The Sun ปล่อยคลิปเสียงนักแสดงหนุ่ม ทอม ครูซ (Tom Cruise) หัวเสียใส่ทีมงานที่ฝ่าฝืนกฏควบคุมความปลอดภัยในกองถ่ายทำภาพยนตร์ในช่วงโคโรน่าไวรัสระบาด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง ครูซ เห็นทีมงาน 2 คนยืนใกล้กันในระยะน้อยกว่า 1 เมตรหน้าจอคอมพิวเตอร์ในกองถ่ายที่สตูดิโอของ Warner Bros. Studios จึงว่ากล่าวตักเตือนตามความเหมาะสม แต่นั่นก็เป็นเหตุให้ทีมงานอีกกว่า 50 ชีวิตยืนตัวแข็งกันไปโดยปริยาย

"เราต้องการมาตรฐานสูงสุดระดับเลี่ยมทอง! พวกเขาได้กลับไปฮอลลีวูดเพื่อทำหนังตอนนี้ก็เพราะเรา! เพราะพวกเขาเชื่อในตัวเรา และเชื่อในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ผมต้องอยู่กับโทรศัพท์ทุกคืนเพื่อคุยกับ บริษัทประกัน โปรดิวเซอร์ ซึ่งพวกเขากำลังจับตาเรา และใช้เราสร้างหนังให้พวกเขาอยู่ เราสร้างอาชีพเป็นพัน ๆ ตำแหน่ง ผมไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้อีกแล้ว ไม่อยากเห็นอีกต่อไปแล้ว! และถ้าคุณไม่ทำตามคุณจะโดนไล่ออก ถ้าคุณทำแบบนี้อีกคุณปลิวแน่ และถ้าใครสักคนในกองถ่ายทำแบบนี้ ก็นั่นแหละ รวมถึงคุณด้วย คุณด้วย คุณด้วยนะ อย่าคิดจะทำมันอีก แค่นี้แหละ คำขอโทษก็ไม่ต้องการ! คุณไปบอกทุกคนได้เลยว่าพวกเขาจะตกงานกัน จะเสียบ้านกันเพราะวงการหนังของเราถูกปิดตัวลง แล้วมันจะไม่มีอาหารบนโต๊ะของพวกเขา หรือไม่มีเงินสำหรับเอาไปจ่ายค่าเล่าเรียนของพวกเขาไง นั่นแหละคือสิ่งที่ผมนอนอยู่กับมันทุกคืน ก็อนาคตของวงการนี้ยังไงล่ะ! เพราะงั้นผมขอโทษที่ผมอยู่เหนือคำขอโทษที่จะมีให้กับพวกคุณ ผมถือว่าผมพูดกับพวกคุณแล้วนะตอนนี้ ผมอยากได้มัน และถ้าคุณไม่ทำคุณก็ออกไปเลย เราไม่มีทางล่มหนังเรื่องนี้ลงแน่!" ครูซ กล่าวต่ออีกว่า

"พูดอย่างนี้เข้าใจมั้ย? ถ้าผมเห็นมันอีกครั้งคุณปลิวแน่ และคุณด้วย เพราะงั้นคุณจะเป็นคนจ่ายค่าทำงานของเขา ถ้าผมเห็นมันอีกคุณได้ไปแน่ และคุณเองก็ไปแน่ แค่นี้แหละ ผมพูดชัดเจนมั้ย? คุณเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการมั้ย? คุณเข้าใจความรับผิดชอบที่คุณต้องแบกไว้รึยัง? เพราะผมต้องเป็นคนรับมือกับเหตุผลของพวกคุณ และถ้าพวกคุณไม่มีเหตุ และผมไม่สามารถรับมือกับตรรกะของพวกคุณได้ คุณจะถูกไล่ออก แค่นั้นแหละ ผมไว้ใจให้พวกคุณมาอยู่ที่นี่ แค่นั่นแหละทุกคน ช่วยคิดกันสักหน่อยนะ ..(เสียงขาด).. นั่นแหละคือสิ่งที่ผมคิดเพื่อ Universal และ Paramount และ Warner Bros. หนังมันไปต่อได้ก็เพราะพวกเรา ถ้าเราล่มโปรเจกต์พวกนี้ อาชีพของทุกคนคือราคาที่ต้องจ่าย! ทั้งบ้านของพวกเขา ครอบครัวของพวกเขา! นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ และผมเป็นห่วงพวกคุณทุกคน แต่ถ้าพวกคุณไม่ช่วยผมเลยพวกคุณก็ต้องไป โอเคมั้ย? พวกคุณเห็นเสานั่นมั้ย? มันสูงกี่เมตร? ตอนที่คนยืนอยู่รอบคอมพิวเตอร์ แล้วเดินไปเดินมาที่นี่ คุณทำอะไรอยู่? ถ้าพวกเขาไม่ยอมทำตามนี้งั้นก็ส่งชื่อพวกเขาไปหา แมตต์ สปูนเนอร์ ได้เลย แค่นี้ล่ะ"

ทอม ครูซ และ เฮย์ลีย์ แอตเวลล์ ขณะถ่ายทำ Mission: Impossible ในโรม เมื่อเดือนที่แล้ว

หากฟังจากเนื้อหาทั้งหมด อารมณ์ของ ครูซ ในครั้งนี้ก็นับว่าเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะสถานการณ์โคโรน่าไวรัสที่ต่างประเทศค่อนข้างรุนแรง และมาตรการการควบคุมความปลอดภัยของกองถ่ายภาพยนตร์ก็ต้องเข้มงวดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากตรวจพบว่ามีใครสักคนในทีมติด การทำงานก็ต้องชะงักและล่าช้าลงไปอีก เพื่อให้ทีมงานได้พักรักษาตัว และทีมงานคน ๆ อื่นเองก็ต้องกักตัวตามกำหนด ซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้ภาพยนตร์ไม่เสร็จสมบูรณ์ในเวลา แล้วต้องเลื่อนวันฉายอีกหลายครั้ง

ก่อนหน้านี้การถ่ายทำภาคต่อ Mission: Impossible 7 ก็ถูกกระทบเพราะโคโรน่าไวรัสที่ระบาดหนักในยุโรป ในเดือนตุลาคม ครูซ ก็มีความจำเป็นต้องคุยกับ คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รี่ (Christopher McQuarrie) ผู้กำกับภาพยนตร์อย่างซีเรียสเนื่องจากมีทีมงานถึง 12 คนติดเชื้อโครน่าไวรัสที่กองถ่ายที่อิตาลี ส่งผลให้นักแสดงอีกกว่า 150 คนถูกสั่งพักงานกะทันหันทันที หลังจากกลับมาที่อังกฤษเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ ครูซ พยายามทำทุกทางเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรติดขัดและต้องเลื่อนออกไปอีก ขนาดที่ยอมจ่ายเงินมากถึง 5 แสนปอนด์เพื่อเช่าเรือสำราญมาให้ทีมนักแสดงและทีมงานได้แยกตัวออกมาจากที่เสี่ยงติดไวรัสอีกด้วย

ที่มา: The-sun.com