เจแนลล์ โมเน่ (Janelle Monáe) เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า เธออยากให้ผู้คนรู้ว่าชีวิตของผู้หญิงผิวสีในอเมริกาเป็นอย่างไร ผ่านการถ่ายทอดบทบาทในภาพยนตร์ Antebellum ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความยากลำบากของคนที่ต้องก้าวผ่านการเหยียดเชื้อชาติไปให้ได้
"นี่เป็นภาพยนตร์ที่มีจุดศูนย์กลางหลังเป็นประสบการณ์ของผู้หญิงผิวอเมริกันผิวสี ทั้งแก่นเรื่องและสิ่งที่เราพูดถึงเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ยังพอมีความสุขแอบซ่อนอยู่ คือมันซับซ้อนเหมือนชีวิตแหละค่ะ มันมีการเฉลิมฉลองของผิวสีที่แหวกขนบจากชุมชนของเธอ" โมเน่ กล่าว
โดยนักแสดงสาวพยายามใช้พื้นที่ในฐานะคนสาธารณะเป็นกระบอกเสียงให้ชนชายขอบที่ไม่มีใครได้ยินเสียง ถ่ายทอดความยากลำบากและความอดทนอดกลั้นของพวกเขาออกมา
"ผ่านการทำงานของฉัน ฉันพยายามเน้นมาตลอดว่าการเป็น 'คนอื่น' ในอเมริกาเป็นยังไง ฉันเคยใช้เอนดรอยด์ แล้วก็เรื่องราวไซ-ไฟ เป็นตัวกลางเพื่อหาเรื่องพูดคุยกับคนอื่น เพราะงั้นฉันเลยไม่กลัวที่จะพูดความคิดของฉัน ฉันยืนเคียงข้างหญิงผิวสีและผู้หญิงทุกคนเสมอ เพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในชุมชนชายขอบ และนั่นเป็นที่ที่ฉันอยากให้พวกเขายืมเสียงออกฉัน และฉันอยากมอบแสงสว่างแบบนั้นค่ะ”
นอกจากนี้ โมเน่ ยังอธิบายด้วยว่าภาพยนตร์ Antebellum สะท้อนถึงกระแสสังคมในปัจจุบันอย่าง Black Lives Matters ที่ถูกจุดประกายขึ้นจากการสูญเสียด้วยการตัดสินอย่างไม่ชอบธรรมและเหยียวสีผิวจากตำรวจ
"ความรุนแรงและความเงียบเกิดขึ้นกับสาว ๆ ผิวสีมาตลอด และผู้หญิงเหล่านั้นต้องการออกมาพูดถึงเรื่องราวเหล่านั้น และอยากให้มีใครสักคนมาตรวจสอบช่วยเหลือ" โมเน่ อธิบายเพิ่มเติม "ถ้าคุณได้ผลประโยชน์จากสังคมชายเป็นใหญ่ และการกฎหมายเหยียดเชื้อชาติ ความหวังของฉันคือ หลังจากที่คุณได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ หรือมันไม่จำเป็นต้องมาดูหนังเรื่องนี้ก็ได้ แต่ฉันหวังว่าคุณจะกลายเป็นแรงสนับสนุนให้แก่หญิงผิวสี ฉันไม่คิดว่าต้องเป็นพวกเธอที่ลุกขึ้นมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ซะเอง พวกเราคู่ควรกับความสงบสุข"
Antebellum ฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
ที่มา: People.com