หลังจากภาพยนตร์ Titanic ประสบความสำเร็จโด่งดังไปทั่วโลกในปี 1997 หลายคนคงคิดว่าเหล่านักแสดงนำจะแฮปปี้กับการมีชื่อเสียง ดังเป็นพลุแตกในชั่วข้ามคืน แต่สำหรับตัวนางเอกสาว เคท วินสเลต (Kate Winslet) แล้วนั้น เธอกลับรู้สึกกดดันเพราะกลายเป็นที่สนใจในทุกเรื่อง ทั้งยังต้องรับมือกับคำวิจารณ์ในแง่ลบ และสื่อต่าง ๆ ที่เล่นประเด็นไม่ค่อยน่ารักเกี่ยวกับเธอ โดยเฉพาะสื่อจากเกาะอังกฤษในสมัยนั้น
"ฉันกลายเป็นหัวข้อหลักในการทดลองตรวจสอบข้อเท็จจริงในทางกายภาพ (กรณีที่ไม่ให้ แจ็ค ขึ้นมาบนประตูไม้ด้วยกัน) และยังโดนวิพากษ์มากมาย สื่ออังกฤษไม่ค่อยจะใจดีกับฉันเท่าไรเลยค่ะตอนนั้น ฉันรู้สึกเหมือนโดนบูลลี่นิดหน่อย ถ้าให้พูดความจริงจากใจ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันคิดว่า 'โอเค เอาล่ะ นี่มันแย่มาก ฉันหวังว่ามันจะผ่านไปไว ๆ นะ' และมันก็ผ่านพ้นไปจริง ๆ แหละค่ะ แต่มันทำให้ฉันตระหนักได้เลยว่าการมีชื่อเสียงมันเป็นยังไง และฉันไม่พร้อมที่จะมีชื่อเสียงเลยจริง ๆ ฉันรู้สึกขอบคุณนะคะ แต่บางทีก็ไม่มีจะดีกว่า"
ในตอนที่ภาพยนตร์ออกฉาย วินสเลต อายุเพียง 22 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เธอบอกว่าเธอยังคงเรียนรู้เรื่องการแสดงอยู่เลย ซึ่งเป็นอะไรที่เธอเรียนมาตั้งแต่อายุ 17 ปี
"ตอนนั้นฉันยังรู้สึกอยู่เลยว่า ฉันไม่พร้อมที่จะรับเล่นหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์เรื่องไหนสักเรื่อง มันเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ฉันไม่อยากมีข้อผิดพลาด แต่ฉันก็ไม่อยากให้โอกาสเสียเปล่า แต่ฉันก็ยังคงอยากอยู่ในเกมนี้ต่อไปอีกนาน เพราะงั้นฉันเลยพยายามหาอะไรที่เล็กลงกว่านี้ ฉันจะได้เข้าใจในเนื้องานได้ดียิ่งขึ้น ได้เข้าใจในตัวฉันเองยิ่งขึ้น และยังคงรักษาคความเป็นส่วนตัวและศักดิ์ศรีของตัวเองเอาไว้ได้อยู่"
หลังจากที่ต้องต่อสู้กับทุกสิ่งที่รุมเร้าโดยไม่ทันได้ตั้งตัวอยู่นาน ชีวิตของ วินสเลต ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางหลังจาก มีอา ลูกสาวคนแรกของเธอลืมตาดูโลกในปี 2000 ซึ่งนั่นทำให้ความสนใจ ความทุ่มเท และความตั้งใจของเธอถูกยกไปโฟกัสที่การดูแลลูกแทบทั้งหมด "จุดโฟกัสของฉันคือลูกค่ะ และนั่นเป็นสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด"
ที่มา: People.com | Wtfpod.com