ไม่ใช่แค่เพราะเธอเป็นผู้หญิง แต่สิ่งที่ทำให้นาโอมิ คาวาเสะโลดแล่นอย่างโดดเด่น อยู่ในวงการหนัง เป็นผู้กำกับเบอร์ต้นๆ ที่มักได้รับเลือกไปโชว์งานในเทศกาลหนังเมืองคานส์ เป็นเพราะเธอเป็นคนทำหนังที่เชิดชูความเป็นมนุษย์และธรรมชาติได้เป็นเอกลักษณ์ อย่างที่จะหาคนทำหนังคนใดมาเทียบได้
หนังของเธอมักพาผู้ชมไปใกล้ชิดกับธรรมชาติ ดื่มด่ำและอิ่มเอมกับความงดงาม ของสรรพสิ่งรอบตัว
ปี 1997 คาวาเสะได้รับรางวัลกล้องทอง (สำหรับผู้กำกับหนังเรื่องแรก) จากเทศกาลหนัง เมืองคานส์ จากหนังเรื่อง Suzaku และสิบปีต่อมา หนังเรื่อง The Mourning Forest ก็พาเธอคว้า รางวัลกรังด์ปรีซ์ของคานส์มาครอง
ในปี 2015 หนังเรื่อง Sweet Bean ของเธอ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชมชาวญี่ปุ่น (หลังจากก่อนหน้านี้ เธอถูกมองว่าเป็นผู้กำกับหนังสายอาร์ต) หนังทำเงินมหาศาล และเป็นหนึ่ง ในงานแสดงที่ดีที่สุดของ คิคิ คิริน นักแสดงอาวุโส
ปีนี้เธอกลับมาอีกครั้งกับ True Mothers หนังที่นอกจากจะได้รับเลือกฉาย ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ ยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชมในประเทศอีกด้วย
นักวิจารณ์ต่างยกให้ True Mothers เป็นหนึ่งในหนังญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในปี 2020 ที่ผ่านมา
หนังเรื่อง True Mothers พูดถึงปัญหาการรับเลี้ยงลูกบุญธรรม ที่เป็นการมองจากฝั่งแม่แท้ๆ และแม่อุปถัมภ์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ใหม่และน่าสนใจมาก อะไรทำให้คุณสนใจประเด็นพวกนี้
ก่อนอื่น ฉันต้องย้ำก่อนว่า หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือนะคะ ซึ่งฉันสนใจประเด็นนี้ ในหนังสือก่อน มันกระทบใจฉันมากๆ จนฉันอยากเล่ามันเป็นภาพยนตร์ คนส่วนใหญ่มัก มองว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว คนชาติอื่นๆ เวลามองประเทศญี่ปุ่น พวกเขามักคิดว่า คนญี่ปุ่นจะต้องมีมาตรฐานชีวิตที่ดี สังคมที่ปลอดภัยต่อกายและใจของพลเมือง แต่ถึงแม้ญี่ปุ่น จะเป็นประเทศที่หลายอย่างค่อนข้างเพียบพร้อมและเป็นระเบียบ แต่มีหลายอย่าง เหมือนกันที่ ไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลย และมุมมืดนั่นเองที่ตัวละครในหนังเรื่องนี้อาศัยอยู่ เธอเป็นคนชายขอบ ของสังคม ฉันคิดว่า งานของฉันส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็นการสำรวจชีวิตเล็กๆ ในมุมเล็กๆ ที่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของสังคม พวกเขามักใช้ชีวิตหลบมุมเงียบๆ มืดๆ อยู่ตามลำพัง
แสดงว่า ตัวละครในหนังสือนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ
ใช่ค่ะ ตัวละครเหล่านั้นมีความคิดบางอย่างที่ไม่เหมือนคนทั่วไป และมีทางเลือกในชีวิต ที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ฉันสนใจตัวละครเหล่านั้น และอยากสำรวจพวกเขา อีกอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธ ไม่ได้ก็คือ ฉันเองก็โตมากับคุณยาย ซึ่งฉันเข้าใจมาตลอดว่าคือแม่แท้ๆ ของฉัน แต่จริงๆ แล้วแก รับฉันมาเลี้ยง แม่ฉันของตั้งท้องหลังจากเลิกรากับพ่อไปแล้ว และแม่ก็อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฉันเลยกลายเป็นลูกของคนอื่นแทน คุณต้องเข้าใจก่อนว่า สังคมญี่ปุ่นนั้นเป็นสังคม ที่มีความเป็น อนุรักษ์นิยมสูงมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับเด็กที่ไม่ได้เกี่ยวพัน ทางสายเลือด มาเลี้ยงดู เป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นมักไม่เห็นด้วย และคัดค้านอย่างรุนแรง คนต่างชาติ ดูแล้วอาจจะไม่เข้าใจว่า ตัวละครต้องเจอปัญหาอะไร แต่สำหรับคนญี่ปุ่น พวกเราเข้าใจปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
ความสัมพันธ์ของคุณกับแม่แท้ๆ เป็นอย่างไร
ฉันนับถือแม่ฉันมาก แม่บอกว่า แม่ตั้งใจให้ฉันเกิดมา ฉันไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดหรือถูกบังคับ แต่แม่ไม่เอ่ยถึงพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว แม่ไม่อยากเอ่ยถึงเขาอีก ฉันนับถือว่าแม่เป็นคนให้กำเนิดฉัน แต่คนที่ให้ชีวิตฉันจริงๆ คือ พ่อแม่บุญธรรมของฉัน
หนังเรื่อง True Mothers เล่าเรื่องโดยใช้วิธีการ เล่าเหตุการณ์เดียวกัน แต่จากมุมมองที่ต่างกันของตัวละครแต่ละตัว คล้ายๆ หนังเรื่อง Rashomon ของอากิระ คุโรซาว่า ทำไมคุณถึงเลือกวิธีการนี้
หนังเล่าเรื่องผู้หญิง 2 คน ที่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่เหมือนกัน แต่ชีวิตพวกเขาแตกต่าง กันอย่างสิ้นเชิง ด้วยโครงสร้างของสังคมหรืออะไรก็ตามแต่ โจทย์ใหญ่ของฉันก็คือ การหาเหตุการณ์ ที่ทำให้ตัวละคร 2 ตัวนี้มาไขว้หรือเผชิญหน้ากัน เพื่อสะท้อนมุมมองของพวกเธอออกมา ฉันเป็น คนทำหนังเบื่อการทำหนังที่มี Flashback มากๆ ค่ะ (การเล่าถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน) แต่บางทีก็เลี่ยงไม่ได้ ฉันจึงต้องหาวิธีการให้การเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว ด้วยมุมมองที่น่าสนใจ ฉันพยายามจะให้ภาพในอดีตไม่เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวเท่านั้น แต่มันต้องสะท้อน ถึงความรู้สึก นึกคิดของตัวละครไปพร้อมกัน
ดูเหมือนคุณตั้งใจจะให้เด็กน้อยอาซาโตะ ซึ่งเป็นตัวละครที่อยู่ตรงกลางระหว่างแม่ทั้ง 2 คน กลายเป็นตัวแทนของคนดู
ใช่แล้วค่ะ ฉันเชื่อว่า พวกเราทุกคนเคยเป็นเด็ก และหลายๆ ครั้งตอนที่เรายังเด็ก เราก็ทำความ เข้าใจทุกสิ่งรอบๆ ตัวเราผ่านการมองสายตาของผู้ใหญ่ ฉันพยายามทำให้หนังทั้งเรื่อง เป็นการมอง ผ่านสายตาของอาซาโตะ และเมื่อถึงท้ายเรื่อง คนดูจะตัดสินใจได้เองว่า เรื่องมันควรจะคลี่คลายอย่างไร
หนังทุกเรื่องของคุณ จะต้องมี "ธรรมชาติ" เป็นตัวละครสำคัญเสมอ คุณพยายามให้ผู้ชมสัมผัสกับธรรมชาติทั้งต้นไม้ ใบไม้ที่ไหวเพราะแรงลม ทะเล ทำไมธรรมชาติถึงกลายเป็นเอกลักษณ์ในหนังของคุณ
เพราะธรรมชาติเป็นอะไรบางอย่างที่อยู่เหนือมนุษย์อย่างไรล่ะคะ ทุกวันนี้พวกเรามีชีวิต อยู่ด้วยการทำลายธรรมชาติลงทีละน้อย สร้างภาระให้กับโลกที่เราอาศัยอยู่อย่างไม่หยุดหย่อน ความตั้งใจของฉันคือ อยากให้คนดูรู้สึกเหมือนกับฉันว่า ธรรมชาติเป็นเหมือนของขวัญในชีวิตของเรา แต่ศักยภาพในการบอกเล่าของฉันมีไม่มากนักหรอกค่ะ ฉันทำได้แค่ถ่ายทอดมัน ออกมาเป็น ภาพยนตร์ และทุกครั้ง ฉันมักจะทำให้ธรรมชาติรอบๆ ตัวละคร มีความสำคัญ เทียบเท่ากับ ตัวละครในเรื่อง
แต่ True Mothers เป็นหนังที่มีพล็อตเรื่องที่ชัดเจนมากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ของคุณ
ฉันเห็นด้วยค่ะ คงเป็นเพราะ ถ้ามันเป็นหนังที่ทำมาจากหนังสือซึ่งมีพล็อตอยู่แล้ว หนังก็มัก จะมีพล็อต มากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ที่ฉันทำ แต่ว่าพล็อตของเรื่องก็เป็น สิ่งที่ฉันต้องการ จะสื่อสารกับคนดูอยู่แล้วนะคะ ฉันอยากให้คนดูเข้าใจว่า ชีวิตคนเรามีมากกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ตรงหน้าเรา มันมีอะไรอีกมากมาย มีอีกหลายชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของเรา ซึ่งเราควรตระหนักเรื่องนี้ให้มากๆ
ตัวอย่างภาพยนตร์