Esquire Korea คว้าตัว คิมอูบิน (Kim Woo-Bin) มาถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ตลงนิตยสารฉบับเดือนกรกฎาคม พร้อมบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเกี่ยวกับก้าวต่อไปในวงการบันเทิง, ทัศนคติมุมมองที่เปลี่ยนไป, การหวนกลับมารับงานภาพยนตร์อีกครั้งหลังห่างหายไปนานถึง 4 ปี รวมถึงประเด็นอื่น ๆ อีกมากมายให้แฟน ๆ ได้อัปเดตกันอย่างจุใจ

อับดับแรก คิมอูบิน ได้เผยถึงความรู้สึกที่ต้องกลับมานั่งให้สัมภาษณ์อีกครั้งในรอบ 5 ปีว่า "พอคุณบอกว่ามันเป็นเวลาถึง 5 ปีแล้วนะ มันก็ทำให้ผมคิดได้ว่ามันผ่านมานานมากแล้วจริง ๆ แต่เอาจริง ๆ แล้ว มันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันนานอะไรขนาดนั้นนะครับ ตอนนั้นผมคิดว่ามันคงจะมีความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยไปซะทีเดียว แต่ตอนนี้เมื่อผมได้มาเจอพวกคุณ ผมก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคย มันก็เหมือนกับการถ่ายทำหนังของผมนั่นแหละครับ ผมรู้สึกกังวลมากเนื่องจากห่างหายไปนาน แต่จริง ๆ แล้วเมื่อผมได้ไปที่กองถ่ายแค่ครั้งเดียว ผมก็คิดกับตัวเองนะว่า 'นี่มันก็ไม่ได้รู้สึกไม่คุ้นเคยอย่างที่ผมคาดการณ์เอาไว้หนิ'"

แม้ว่า คิมอูบิน จะเริ่มก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิงในฐานะนายแบบ แต่เขาก็ไม่ได้มีงานถ่ายแบบอะไรมากมายนัก หลังจากที่เริ่มผันตัวมาเป็นนักแสดง "นั่นเป็นเรื่องจริงครับ ผมได้ทำมันน้อยกว่าที่ผมคิด มันมีเวลาแค่ไม่กี่ปีซึ่งผมคงไม่สามารถทำได้ บางครั้งผมก็มีหลายงานอยู่ในมือ แล้วก็ไม่มีเวลาได้พักเลย ซึ่งนั่นน่าจะเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ค่อยได้ทำมัน ความจริงนับตั้งแต่ตอนที่ผมเริ่มก้าวเข้ามาในฐานะนายแบบ การได้ถ่ายแบบมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้กลับไปสู่บ้านเกิดของผม ดังนั้นผมจึงอยากจะถ่ายแบบอีกเยอะ ๆ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้นนิดหน่อยครับ" 

 

 

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า คิมอูบิน กำลังจะกลับมาพบแฟน ๆ ผ่านผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในรอบ 4 ปีของเขา และเมื่อถามว่าเขามีแผนอะไรเป็นพิเศษ หรือมีการเตรียมพร้อมยังไงบ้าง คิมอูบิน ก็ตอบว่า "ไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่ผิดแปลกไปหรอกครับ เนื่องจากมันเป็นงานของผม ที่ผมจะต้องอุทิศตัวเพื่องานต่าง ๆ ของผม ผมจึงใส่ความคิดลงไปในงานนั้น ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ แล้วก็ลองพูดคุยกับผู้กำกับเยอะ ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าหนังมันจะออกมาดี แล้วก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักแสดงคนอื่น ๆ ในกองถ่ายเยอะ ๆ ด้วย สิ่งเดียวที่อาจจะเป็นเรื่องพิเศษก็คือทัศนคติของผมมันเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อย ผมควรจะเรียกมันว่าอะไรดีนะ ผมคิดว่าผมมีพลังบวกเยอะเลยล่ะ เนื่องจากผมจะได้เจอกับแฟน ๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีผ่านหนังเรื่องนี้ ผมรู้สึกขอบคุณและตื่นเต้นมาก ๆ กับความจริงนั้นเพียงลำพัง ช่วงหลัง ๆ มานี้ผมรู้สึกสนุกกับการที่ได้ไปกองถ่ายมาก ๆ เลยครับ"

ดูเหมือนว่า คิมอูบิน จะไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องใหม่ของเขาออกมาให้เราได้ทราบไปมากกว่าข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นหนังไซไฟ-อาชญากรรม เกี่ยวกับเอเลี่ยนตัวหนึ่งที่มาใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลียุคปัจจุบัน "ทั้งหมดที่ผมสามารถบอกได้ก็คือมันเป็นหนังไซไฟ-อาชญากรรมเกี่ยวกับเอเลี่ยนตัวหนึ่งครับ" คิมอูบิน เผย

คิมอูบิน ยังพูดถึงงานแฟนมีตติ้งที่จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วให้ฟังอีกว่า "มันดีมาก ๆ เลยครับ ผมรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้มาเจอกับกลุ่มคนที่คอยอยู่เคียงข้างผมอย่างแท้จริง เนื่องจากมันเป็นงานที่ทุกคนที่มาร่วมคือคนที่รอคอยผมจริง ๆ ครับ"

 

 

เมื่อถามถึงเสน่ห์ในฐานะนักแสดงของเขา คิมอูบิน ก็ตอบว่า "บางทีมันอาจจะเป็นการที่ผมดูมีเอกลักษณ์เฉพะตัวนิดหน่อยมั้งครับ มีคนสวย หล่อ อยู่มากมาย แต่ผมคิดว่าผมดูเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนิดหน่อยนะ และผมก็คิดว่านั่นมันน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้กำกับหลาย ๆ คนชอบผม ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเด็ก ๆ ด้วย" 

ผู้สัมภาษณ์จึงแซว คิมอูบิน ขึ้นมาว่านั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาลงเอยด้วยการได้มารับบทเป็นอันธพาลอยู่บ่อยครั้งด้วยก็ได้ ซึ่งน่าจะสัก 5 หรือ 6 ครั้ง ที่เขาได้รับบทเป็นตัวละครที่เก่งเรื่องการต่อสู้ในโรงเรียน คิมอูบิน จึงตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่า "ผมเองก็อยากจะลองแสดงหลาย ๆ บทบาทที่มันต่างจากนั้นนิดหน่อยอ่ะนะ" ผู้สัมภาษณ์ยังเสริมอีกว่าพวกเขาได้ยินมาว่า คิมอูบิน ไม่ใช่พวกที่เก่งเรื่องการต่อสู้ในโรงเรียน คิมอูบิน จึงตอบพร้อมเสียงหัวเราะอีกครั้งว่า "ครับ ผมไม่ได้เก่งที่สุดเรื่องการต่อสู้ในโรงเรียนหรอกครับ"

เมื่อถามถึงพฤติกรรมประหลาด ๆ คิมอูบิน ก็บอกว่า "มันก็ไม่ได้มีอะไรใหญ่โตนะครับ ผมไม่เคยหนีออกจากบ้าน หรือทำอะไรทำนองนั้นเลย แต่ขณะเดียวกันผมก็ไม่ได้ถึงกับเป็นพวกนักเรียนตัวอย่างอะไรแบบนั้นด้วย ผมว่าผมเป็นพวกที่อยู่ตรงไหนสักแห่งระหว่างนั้นมั้งครับ"

 

 

และเมื่อถามว่าตัวละครตัวไหนที่เขาเคยแสดง ที่มีความคล้ายตัวตนจริง ๆ ของเขามากที่สุด คิมอูบิน ก็ตอบว่า "โดยรวมแล้วมันก็มีความเป็นตัวผมอยู่พอ ๆ กันในทุก ๆ บทบาทที่ผมได้รับ และเมื่อเวลาผ่านไปผมว่าเกณฑ์พวกนั้นมันก็เปลี่ยนไปด้วย เทียบกับตอนที่ผมอยู่ในช่วงอายุ 20 ชีวิตจริงของผมในตอนนี้มันกลายเป็นคนที่สงบขึ้นมาก บางทีมันอาจจะเป็นเพราะผมได้พักผ่อนมาสักพัก ตอนนี้ผมจะค้นหาข้อมูลเพื่อหาคำตอบว่าต้นไม้ต่าง ๆ หน้าบ้านของผมมันคือสายพันธุ์อะไร แต่ในอดีตผมคงไม่รู้หรอกว่าต้นไม้หน้าบ้านของผมมันมีสายพันธุ์อะไรบ้าง และผมก็คงจะไม่สนใจมันด้วย แล้วผมก็ยังคุ้นเคยกับความเกลียดในการที่จะต้องไปภูเขาแล้วด้วยครับ"

ผู้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นว่ามันอาจจะเป็นเพราะว่าเขาแก่ขึ้น มากกว่าจะเป็นเพราะการที่เขาได้พักผ่อน และยกตัวอย่างเพื่อนช่างภาพของเขาที่เปลี่ยนจากเคยถ่ายแต่รูปนายแบบ-นางแบบ มาสนใจการถ่ายภาพดอกไม้แทนในตอนนี้ "ผมไม่สนใจดอกไม้หรือต้นไม้เลยจริง ๆ แต่ตอนนี้ผมชอบพวกมันมาก" คิมอูบิน เผย "แล้วผมก็ยังสนุกกับการค้นหาว่าพวกมันคือสายพันธุ์อะไรด้วย ในอดีตผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย แต่เดี๋ยวนี้ผมใช้แอพเพื่อค้นหาว่าพวกต้นไม้ที่ผมเห็นทุกวันหน้าบ้านผมมันคือสายพันธุ์อะไร"

ซึ่ง คิมอูบิน ยังได้แชร์ให้ดูด้วยว่าแอพที่เขาใช้เรียกว่า Moyamo "ข้อดีที่สุดของแอพนี้ก็คือถ้าคุณถ่ายรูปแล้วก็อัปโหลดมันลงไป ผู้ใช้หลาย ๆ คนจะเข้ามาช่วยกันตอบภายใน 5 นาที ผมแค่แตะก็ได้คำตอบ ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อผมมองมันแล้วผมก็จะนึกได้ว่า 'โอ้ นี่มันดอกไลแล็คหนิ ผมเคยได้ยินชื่อดอกไลแล็คมาก่อน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันมีลักษณะยังไง'"

เมื่อผู้สัมภาษณ์บอกว่าพวกเขาก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับดอกไม้มากขึ้นในช่วงชีวิตหลัง ๆ มานี้ คิมอูบิน ก็บอกว่า "ผมเข้าใจแล้วครับ มันคงเป็นเพราะผมแก่ขึ้นแหละ แต่ผมก็สนุกกับมันจริง ๆ นะ เวลาที่ผมเห็นฤดูกำลังเปลี่ยน ผมจะคิดว่า 'เดือนนี้ดอกนั้นดอกนี้จะเบ่งบาน' ผมคิดว่า 'มันเป็นเดือนเมษายน ดังนั้นดอกไลแล็คกำลังจะบานแล้วในตอนนี้ ผมพร้อมที่จะสูดกลิ่นหอม ๆ ของพวกมันแล้ว' มันเหมือนความรู้สึกของการรอคอย เหมือนกับ 'เร็ว ๆ นี้ จะมีลูกพลัมขึ้นบนต้นพลัมนะ' อะไรแบบนั้น"

 

 

แม้ตัวละครอันธพาลในโรงเรียนมันจะไม่เหมือนชีวิตจริงของ คิมอูบิน แต่เขาก็สนุกกับบทบาทเหล่านั้น "เนื่องจากผมได้ใช้ชีวิตในช่วงวัย 20 แบบนั้น ผมก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันนะที่ตอนนี้ในวัย 30 ของผม ผมพร้อมที่จะโชว์ให้เห็นถึงทัศนคติใหม่ ๆ แล้วก็ใบหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย" และเมื่อถูกถามว่ามันคือ คิมอูบิน พาร์ท 2 รึป่าว เขาก็ตอบว่า "ถูกต้องครับ นับตั้งแต่ที่ทัศนคติของผมได้เปลี่ยนไป ช่วงหลังมานี้ผมก็เลยรู้สึกไม่เครียดเลยจริง ๆ ผมทำได้ดีเลยนะทุกวันนี้"

เมื่อถามว่าวัย 20 มันเหมือนกับฝันร้ายรึป่าวถ้าลองมองย้อนกลับไป ทั้งในเรื่องความความทะเยอทะยาน และความคิดต่าง ๆ มากมายที่อยู่ในใจของเขา คิมอูบิน ก็ตอบว่า "ถึงอย่างนั้น วัย 20 ของผมมันก็ยอดเยี่ยมมาก ๆ เหมือนกันนะครับ เนื่องจากตอนนั้นผมยุ่งมาก ๆ แล้วก็ใช้ชีวิตแบบสุด ๆ ไปเลย มีอยู่ช่วงหนึ่งในอดีตที่ผมต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในร้านซาวน่าแห่งหนึ่ง ผมไม่มีเงินเลยตอนที่ผมอายุ 20 และผมก็ไม่อยากขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ด้วย ดังนั้นผมก็เลยไปใช้ชีวิตอยู่ที่ซาวน่า แต่ผมก็สนุกกับวันเวลาเหล่านั้นมาก ๆ เลยเหมือนกันนะ มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ผมได้เข้าใจผ่านช่วงเวลาเหล่านั้น ตั้งแต่ที่ผมได้พักผ่อน แล้วก็ได้ลองมองย้อนกลับไปถึงช่วงเวลานั้น ผมก็คิดได้ว่าตอนที่ผมอายุ 20 ผมไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ผมใช้ชีวิตอยู่กับอนาคต ผมเข้มงวดกับตัวเองมาก แล้วก็ใช้ชีวิตเพื่อไล่ตามเป้าหมายของผม"

"ผมคิดว่าผมคงไม่สามารถสนุกกับปัจจุบันได้จริง ๆ ถ้าย้อนไปตอนนั้น" คิมอูบิน เสริม "ยกตัวอย่างนะครับ เวลาที่คุณออกกำลังกาย คุณก็ควรที่จะสนุกกับท่าทางต่าง ๆ ของการออกกำลังกาย แต่คุณก็จะลงเอยด้วยการไปโฟกัสที่เป้าหมายของคุณ ผมว่าถ้าคุณลองคิดเกี่ยวกับปัจจุบันดู คุณก็จะรู้สึกเครียดน้อยลง มีความสุขมากขึ้น แล้วก็รู้สึกขอบคุณมากขึ้นด้วย"

 

 

นอกจากนี้ คิมอูบิน ยังได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการผันตัวมาเป็นนักแสดง หลังจากเริ่มต้นบนเส้นทางของนายแบบอีกว่า "ผลงานชิ้นแรกของผมก็คือซีรีส์ White Christmas และเพื่อนนักแสดงส่วนใหญ่ของผมในเรื่องนั้นก็เป็นนายแบบ ผู้กำกับเขาคอยให้คำแนะนำเราตลอด เขาบอกว่า 'อย่ายืนด้วยท่าทางเท่ ๆ อย่าเดินด้วยท่าทางเท่ ๆ' ตอนนั้นพวกเรายืนและเดินด้วยท่าทางเท่ ๆ โดยที่ไม่ได้เข้าใจถึงท่าทางที่แสดงออกมาเลย หลังจากนั้น ผมก็เริ่มที่จะใส่ความคิดลงไปเยอะ ๆ ว่าผมควรจะเดินยังไงดี อย่างตัวละครฮึงซูของผมใน School 2013 ผมก็ใส่ความคิดลงไปในนั้นด้วยตัวผมเอง แล้วก็บอกกับตัวเองว่า 'ผมคิดว่าฮึงซูควรจะเดินแบบนี้นะ ผมคิดว่าฮึงซูควรจะวิ่งแบบนี้นะ'"

ปัจจุบัน คิมอูบิน ได้เซ็นต์สัญญาย้ายไปอยู่ภายใต้สังกัด AM Entertainment ซึ่งเป็นค่ายเดียวกันกับ ชินมินอา (Shin Min-Ah) แฟนสาวของเขา หลังจากพักงานไปตั้งแต่เมื่อปี 2017 เพื่อรักษาตัวหลังตรวจพบมะเร็งหลังโพรงจมูก และตอนนี้เขาพร้อมที่จะกลับมาสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงกันแล้ว เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเขาได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ในฐานะผู้ประกาศรางวัลในงาน Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 40 แล้วจากนั้นก็ประเดิมจัดแฟนมี๊ตติ้งพบปะแฟน ๆ ที่เฝ้ารอเขามานานที่ประเทศเกาหลี และล่าสุดเขายังได้ร่วมบรรยายสารคดี Humanimal ทางช่อง MBC อีกด้วย

ส่วนภาพยนตร์ Alien ผลงานชิ้นใหม่ของเขานั้นยังไม่ได้วางกำหนดฉายที่แน่ชัด แต่งานนี้ คิมอูบิน จะได้กลับมาประชันบทบาทกับนักแสดงมากฝีมือคับคั่ง อาทิ รยูจุนยอล (Ryu Jun-Yeol), คิมแทรี (Kim Tae-Ri), โจอูจิน (Jo Woo-Jin), ฮันนี่ ลี (Honey Lee), คิมอึยซอง (Kim Ui-Sung) และ ยอมจองอา (Yum Jung-Ah)

 

ที่มา: Soompi.com