เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2092 เมื่อโลกกำลังจะล่มสลายจากมลพิษและสิ่งเน่าเสียที่มนุษย์สร้างไว้ เหล่าผู้มีตังค์ก็สร้างโลกใบใหม่ให้กับตัวเองภายใต้ชื่อองค์กร ยูทีเอส คอร์เปอร์เรชั่น ซึ่งมีเพียงผู้ถูกเลืิอกเท่านั้นที่จะได้เดินทางไปที่นั่น แต่แล้วทุกอย่างก็ผลิกพัน เมื่อกลุ่มภารโรงอวกาศจากยานวิคตอรี่ นำทีมโดย กัปตันจาง (คิมแทรี), แทโฮ (ซงจุงกิ), ไทเกอร์ ปาร์ค (จินซอนกยู) และหุ่นยนตร์บั๊บส์ (ยูแฮจิน) ได้พบกับ โดโรธี หรือ กนนิม เด็กสาวตัวน้อยชาวเกาหลี ที่ทางยูทีเอสประกาศตามล่าตัวด่วนเนื่องจากเจ้าตัวเป็นหุ่นยนตร์ระเบิิิดฮิวแมนนอยด์ที่สามารถทำให้เกิดการทำลายล้างครั้งใหญ่ได้ ทีมแก๊งยานวิคตอรี่เลยวางแผนใช้ กนนิม เรียกเงินล้านหวังนำส่วนแบ่งไปใช้หนี้ของแต่ละคน แต่ทว่าเมื่อได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันไปนานวันเข้า ความผูกพัน มิตรภาพ ความห่วงใย และความรักใคร่กลับเกิดขึ้นเล็ก ๆ ในจิตใจของพวกเขาทุกคน จนกระทั่งได้พบว่าแท้จริงแล้ว กนนิม นั้นพิเศษยิ่งกว่าจะเป็นเพียงอาวุธฮิวแมนด์นอยด์ทั่วไป
ก่อนอื่นขอพูดถึงสิ่งที่ทำให้ว้าวซ่าตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดเรื่องมาเลยนั่นก็คือเทคนิค CG, VFX และ Motion Capture ของเรื่องนี้ น่าเสียดายจริง ๆ ที่มีโอกาสเข้าฉายได้แค่ช่องสตรีมมิ่ง เพราะรายละเอียด ความคมชัด และการออกแบบองค์ประกอบนั้นสเกลระดับภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์เลย สมกับที่เคลมไว้เลยว่าใช้ต้นทุนสูงเกือบ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 660 ล้านบาท) ยิ่งดูยิ่งเห็นความใส่ใจในทุกจุด ทั้งแสง ทั้งเงาเนียนกริบ ดูสบายตา ดูเพลิน ไม่มีส่วนไหนที่ลอยตาหรือขัดใจเลย ฉากของน้องบั๊บส์ที่ใช้เทคนิค โมชั่น แคปเจอร์ ก็ดีไซน์คิวบู๊ต่าง ๆ ได้สวย บวกกับพล็อตเรื่องที่รู้จักผูกปมแล้วแก้ได้ถูกจังหวะ ก็ยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบเข้าไปอีก
ตอนแรกยอมรับว่ายังรู้สึกงง ๆ เนือย ๆ แบบเอ๊ะ มียานอวกาศ มีซงจุงกิมานั่งหล่อ ๆ สงสัยขายแค่นี้แน่เลยเพราะหนังไม่ได้มีฉากเปิดที่ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจหรือแฟลชแบ็กอะไรมาก แต่ค่อย ๆ เล่า ค่อย ๆ ให้เราทำความเข้าใจกับทั้งเส้นเรื่องหลัก และเส้นเรื่องย่อยของแต่ละตัวละครไปด้วย แล้วพอถึงจุดที่เราเริ่มปะติดปะต่อจิ๊กซอว์เหล่านั้นเข้าด้วยกันได้ ก็เอาล่ะ! ความมันส์บังเกิดเลยที่นี้ พูดง่าย ๆ คือหนังสนุกมากขึ้นตั้งแต่มี น้องกนนิม ปรากฏตัวออกมา แถมน้องก็น่ารักมากแบบยิ่งดูยิ่งหมั่นเขี้ยวจนอยากเก็บใส่กระเป๋ากลับบ้าน คือเราเข้าใจเลยว่าทำไมตัวละครอ่ื่น ๆ ถึงได้ดูผูกพันกับน้องกันมากขนาดนั้น เพราะขนาดเราดูจบแล้วยังรู้สึกผูกพันกับทั้งน้องและพวกเขาเลย
ในส่วนของเคมีระหว่างทีมนักแสดงยกให้เป็นส่วนที่ชอบมากที่สุดในหนังเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ ซงจุงกิ, คิมแทรี, จินซอนกยู, ยูแฮจิน และน้องพัคเยริน ที่รับบทเป็น กนนิม แคสต์มาได้เข้าขาโบ๊ะบ๊ะกันมาก ทั้ง ๆ ที่คาแรคเตอร์ของแต่ละคนนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปคนละทิศละทาง แต่พอมาอยู่รวมกันแล้วทุกอย่างกลับดูมีเสน่ห์ซะเหลือเกิน ที่สำคัญคือการแสดงของพวกเขาทำให้เราเชื่อจริง ๆ ว่าแม้จะมีเหตุให้กระทบกระทั่งกันบ้างในบางครั้ง แต่สมาชิกยานวิคตอรี่นั้นยังคงรักและห่วงใยกันมากขนาดไหน เรียกว่าทุกตัวละครเป็นสีสันหลักที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมไปกับหนังมาก ทั้งสนุก ตลก ซึ้ง และลุ้นระทึกไปกับสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ดีเทลอื่นก็ไม่ได้ด้อยลงไปเลยแม่แต่น้อย
มองเผิน ๆ ก็อาจดูเหมือนหนังกู้โลก แฟนตาซี ไซไฟ ธรรมดา ๆ แต่พอได้ดูแล้วทุกอย่างกับเหนือความคาดหมายไปทั้งหมด ขอสรุปเลยว่าเป็นหนังที่ทุกคนห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ขอแค่ทนดูให้ผ่านช่วงแรก ๆ ไปให้ได้สักหน่อย ก็จะได้พบกับมิติใหม่ของผลงานสัญชาติเกาหลีที่ทำให้ประทับใจมาก ๆ ก้าวข้ามภาพจำรักโรแมนติกของหนุ่มหล่อสาวสวยไปได้อีกขั้น ดูจบแล้วแอบคาดหวังให้มีภาค 2 ต่อไปในอนาคตด้วย ให้ 10/10 เลยจ้า
Space Sweepers - ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล
รับชมได้แล้ววันนี้ ทาง Netflix