วิกโก้ มอร์เทนเซ่น (Viggo Mortensen) เปิดใจครั้งแรกกับ Independent ถึงประเด็นที่ผลงานดีกรีออสการ์ Green Book ของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สมมงในปีนั้น เพราะภาพยนตร์นำเสนอมุมมองของชาวผิวขาวเป็นใหญ่ หรือชาวผิวขาวมาเป็นผู้ช่วยชีวิตให้กับชาวผิวสี และแม้ตัว มอร์เทนเซ่น เองจะได้รับการเสนอชื่ิอเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชาย แต่เขาก็เปิดใจว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ใคร ๆ ก็พูดว่า 'หนังเรื่องนี้จะกลายเป็น Green Book แห่งปีมั้ยนะ?' ว่าง่าย ๆ คือภาพยนตร์ชิ้นนี้ได้รับคำดูถูกจนเป็นเรื่องปกติไปแล้วนั่นเอง
"มันน่าเจ็บปวดและส่งผลกระทบ หลายคำวิจารณ์ต่อตัวหนังไม่เพียงแต่ไร้เหตุผลเ่านั้น แต่ยังไม่ถูกต้อง ไม่เป็นความจริง และไร้ความรับผิดชอบชั่วดี ถามว่ามันกระทบสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ไหม หรือคนยังมองผมเป็นนักแสดงอยู่หรือเปล่า? บางทีก็อาจจะใช่ แต่ผมไม่สามารถทำอะไรกับมันได้อยู่ดี"
ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ที่มาเป็นระยะ ๆ มอร์เทนเซ่น ยังคงเดินหน้าสร้างผลงานต่อไปเรื่อย ๆ อย่างเช่นเรื่องล่าสุดกับ Faliing ที่เขาลงแรงทั้งกำกับ เขียนบท และร่วมแสดงด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ดราม่าเล่าถึงชายหนุ่ม LGBTQ ที่มีปัญหากับพ่อผู้ไม่ยอมเปิดรับรสนิยทางเพศของเขา โดย มอร์เทนเซ่น ตัดสินใจแสดงบทบาท LGBTQ ด้วยตัวเอง แม้อาจโดนถามว่าทำไมไม่ทาบทามนักแสดง LGBTQ มารับบทบาทนี้โดยตรง ซึ่งเขาก็ให้เหตุผลเอาไว้ว่า
"ผมไม่สามารถคิดถึงตอนที่ไปถามถึงรสนิยมทางเพศของคนอื่นเลย แล้วผมก็นึกถึงตอนที่ผมเหมารวมว่านักแสดงท่านไหนเป็นรักร่วมเพศแล้วเขานั้นอยากมารับบทนี้ด้วยตัวเองไม่ออกอีกด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจจะมารับบทเป็นตัวลูก จอห์น แต่สุดท้ายก็เป็นผมที่เป็นคนทำมัน เพราะผมว่าผมหน้าหนามากพอ และผมเองก็ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้นักแสดงท่านอื่นด้วย"
ที่มา: Independent.co.uk | Thetimes.co.uk