แซ็ค สไนเดอร์ (Zack Snyder) เปิดใจถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้งมีปัญหาเรื่องการทำงานโปรเจกต์ Justice League หลังเกิดเหตุน่าสลดกับครอบครัวนั่นคือเสียลูกสาวคนสำคัญไปอย่างไม่มีวันกลับ และการขัดแย้งหลังสตูดิโอตัดสินใจพา จอส วีดอน (Joss Wheedon) เข้ามาร่วมดูแลบทภาพยนตร์ในตอนนั้น ทั้งยังพูดถึงกรณีที่เหล่านักแสดง นำโดย เรย์ ฟิชเชอร์ (Ray Fisher) ออกมาเรียกร้องว่าพวกเขาได้รับการปฏิบัติที่แย่ขณะต้องทำงานถ่ายซ่อมให้กับ วีดอน อีกด้วย
NYT: มันคือสัญญาณเตือนมั้ยตอนที่สตูดิโอถึง จอส วีดอน เข้ามาเขียนบทฯ ใหม่?
สไนเดอร์: ก็เข้าขั้นปักธงแดงเลยครับ พวกเขาจะเหมือนแบบ เอาล่ะ เราจะเริ่มอารมณ์ขันแล้วก็เติมอะไรสนุก ๆ เข้าไปน่าจะดีนะ ส่วนผมก็จะ หืมม ผมแฮปปี้ที่จะถ่ายเพิ่มนะถ้าพวกคุณมีไอเดียที่เข้าท่า เราเตะนักเขียนออกไปหลายต่อหลายคนจนพวกเขาพา จอส เข้ามา เราเป็นนักเขียนที่มีความสามารถมาก ไม่ได้ประชดนะครับ แต่ผมไม่เห็นความสำคัญในจุดนี้เลย จนถึงตอนที่ผมพอแล้ว ผมทำมันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ผมรู้สึกเหมือนพวกเขาอาสาเอา จอส เข้ามาเป็นคนจบเกมโดยปริยาย
NYT: คุณออกจาก Justice League ด้วยตัวของคุณเอง?
สไนเดอร์: แน่นอนครับ การตัดสินใจนั้นเป็นของผม 100% ผมรู้ว่าผมทะเลาะอะไรกับทีม แล้วครอบครัวเองก็ต้องการผม ส่วนผมเองก็ต้องการพวกเขา ผมลำบากมากแล้วกับที่บ้าน แล้วพอผมไปทำงานผมก็รู้สึกลำบากอีกซ้ำสอง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำร้ายทั้งตัวผมและคนที่ผมรักมากเลยครับ
NYT: คุณกังวลถึงสถานะของตัวเองหลังจากออกจากโปรเจกต์และจุดยืนของคุณกับทาง Warner Bros. รวมถึงอาชีพการงานบ้างไหม?
สไนเดอร์: แน่นอนอยู่แล้วครับ แต่ความจริงก็คือผมอยู่ในจุดที่สิ้นหวังมากแล้ว ผมไม่แคร์อะไรหรอกครับ คุณรู้อะไรไหม? ตอนสลัด Justice League ออกผมแบบ เพื่อนยาก จริงเหรอ? แกจะทำให้ฉันต้องเจอกับช่วงเวลาที่ลำบากจริงเหรอ? เอาสิ ฉันจะสู้กับแกตอนนี้เลย *หัวเราะ* ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ ผมรู้สึกแค่ว่าเราทำหน้าที่ของเราได้ดีแล้ว ภาพยนตร์เสร็จแล้ว รวมถึงเวอร์ชั่น 2 ชั่วโมง 20 นาทีที่สตูขว้างมาใส่ผมด้วย
NYT: แล้วคุณมาจบลงที่ฉบับตัดต่อใหม่ได้ยังไง?
สไนเดอร์: หนังที่ผมสร้าง แทบจะมีฉบับตัดต่อใหม่โดยผู้กำกับเกือบทั้งหมด ตอนที่ผมพูดว่า โอเค ผมไม่อาแล้ว ฉันบอกหนึ่งในนักตัดต่อของผมว่า รวมมันให้ได้มากที่เขาที่นายจะทำได้แล้วส่งมันมาให้ฉัน ส่วนพวกเพื่อน ๆ วงในที่ทำงานกับผมก็ชอบพูดว่า โอ้ หรือเราจะแอบทำธัมบ์ ไดรฟ์ตกที่ไหนสักที่ แล้วก็ให้ 'แฟนคลับ' เจอมันดีล่ะ ผมก็จะแบบ มันตลกดีนะ แต่มันจะดีกว่าถ้ามันถูกทิ้งไว้เป็นอะไรบางอย่างที่จะไม่มีใครได้ดู ผมหมดไฟที่จะสู้ไปแล้วครับ
NYT: คุณได้บอกใบ้อะไรไหมเกี่ยวกับความหวังที่อาจจะได้ปล่อยออกมาจริง ๆ
สไนเดอร์: มันเหมือนกับการเล่นสนุกบนโซเชียลมีเดียของผมกับแฟนคลับมากกว่า ถามว่าผมเคยคิดว่ามันจะได้มีเวอร์ชั่นที่แฟน ๆ เรียกร้องกันจนบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง WarnerMedia จะยอมพิจารณาสร้างมันออกมาได้ไหม? แน่นอนว่าไม่เคยคิดครับ ผมแต่คิดว่าในอีกสัก 10 ปี มันอาจจะมีเวอร์ชั่น DVD ออกมาให้แฟน ๆ แบบ เฮ้ย มันคุ้มตังค์ไม่กี่บาทอยู่นะที่จะเอาไปซื้อฉบับของสไนเดอร์
NYT: แล้วตอนนี้บริษัทใหญ่ที่คุณกระทบกระทั่งกับเขาตอนทำ Justice League ภายใต้การบริหารที่เปลี่ยนไปก็ปล่อยให้คุณได้สร้างฉบับของตัวคุณเองออกมา
สไนเดอร์: ผมรู้สึกซึ้งใจมากครับ ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ หนังเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้ามันไม่ได้ทำเพื่อ HBO Max ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขามากครับ แถมเรายังได้ประสบการณ์การดูแบบคุณภาพสูงมากด้วย ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับโทรทัศน์ของคุณ
NYT: ทำไมคุณถึงพานักแสดงบางคนกลับมาเพื่อถ่ายทำฉากใหม่อีกครั้ง?
สไนเดอร์: ผมเพิ่มมันเพราะนี่จะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่ผมจะทำให้กับ DCU และเพื่อให้จักรวาลในโลกภาพยนตร์ทั้งหมดไร้ซึ่งการเผชิญหน้าที่น่าประหลาดระหว่าง แบทแมน กับ โจ๊กเกอร์ จาเร็ด กับ ผมพูดคุยเกี่ยวกับมันเยอะมาก ผมเคยพูดกับ เบน เหมือนกัน ผมก็พูดแค่ เบน มาทำมันที่บ้านผมเถอะ ผมถ่ายทำมันที่สวนหลังบ้านผมก็ได้ แต่อย่าบอกสตูดิโอนะ ไม่งั้นผมจะไม่จ่ายเงินให้พวกคุณ ผมจะถ่ายทำด้วยตัวเองเนี่ยแหละ
NYT: เรย์ ฟิชเชอร์ พูดถึงกรณีที่ วีดอน ทารุณเขาระหว่างการถ่ายทำซ่อม ทำให้เกิดการสอบสวนอย่างละเอียดภายใน WarnerMedia และนักแสดงคนอื่น ๆ เองก็ออกมาแชร์ประสบการณ์คล้ายกันอีกด้วย คุณเคยคิดไหมว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น?
สไนเดอร์: ตอนนั้นก็ไม่เคยคิดเลยครับ สิ่งสุดท้ายที่พวกเขาอยากทำก็คงเป็นการโทรมาบ่นกับผมว่าการถ่ายทำมันเป็นไปได้ยากลำยากแค่ไหน แต่ในมุมของผม ผมรู้สึกแย่ที่พวกเขาต้องเจอกับอะไรแบบนั้นไหม? แน่นอนครับ พวกเขาคือเพื่อนของผม พวกเขาคือนักแสดงที่ยอดเยี่ยม และพวกเขาคือคนที่แข็งแกร่ง ผมอยากให้พวกเขาได้รับการดูแลที่ดี
NYT: ตั้งแต่มี Justice League ก็มีหนังภาคแยกจาก DC มากมาย ทั้ง Aquaman ทั้ง Shazam! ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมแล้วก็ทำเงินได้มหาศาล มันจี้ใจคุณไหมที่คุณไม่สามารถไปถึงจุดนั้น?
สไนเดอร์: ผมมีความสุขมากครับ มันไม่ได้จี้ใจผมเลยสักนิด หนังพวกนั้นมันเจ๋งมาก มันพูดสร้างออกมาอย่างดีและยอดเยี่ยม แต่ "Batman vs. Superman" จะรักหรือจะเกลียด มันก็ยังเป็นหนังที่มีการกล่าวถึงในแฮชแท็กมากที่สุดอยู่ดี
Justice League ฉบับ แซ็ค สไนเดอร์ เตรียมเข้าฉายวันที่ 18 มีนาคมนี้ บ้านเราสามารถรับชมได้ทาง HBO Go
ที่มา: Nytimes.com | Screenrant.com