“ตอนผมอายุ 15 ผมเริ่มเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลา 7 ปีมันผ่านไปเร็วมาก ช่วงเวลา 7 ปีที่แสนอัศจรรย์ มันผ่านไปด้วยความเร็วแสง ต่อมาโรคระบาดก็โจมตี แล้วจากนั้นผมก็ได้มีแฟนจริง ๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรก ครั้งแรกในชีวิตของผมที่ได้ตกหลุมรักอย่างแท้จริง และผมก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวของเธอที่ไมอามี่ มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เรียนรู้วิธีทำอาหาร แล้วก็ได้เรียนรู้วิธีซักผ้าครับ”
“ทีแรกอาการแพนิคมันครอบงำผม แต่ต่อมาผมก็เริ่มคุ้นเคย แล้วผมก็พูดออกมาได้อย่างเต็มปากว่า ‘นี่มันดีมาก ๆ นี่มันเป็นเรื่องที่งดงามมาก ๆ’ ผมคิดว่าสำหรับผมแล้ว ผมคงรู้สึกเหมือนกับว่าผมอยู่กับภาพลวงตามานาน ที่ซึ่งผมกลัวมาก ๆ ที่จะพูดสิ่งต่าง ๆ ที่ผมหลงใหลออกมาจริง ๆ เมื่อผมพร้อมที่จะนั่งลง ปล่อยให้โลกของผมมันหยุดหมุน และมาถึงจุดที่มันหยุดนิ่ง ความสงบนิ่งนี้มันแผ่ซ่านอยู่ในตัวผม และมันก็ทำให้ผมได้เข้าใจ คุณเข้าใจใช่มั้ยครับ เวลาที่มันเป็นเรื่องสำคัญของหัวใจ เราไม่ได้จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรมากมายหรอก ผมเริ่มอ่านหนังสือ แล้วก็เขียนบรรยายความคิดต่าง ๆ ของผมลงในกระดาษ นั่นคือที่มาของเพลง Wonder มันมีความนัยอยู่ในเสียงของผมตอนที่เริ่มปล่อยผ่านมันออกมาจริง ๆ ผมสัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่มันต่างออกไปอีกมากมายเลยครับ เนื้อเพลงมันบอกประมาณว่า ‘นี่ผมซื่อสัตย์กับตัวเองรึป่าว? ผมได้กลั่นกรองสิ่งที่ผมพูดออกมารึป่าว? ผมก็แอบนึกสงสัยอยู่นะว่ามันจะดีแค่ไหน ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ไม่ได้มีแค่สีขาวกับดำ? ผมก็สงสัยนะว่าเวลาที่ผมเอามือปิดหน้าร้องไห้ ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่ามันเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ผมสงสัยนะว่ามันจะเป็นยังไงหากได้เป็นคนที่เธอรัก’ ผมรู้สึกว่าผมเปิดใจมากขึ้น ผมรู้สึกว่าจุดนี้มันคือศิลปะที่แท้จริง นี่คือครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าผมได้สร้างสรรค์งานศิลปะออกมาจากตัวผมเอง”