ไม่ใช่เป็นแค่ลูกผู้ชายที่เคยเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ด้วยการบวชอุปสมบททดแทนบุญคุณบิดามารดา และสืบสานพระพุทธศาสนาเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ศิลปินไอคอนโมเดิร์นอีสาน “เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม” เจ้าของเพลงล่าสุด “กู๊ดไนท์ จุ๊บ จุ๊บ” ยังเป็นพุทธศาสนิกชนที่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนของชาติ ทั้งการทำบุญบริจาคทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดยังได้ร่วมไถ่ชีวิตโคกระบือจากโรงเชือด ที่ วัดหนองทอง อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย จนวันนี้ “เบิ้ล ปทุมราช” ได้เข้ารับประกาศเกียรติคุณทูตพระพุทธศาสนาประจำวันมาฆบูชา พ.ศ.2564 จัดโดย คณะอนุกรรมการฝ่ายกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ร่วมกับ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเป็นตัวแทนพุทธศาสนิกชนชาวไทยร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์วันมาฆบูชาต่อไป โดย เบิ้ล ปทุมราช เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า
“ถือว่าเราเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ที่ได้สานต่อพระพุทธศาสนาตามที่คุณพ่อคุณแม่เราสอนให้เข้าวัดทำบุญเวียนเทียนวันมาฆบูชา หรือวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ พอโตมาเราก็ได้ทำบุญในแบบของตัวเองที่อาจจะไม่ต้องเข้าวัดทุกวันก็ได้ อยู่ที่จิตใจของเราบริสุทธิ์ นิ่ง มั่นคง และยึดหลักคำสอนของพุทธศาสนา ซึ่งผมก็ดีใจนะครับที่วันนี้ได้รับรางวัล อาจจะสืบเนื่องมาจากช่วงปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสช่วยกิจกรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และกิจกรรมสมทบทุนช่วยเหลือเด็กๆ ที่ยากไร้ หรือกิจกรรมทำบุญกับน้องหมาน้องแมวที่ชลบุรี ซึ่งผมก็จะรวบรวมเงินจากงานร้องเพลงที่จัดสรรไว้สำหรับการทำบุญโดยเฉพาะ อย่างไปบ้านสถานสงเคราะห์กับเอฟซี หรือรวบรวมเงินเพื่อไถ่ชีวิตโคกระบือทุกเดือน ถือว่าปีที่ผ่านมาก็ได้ทำบุญแบบอิ่มอกอิ่มใจ และทำให้แฟนคลับได้มีส่วนร่วมงานบุญและได้มาพบเจอเราด้วยครับ มาปีนี้ก็เป็นเรื่องของโควิด-19 อาจจะได้เจอกันน้อยลง แต่ผมก็ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่ให้เราได้เป็นแกนหลักในการสื่อสารกับกลุ่มวัยรุ่นผ่านโซเชียล อย่างการเวียนเทียนออนไลน์ในวันมาฆบูชา หรือเราแค่ทำสมาธิที่บ้านตั้งจิตภาวนาให้สงบ ผมเชื่อว่านอกจากเราจะได้บุญแล้ว ยังได้ความปลอดภัยห่างไกลจากโรคโควิด-19 ด้วยครับ”