นิตยสาร EW คว้าตัว เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน (Jennifer Hudson) ขึ้นปกแชะภาพเซตหรูหราอลังการพร้อมเผยภาพแรกจาก Respect ภาพยนตร์ชีวประวัติ อารีธา แฟรงคลิน (Aretha Franklin) ที่ ฮัดสัน รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตในฐานะราชินีเพลงโซล รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นในการมารับบทนี้ และความชื่นชมส่วนตัวที่มีต่อ แฟรงคลิน ผู้เป็นดั่งต้นแบบในการร้องเพลงของเธอ ซึ่งเสียชีวิตลงในวัย 76 ปี เมื่อ 2018 หลังจากต่อสู้กับมะเร็งมาอย่างยาวนาน

โดย ฮัดสัน เล่าให้ฟังว่า เธอได้รับคำชวนนี้จาก แฟลงคลิน โดยตรงเมื่อทั้งสองได้เจอกันที่นิวยอร์ก "สิ่งแรกที่เธอพูดกับฉันเลยก็คือ 'เธอจะชนะออสการ์อีกสักถ้วยจากการเล่นเป็นฉันใช่ไหม?' คุณลองนึกภาพ อารีธา แฟรงคลิน มองตรงมาที่คุณแล้วพูดแบบนั้นสิ ฉันก็เลยตอบแค่ 'เอ เอ่อ อ่า ฉันจะลองดูแล้วกัน!'"

สำหรับตัว ฮัดสัน ผู้ที่แม่ พี่ชาย และหลานชายของเธอถูกฆาตกรรมเมื่อปี 2008 ได้เปิดเผยว่าเธอสามารถเข้าใจถึงความรู้สึกแห่งการสูญเสียของ แฟรงคลิน และเข้าใจความทุกข์ของเธอได้เป็นอย่างดี

"การได้พบกับประสบการณ์มากมายในเวลาอันรวดเร็ว แล้วก็แบกน้ำหนักของโลกทั้งใบเอาไว้บนบ่า มันหนักหนามาก และฉันเข้าใจ ฉันคิดว่าเธอสร้างโล่กำบัง และกำแพงเอาไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย จนเธอได้มาพบว่าเธอสามารถระบายความรู้สึกทั้งหมดนั้นได้ผ่านบทเพลงของเธอ มันเป็นเหมือนการปลดปล่อย"

สิ่งที่ ฮัดสัน สามารถตอบแทนและรับผิดชอบในโอกาสที่เธอได้รับในครั้งนี้คือเรียนรู้การออกเสียงสำเนียง การทำท่าทาง และเข้าคอร์สเรียนเปียโนอย่างเข้มงวดนานถึง 6 เดือน เพื่อถ่ายทอดความเป็น แฟรงคลิน ออกมาได้อย่างสมเกียรติมากที่สุด

"ฉันรู้ว่า อารีธา อยากให้ชีวิตของตัวเองอยู่บนจอยักษ์ และฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่เธอเลือกฉันให้เล่นเป็นเธอ ฉันหมายถึง ใครจะกล้าพูดแบบนั้นล่ะ? และนั่นแหละ ฉันคงไม่มีโอกาสได้ทำมันโดยปราศจากความต้องการของเธอ ฉันได้คุยกับเธอครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 สิงหา 2018 และฉันพูดจากใจเลยว่าเธอยังคงร้องเพลงจนถึงลมหายใจสุดท้ายจริง ๆ ฉันอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง ฉันอยากเป็นคนอายุ 80 ที่ยังได้ทำในสิ่งที่รักแบบนั้น คุณเข้าใจใช่มั้ย? ร้องเพลงไปจนวันสุดท้ายน่ะค่ะ"

Respect กำกับโดยผู้กำกับสาว ลีเซล ทอมมี่ (Liesl Tommy) จากบทภาพยนตร์ที่ร่วมเขียนโดย เทรซีย์ สก็อตต์ วิลสัน (Tracey Scott Wilson) และแคลลี่ โครี่ (Callie Khouri) เล่าเรื่องราวตั้งแต่ช่วงปี 1940 ที่ แฟรงคลิน ยังคงเป็นเด็กสาววัยกระเตาะ ไปจนถึงช่วงที่เธอทำอัลบั้ม Amazing Grace เมื่อปี 1972 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุด และประสบความสำเร็จที่สุดที่ช่วงชีวิตของเธอ นอกจากนี้จะตีแผ่ถึงชีวิตส่วนตัวกับเรื่องราวที่เธอต้องเผชิญในช่วงวัยแตกเนื้อสาว ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตอีกด้านที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนอีกด้วย

ที่มา: Ew.com