เป็นภาคแยกที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้ภาคหลักเลยทีเดียว สำหรับ Rogue One: A Star Wars Story ภาพยนตร์ที่แม้จะอยู่ในจักรวาลเดียวกับ Star Wars แต่เนื้อเรื่องจะเล่าถึงผู้คนอีกกลุ่มนึงที่อยู่ในจักรวาล ซึ่งก็มันส์หยดติ๋งกันอย่างที่ได้รับชมกันไป แต่ล่าสุดสองผู้เขียนบท คริส ไวท์ซ (Chris Weitz) และ แกรี่ วิตตา (Gary Whitta) ก็ได้ออกมาพูดคุยถึงช่วงเวลาที่เขาได้ทำงานกับหนังเรื่องนี้ในแชนแนล Youtube CineFix ช่วง Star Wars Live Q&A พร้อมตอบคำถามเปิดเผยความลับเบื้องหลังที่ยังไม่เคยกล่าวถึงมาก่อน
• สำหรับชื่อเรื่องในตอนแรก เคยมีทีมงานคิดเอาไว้ว่าจะใช้ “Shadow of the Death Star” และชื่อที่หรูหราตระการตามากมาย แต่ คริส และ แกรี่ รู้สึกว่าหนังภาคแยกก็ควรมีชื่อที่โดดเด่นแลกแตกต่างออกมาจากภาคหลัก พวกเขาเลยไปย้อนดูชื่อหนังที่ผ่านมาแล้วพบว่า ส่วนใหญ่ชื่อตอนจะยาวขนาด 4-5 คำ พวกเขาเลยตัดสินใจใช่ชื่อที่มีเพียง 2 คำ อย่าง Rogue One เพื่อเป็นการบอกคนดูว่า เรื่องราวหรือองค์ประกอบในภาคนี้จะไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องหรือสอดคล้องอะไรกับหนังในไตรภาคหลักเลย
• ก่อนที่ตัวหลักของเรื่องอย่าง จิน เออร์โซ จะกลายมาเป็นนักสู้ในกลุ่มกบฏอย่างที่เราเห็น ทีมผู้สร้างเคยร่างบทให้เธอมีเรื่องราวชีวิตพื้นหลังในหลากหลายรูปแบบมาก่อน ทั้งอดีตทหารที่กบฏกองทัพ ชาวทะเลทราย และเคยร่างบทให้เธอเป็นคนเก็บขยะเหมือนกับ เรย์ จากไตรภาค Star Wars ภาค 7-9 อีกด้วย
• ตอนแรกทีมผู้สร้างวางแผนไว้ว่าจะให้ เจ้าหญิงเลอา ปรากฏตัวในฉากสำคัญของเรื่อง ตอนที่ฝ่ายกบฏกำลังวางแผนกันว่าจะทำอะไรต่อไปดีกับข้อมูลเกี่ยวกับดาวมรณะที่ได้มา ประโยคดังที่พูดว่า “ชาวกบฏเกิดขึ้นได้ด้วยความหวัง” จริง ๆ แล้ว เลอา ต้องเป็นคนพูด แต่ถูกปรับเปลี่ยนใน จิน เป็น คนพูดในภายหลัง เพราะจะหนักแน่นกระแทกใจคนดูมากกว่าในสถานการร์ ณ ตอนนั้น แล้วปรับบทให้ เลอา ปรากฏตัวในช่วงสุดท้ายแทน เพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวไปสู่ภาคหลัก
• สำหรับแฟน ๆ ที่สงสัยว่าทำไมนายพลอัคบาร์ ถึงไม่มาปรากฏตัวใน Rogue One เพราะเขาคือคนสำคัญที่ขับเคลื่อนชาวกลุ่มกบฏใน Star Wars: Episode VI - Return of the Jedi (1983) สองนักเขียน คริส และ แกรี่ ให้คำตอบว่า บทร่างเดิมมีฉากให้นายพลอัคบาร์ปรากฏตัว แต่เพราะผกก.แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส อยากใส่ตัวละครรุ่นบุกเบิกมากกว่านี้ นายพลอัคบาร์ เลยถูกตัดบทบาททิ้ง ให้นายพลแรดดัส เข้ามาแทน
• ผกก.แกเร็ธ ได้รับโอกาสให้ตั้งชื่อดาวเพียงดวงเดียวเท่านั้น เขาเลยตั้งว่า ดาวสคาริฟ (Scarif) ซึ่งมาจากชื่อของเขาที่บาริสต้า Starbucks เขียนออกมาแบบเพี้ยน ๆ
• *สปอยล์* Rogue One เป็นหนังที่พาเราไปทำความรู้จักกับกลุ่มคนหน้าใหม่ที่อุดมการณ์แรงกล้า แต่กลับถูกฆ่าตายทั้งหมดในตอนท้าย ซึ่งอาจจะจบไม่สวยเท่าไหร่นักแต่ก็ต้องยอมรับว่าทรงพลังและน่าจดจำมากจริง ๆ แต่นักเขียนบท คริส และ แกรี่ บอกว่า ในตอนแรกเขาตั้งใจให้หนังจบด้วยงานแต่งงานเก๋ ๆ เพราะคิดว่าดิสนีย์ไม่น่าปล่อยให้ฆ่าตัวละครยกแก๊งแน่นอน เลยจะให้จบสวย ๆ และมีแค่เจ้าหุ่นยนต์ K-2SO ที่ตาย แต่สุดท้ายพอถึงเวลาถ่ายซ่อม พวกเขาก็ตัดสินใจให้ทุกคนตายให้หมด จะได้ไม่เหลือร่องรอยเชื่อมโยงกับภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ในภายหลัง และสอดคล้องกับธีมหนัง “เสียสละ” อีกด้วย
ที่มา : Youtube CineFix