เมื่อครั้นปี 2014 ที่ เจนนิเฟอร์ เคนท์ นำ The Babadook ไปอวดโฉมให้คอหนังสยองได้รู้จัก ชื่อของเธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงที่สตูดิโอทั้งหลายอยากร่วมงาน โปรเจกต์มากมายถูกหยิบยื่นมาเสนอให้เธอพิจารณากำกับ แต่เคนท์ปฏิเสธเพื่อที่เธอจะได้ลุยกับงานใหม่ที่ตัวเองอินเป็นการส่วนตัว นั้นคือการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์อันดำมืดในบ้านเกิดของตัวเอง ออสเตรเลียยุคล่าอาณานิคม
"ฉันอยากเล่าเรื่องผลลัพธ์ของความรุนแรงผ่านมุมมองของผู้หญิง จึงค้นคว้าถึงยุคล่าอาณานิคมออสเตรเลีย ซึ่งเต็มไปด้วยการใช้ความรุนแรงต่อชาวอะบอริจิ้น ต่อผู้หญิง และต่อดินแดนแห่งนี้ที่พรากมาจากชนพื้นเมืองกลุ่มแรก โดยธรรมชาติแล้วการล่าอาณานิคมถือเป็นการกระทำอันรุนแรง และความเหิมเกริมที่ผลักดันให้เกิดการรุกล้ำดังกล่าว ก็ยังปรากฏให้เห็นในโลกสมัยใหม่ ฉะนั้นถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในภาพยนตร์จะเกิดขึ้นในอดีต แต่ฉันก็พิจารณาว่ามันคือเรื่องราวในโลกยุคปัจจุบันเช่นเดียวกัน เพราะความรุนแรงหลับใหลอยู่ในมนุษยชาติด้วยกันทั้งสิ้น"
เพื่อความสมจริงในการเล่าประวัติศาสตร์ออสเตรเลียบนเกาะแวนดีเมน (เกาะแทสมาเนียในปัจจุบัน) เคนท์ได้ขอคำแนะนำจาก จิม เอฟเวอร์เรทท์ ชาวแพลนเจอไมเรนเนอร์ ชาวพื้นเมืองผู้ให้คำปรึกษาเรื่องชนเผ่าอะบอริจิน เคนท์ได้รับข้อมูล และรายละเอียดมากมายที่สามารถนำมาใช้ได้ภาพยนตร์ ทั้งภาษาออสเตรเลีย อะบอริจินอล พิธีกรรมท้องถิ่น เกร็ดประวัติศาสตร์อันโหดร้าย ซึ่งเธอหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องนำเสนอมันอย่างตรงไปตรงมา
"ฉันตั้งใจนำเสนอความรุนแรงในหนังอย่างซื่อตรง เพื่อให้เกียรติแก่ผู้ที่จากไปในยุคทมิฬ มีคนออสเตรเลียจำนวนไม่น้อยรู้ถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้น และก็มีคนอีกจำนวนนึงเช่นกันที่ไม่รู้ คนนอกออสเตรเลียเองก็รู้แค่นิดเดียว หรือไม่รู้เลย ฉะนั้นฉันคงไม่สามารถนำเสนอเหตุการณ์ประวัติศาสตร์โดยลดทอนเรื่องราวของมันลงได้"
"ออสเตรเลียก็เป็นเหมือนประเทศอื่น ๆ ที่ถูกล่าอาณานิคม ผู้ล่ามักกระทำการรุนแรงต่อชนพื้นเมือง ระบบการปกครองเข้าขั้นอำมหิต ฉะนั้นฉันจึงอยากให้ภาพยนตร์เรื่อง The Nightingale สะท้อนภาพเหล่านี้ออกมา"
ผลลัพธ์ของเคนท์ นำไปสู่ปฏิกิริยาตอบรับที่รุนแรงไม่แพ้ตัวภาพยนตร์ เมื่อในงานเทศกาล Sydney Film Festival ผู้ชมกว่า 30 คน ตัดสินใจเดินออกจากโรงเพราะไม่สามารถทานทนต่อเหตุการณ์ในเรื่องได้ "ฉันทนดูไม่ได้ เธอ (แคลร์-นางเอก) ถูกย่ำยีถึง 2 ครั้ง" ผู้ชมท่านนึงให้ความเห็น และในงานเทศกาล Venice Film Festival นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชาวอิตาลีก็ถึงกับสบถคำหยาบใส่ เจนนิเฟอร์ เคนท์ ทันทีที่เห็นชื่อเธอบน end credit ด้วยความโกรธแค้นที่เธอกระทำต่อตัวละครหลักของเรื่อง
เจนนิเฟอร์ เคนท์ ได้แต่ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เจ้าปัญหาแต่เพียงว่า "ถึงที่สุดแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการบอกเราว่าในช่วงเวลาอันมืดมน ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และความเมตตา คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีแก่กัน"
The Nightingale เล่าเรื่องราวของ แคลร์ ทาสชาวไอริชที่ถูกจับมาเป็นเชลยบนเกาะแวนดีเมนในปี 1825 ภายใต้การปกครองของทหารอังกฤษ หลังครอบครัวเธอถูกทหารทำร้าย หญิงสาวตัดสินใจแกะรอยเพื่อล้างแค้นทหารกลุ่มดังกล่าว โดยอาศัยความร่วมมือจากชาวอะบอริจินที่สูญเสียอิสรภาพจากการล่าอาณานิคม มิตรภาพระหว่างคนต่างด้าวอย่างเธอ และชนพื้นเมืองได้ก่อตัวขึ้น ท่ามกลางไฟสงคราม และความพยาบาทที่รอวันชำระล้าง
The Nightingale มีกำหนดเข้าฉาย 1 เมษายนนี้
Official Trailer (ซับไทย)