เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมาผู้กำกับ ยอนซังโฮ ได้นำทีมนักแสดงจากภาพยนตร์ Peninsula ทั้ง คังดงวอน, อีจองฮยอน, ควอนเฮฮโย, อีเร, อีเยวอน, คิมมินแจ, คูคโยฮวาน และ คิมโดยุน เข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ที่ประเทศเกาหลีใต้แบบออนไลน์ ตามสไตล์ยุค New Normal ซึ่งในงานพวกเขาได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงการกลับมาของหนังภาคต่อจาก Train to Busan (2016) และเหตุผลที่ทำให้แต่ละคนตัดสินใจเข้ามามีส่วนร่วมในผลงานที่แบกความคาดหวังเอาไว้หนักอึ้งชิ้นนี้ รวมถึงบทบาทที่แต่ละคนได้รับด้วย
แม้ว่า Peninsula จะได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปีนี้ แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้ายงานต้องยกเลิกไปเพราะเหตุระบาดของโควิด-19 ซึ่ง คังดงวอน ได้เผยถึงความรู้สึกหลังพลาดโอกาสครั้งสำคัญนี้ว่า "ถึงแม้ว่างานเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนี้จะไม่ได้เกิดขึ้น แต่ผมก็คิดว่ามันถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว เพื่อน ๆ ของผมที่ต่างประเทศก็รู้เรื่องนี้ แล้วก็มาแสดงความยินดีกับผมด้วย"
ด้าน อีจองฮยอน ก็บอกว่า "ฉันมีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ ฉันอยากจะไปเทศกาลหนังเมืองคานส์สักครั้ง ดังนั้นมันก็เลยเป็นเรื่องที่น่าเสียใจนิดหน่อยที่สุดท้ายฉันก็ไม่สามารถไปได้ แต่ฉันก็อยากจะขอขอบคุณผู้กำกับ ยอนซังโฮ ที่ให้โอกาสฉันได้โชว์ให้เห็นถึงศักยภาพในการแสดงอันยอดเยี่ยมผ่านหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหนังที่ได้รับคำเชิญจากเทศกาลหนังเมืองคานส์"
ขณะที่นักแสดงรุ่นเก๋า ควอนเฮฮโย ก็เสริมว่า "มันเป็นข่าวที่น่ายินดี มันไม่ใช่ว่าทางเทศกาลหนังเมืองคานส์ตัดสินองค์ประกอบแค่บางอย่าง แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้ก็ได้รับการปลดเปลื้องด้วย Peninsula ได้รับการพิสูจน์ผ่านเทศกาลหนังเมืองคานส์แล้ว และเราก็สามารถที่จะมั่นใจได้เมื่อถึงเวลาที่จะได้พบกับผู้ชม"
Peninsula คือผลงานชิ้นที่ 3 ที่ทำให้ผู้กำกับ ยอนซังโฮ ได้รับคำเชิญจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ต่อจากแอนิเมชั่นเรื่อง The King of Pigs (2011) และ Train to Busan (2016) แต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่หนังแฟรนไชส์ของเกาหลีได้รับคำเชิญจากทางเทศกาลหนังเมืองคานส์ ซึ่ง ยอนซังโฮ ได้แชร์ความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "ผมคิดว่ามันก็เป็นความโล่งใจนะที่พวกเขาพิจารณามันเป็นอย่างดี ผมทำหนังมาแล้ว 6 เรื่อง และ 3 เรื่องได้รับเลือก ผมกำลังพยายามที่จะคิดว่าอะไรมันคือความแตกต่างระหว่างหนัง 3 เรื่องที่ไม่ได้รับเลือก กับหนัง 3 เรื่องที่ได้รับเลือก"
ยอนซังโฮ ยังบอกอีกว่าเขาเตรียมแผนที่จะทำ Peninsula ไว้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่ทำ Train to Busan แล้ว เผื่อไว้ในกรณีที่หนังภาคแรกมันไปได้สวย แถมยังบอกด้วยว่าคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่ใช้ใน Peninsula มันน้อยกว่าที่ใช้ในหนังภาคแรกเป็นสองเท่า
Peninsula จะพาคุณไปพบกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในหนังภาคแรกผ่านไปแล้ว 4 ปี ณ ตอนนี้คาบสมุทรเกาหลีได้กลายเป็นดินแดนรกร้างว่างเปล่าไร้ผู้อยู่อาศัยหลังจากซอมบี้เข้ามายึดครอง แต่มันก็ยังมีผู้รอดชีวิตบางคนติดอยู่ที่นั่นด้วยความหวังอันริบหรี่ว่าสักวันอาจได้รับการช่วยเหลือ
ในเรื่อง คังดงวอน จะรับบทเป็น จองซอก ผู้รอดชีวิตที่กลับมาเกาหลีเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่ง คังดงวอน ได้เผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจมารับเล่นหนังเรื่องนี้ว่า "ในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง มันก็เป็นภาระหนักที่ต้องมาร่วมแสดงในเรื่องราวที่สานต่อมาจากหนังที่มีคนทำมาก่อนแล้ว และนักแสดงหลาย ๆ คนก็ไม่ต้องการที่จะทำมัน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวผมเองผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นไปซะหมดหรอกนะตอนที่ได้รับบทหนังมา เนื่องจากมันยังไม่ได้มีหนังเกาหลีที่จะมาแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความหายนะ ผมก็เลยอยากที่จะทำมันมาก ๆ เลยล่ะ"
ขณะแถลงข่าวผู้กำกับ ยอนซังโฮ ก็ยังได้ชื่นชมทักษะการแสดงฉากแอ็คชั่นอันยอดยี่ยมของ คังดงวอน ด้วย ซึ่ง คังดงวอน เอง ก็เผยว่าเขาไม่อยากจะไปโรงเรียนสอนการแสดงเลยในตอนนี้ นับตั้งแต่ที่มีคนบอกกับเขาว่าเขาไม่มีอะไรที่ต้องเรียนอีกแล้ว
ส่วน อีจองฮยอน ผู้ที่จะมารับบทเป็น มินจอง ก็เผยว่า "ฉันชอบพวกหนังซอมบี้มาตลอด ฉันไปดู Train to Busan ของ ยอนซังโฮ ในโรงภาพยนตร์มา 4 หรือ 5 ครั้งเลยนะ มันน่าหลงใหลและมันก็น่าสนใจที่เกาหลีได้สร้างสรรค์หนังซอมบี้ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นมา ในระหว่างที่คิดแบบนั้น ฉันก็ได้รับการติดต่อและมันก็เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรซ์สุด ๆ เลย บทหนัง Peninsula มันน่าสนใจมาก ๆ และตัวละครเองก็น่าสนใจมาก ๆ เลยด้วยเหมือนกัน" นอกจากนี้ อีจองฮยอน ยังเสริมอีกว่า "ราวกับว่าพวกซอมบี้จาก Train to Busan มันมีวิวัฒนาการขึ้นมา พวกซอมบี้ใน Peninsula มันไวยิ่งกว่า การเล่าเรื่องก็ไวกว่าด้วยเหมือนกัน แถมหนังมันยังเข้มข้นมากขึ้นด้วย ดังนั้นมันจะมีความน่าสนใจตลอดทั้งเรื่องเลยล่ะค่ะ"
เนื่องจากซอมบี้คือหัวใจสำคัญของหนังเรื่องนี้ ทางทีมออกแบบท่าทางจาก Train to Busan จึงพยายามวางแผนท่าทางการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของซอมบี้ให้ออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้ ซึ่ง คิมมินแจ หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่องบอกว่าซอมบี้พวกนี้มีความโดดเด่นน่าจดจำมาก ๆ ด้วยเอเนอจี้ของพวกเขา ด้าน ยอนซังโฮ ก็ได้ขอบคุณเหล่านักแสดงรับเชิญที่มารับบทเป็นซอมบี้ให้ด้วย แถมหยอดมุขอีกว่าการทำหนังสักเรื่องที่มีซอมบี้เป็นตัวเอก มันก็เหมือนกับสงครามระหว่างซอมบี้กับสิบเอก ฮวาง (คิมมินแจ), มาดงซอก และ คิมอึยซอง ก่อนเสริมว่า "ผมจะไม่มีวันทำมันหรอกนะ ผมต้องขอโทษด้วย"
ยอนซังโฮ สรุปปิดท้ายงานแถลงข่าวว่า "ในช่วงเวลาหลังเกิดหายนะ ความหวังมันกลายเป็นเรื่องจำเป็น ได้โปรดมองว่าหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนกับเรื่องราวของกลุ่มคนที่ได้สร้างความหวังที่เป็นเรื่องจำเป็นนั้นขึ้นมานะครับ"
ที่มา: Soompi.com