเรื่องนี้ “มันเป็นครั้งแรกของผมเลยจริง ๆ ที่ต้องพูดคำหยาบในหนัง ผมแทบจะไม่ได้ทำหนังเรื่องไหนที่มันต้องมีการพูดคำหยาบในนั้นเลย ผมคิดว่า ‘ผมก็แค่แสดงเป็นคนดีที่มันไม่ได้เหมาะกับผมแค่นั้น’ แต่มันก็ทำให้สดชื่นดีครับ มันก็ดีนะครับที่ได้สบถด่าอย่างอิสระ หลายคนมักจะสบถด่ากันในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นมันก็เลยรู้สึกสดชื่นดี เพราะมันรู้สึกเหมือนกับว่าข้อจำกัดพวกนั้นมันถูกยกเลิก ผมอยากจะสบถมากกว่านี้อีกครับ”
ตอนนี้เป็นปีที่ 20 นับตั้งแต่ กงยู เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางสายนักแสดงแล้ว กงยู เผยว่า “ผมไม่ได้นับเลยครับว่าผมทำงานมากี่ปีแล้ว และผมก็ได้มารู้ว่านี่มันเป็นปีที่ 20 แล้ว นับตั้งแต่ที่แฟน ๆ และผู้ชมได้ดูผลงานชิ้นแรกของผมกัน ผมไม่ได้รู้สึกแข็งแรงกำยำเหมือนเมื่อก่อน แต่ผมก็จะออกกำลังกายอย่างหนักและดูแลร่างกายให้แข็งแรงต่อไปครับ หลายคนรอบตัวผมบอกให้ผมดูแลรูปร่างหน้าตาด้วยการเลเซอร์ แต่ผมไม่อยากจะทำแบบนั้น พวกเขาจู้จี้ให้ผมทำมันล่วงหน้า ผมว่าพวกเขาคงกังวลว่าผมจะหายไปจากวงการนี้ในอีกไม่ช้า แต่ตราบใดที่ข้อต่อของผมยังเอื้ออำนวย ผมก็จะพยายามทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วยการรักษาความฟิตต่อไปครับ”
“ผมทานวิตามินเยอะมาก ผมทานวิตามินถึง 13 เม็ด ผมไม่ได้ทานวิตามิน 13 ชนิดหรอกนะครับ เพราะ 5 เม็ดในนั้นเป็นวิตามินชนิดเดียวกัน” กงยู กล่าว พร้อมเสียงหัวเราะก่อนเสริมว่า “ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทานวิตามิน ผมก็ยังแข็งแรงและอ่อนวัยอยู่ครับ ดังนั้นแฟน ๆ ของผมไม่ต้องกังวลไปนะครับ”
สุดท้าย กงยู เผยว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่จะย้อนมองกลับไปในอดีต “ผมรู้สึกได้ถึงความล้ำค่าของช่วงเวลาที่ได้รับเป็นของขวัญในแต่ละวัน และผมก็คิดว่าผมควรจะทำให้ดีที่สุด โดยไม่ทิ้งความเสียใจเอาไว้ในช่วงเวลาเหล่านั้นครับ”
Seobok ฉายจริง 15 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์