รอเธอมานานแสนนาน...แต่ก็ต้องเลื่อนอยากช่วยไม่ได้เพราะวิกฤติไวรัสโคโรน่า! สำหรับ Black Widow หนังเดี่ยวของสปายสาวจากจักรวาลมาร์เวล นาตาชา โรมานอฟ ที่ต้องถอยหลบหวัดไปในช่วงเดือนตุลาคมแทน ส่วนใครกำลังรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้เคว้งคว้าง เราขอนำเสนอ 12 ภาพยนตร์ 12 บทบาทเด่นของ “สการ์เลตต์ โจแฮนสัน” นอกเหนือจากภาพยนตร์ในจักรวาล MCU ที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้วมาฝาก ไว้ดูไปพลาง ๆ แก้เหงา ก่อนไปพบกันในโรงภาพยนตร์นะจ๊ะ

 

1. The Horse Whisperer (1998) | Drama, Romance, Western

ประเดิมด้วยเรื่องที่ สการ์เลตต์ ถ่ายทำเมื่อตอนอายุเพียง 14 เท่านั้น แต่ก็ยังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์มากมาย ก็คือบท เกรซ แม็คลีน สาวน้อยผู้ขี่ม้าตัวโปรดออกไปเล่นนอกบ้าน แล้วประสบอุบัติเหตุรถบรรทุกชน แอนนี่ (คริสติน สก็อตต์ โธมัส) แม่ของเธอจึงพาลูกสาวและม้าที่บาดเจ็บไปพักฟื้นรักษาทั้งร่างกายและจิตใจที่คอกม้าในมอนทาน่า ซึ่งหลายคนลือกันว่า ทอม บูเกอร์ (โรเบิร์ต เรดฟอร์ด) เจ้าของคอกนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องม้าตัวพ่ออย่างกับพูดคุยสื่อสารกับม้าของเขาได้ สุดท้าย.. นอกจากจะได้รู้จักกับม้าเพื่อนยากในมุมใหม่ ๆ แล้ว พวกเขายังได้ความรัก ความสัมพันธ์อันอบอุ่นครั้งใหม่เข้ามาในชีวิตอีกด้วย 

 

2. Lost in Translation (2003) | Drama, Romance

บทบาท โซเฟีย คอปโปลา ของ สการ์เลตต์ ในเรื่องนี้เป็นสาวเหงา ๆ ที่เดินทางมากับแฟนที่ญี่ปุ่น แต่เพราะแฟนต้องทำงาน เธอเลยต้องอยู่ห้องเงียบ ๆ และออกไปเดินเที่ยวเล่นในเมืองที่ไม่เคยรู้จักเพียงคนเดียว จนได้พบกับ บ็อบ แฮร์ริส (บิลล์ เมอร์เรย์) นักแสดงชายที่กำลังอึ้ง ๆ กับคัลเจอร์ช็อกบางอย่างอยู่พอดี เขาจึงกลายเป็นคนคนเดียวที่เธอสามารถพูดคุยและเข้าอกเข้าใจกันได้ ในสถานการณ์งง ๆ ในต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ แล้วสุดท้ายพวกเขาจะกลายเป็นเพื่อนกันต่อไปมั้ย? หรือพอจบภารกิจก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปเป็นคนไม่รู้จักกันตลอดชีวิต? 

 

3. In Good Company (2004) | Comedy, Drama, Romance

ตัวละครคิวต์ ๆ เหมาะกับคนคิวต์ ๆ สมัยวัยรุ่น เมื่อ สการ์เลตต์ รับบทเป็น อเล็กซ์ ลูกสาววัยจี๊ดของ แดน (เดนนิส เควด) คุณพ่อวัยกลางคนที่รู้สึกหัวเสียเพราะต้องกลายเป็นลูกน้องของ คาร์เตอร์ (โทเฟอร์ เกรซ) เจ้านายที่อายุน้อยกว่าหลายปี แถมเจ้านายหนุ่มคนนี้ยังจะมาทำตัวกิ๊กกั๊กกับลูกสาวของอีก! งานนี้นอกจะต้องรับมือกับความรูสึกเสียหน้าเล็ก ๆ ในหน้าที่การงานแล้ว คุณพ่อยังต้องคอยห้ามไม่ให้คุณลูกสาวไปยุ่งกับเจ้านายของตัวเองอีก

 

4. Match Point (2005) | Drama, Romance, Thriller

การร่วมงานครั้งแรกของ สการ์เลตต์ โจแฮนสัน กับ วูดดี้ อัลเลน ปูชนียบุคคลแห่งฮอลลีวูด ในบทบาท โนลา ไรซ์ สาวสวยทรงเสน่ห์ที่ทำให้ คริส วิลตัน (โจนาธาน รีส เมเยอร์ส) หลงรักและหลงใหลจนผิดใจกับภรรยา ฟังดูเหมือนเป็นบทบาทมือที่สามพาชายคบชู้ทั่วไป แต่เรื่องนี้ สการ์เลตต์ ทำให้ตัวละครมีมิติขึ้นมามาก กลายเป็นว่าทั้งน่าสงสาร น่าเห็นใจ ซึ่งนอกเหนือจากฝีมือแอ็คติ้งของนักแสดงนำแต่ละคนแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับความขัดแย้งของชีวิตรัก ชีวิตครอบครัวแบบเรียล ๆ ที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ อีกด้วย

 

5. The Nanny Diaries (2007) | Comedy, Drama, Romance

พักดราม่ามาเบาสมอง แล้วมาเฮฮาไปกับ แอนนี่ นักศึกษาสาวเพิ่งจบที่ถูกจับพลัดจับผลูมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ให้กับลูกชายของเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เพราะตัวคุณพ่อก็ยุ่งอยู่กับการทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนคุณแม่ก็ยุ่งอยู่กับการช็อปปิ้งจนไม่มีเวลาให้กับลูกชายของพวกเขาเลย แม้งานจะยุ่งล้นมือแถมตัวเด็กเองก็ยังแสบจนน่าปวดหัว แต่ แอนนี่ ก็ยังขยันทำงานพยายามไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จนกระทั่งได้พบกับ ฮาร์วาร์ด หนุ่มหน้าหล่อข้างห้องที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ต้องข่มใจไว้เพราะเธอได้ยินมาว่าพี่เลี้ยงคนเก่านั้นถูกไล่ออกเพราะว่ามีแฟน! แอบกระซิบว่าเรื่องนี้ สการ์เลตต์ เเล่นน่ารักมากกก แถมคนที่แสดงเป็นหนุ่มข้างห้องก็คือ พ่อแคป คริส อีแวนส์ นั่นเองจ้า

 

6. Vicky Cristina Barcelona (2008) | Comedy, Drama, Romance

หลังจากฝากฝีมือไว้ใน Match Point (2005) วูดดี้ อัลเลน ก็ถูกอกถูกใจจนคว้าตัว สการ์เลตต์ มาร่วมงานด้วยอีกรอบในบท คริสติน่า สาวสวยที่เดินทางไปเที่ยวบาร์เซโลน่ากับเพื่อนสาว วิคกี้ (รีเบกก้า ฮอล์) แต่กลับต้องผิดใจกันเพราะ ฮวน (ฮาเวียร์ บาร์เด็ม) ผู้ชายที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของพวกเธอแค่คนเดียว และแน่นอนว่าไม่ใชแค่เรื่องเพื่อนรักตีกันเพราะแย่งผู้ชายอย่างแน่นอน ด้วยความที่ตัวละคร คริสติน่า ของ สการ์เลตต์ในเรื่องนี้มีนิสัยค่อนข้างอิสระ ประมาณว่าแม้ใจจะรักแต่ยังไม่รู้ว่าถูกเติมเต็มดี จนพาให้เราได้ไปพบกับมุมมองความรักอีกด้านหนึ่ง ที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายเพียงแต่เรามักจะมองข้ามไปนั่นเอง ใครชอบดูหนังที่ต้องตกตะกอนความคิดไปด้วย แนะนำเลยเรื่องนี้

 

7. Under the Skin (2013) | Drama, Horror, Sci-Fi

ขอยกวลี ‘น้อยแต่มาก’ ให้เลย สำหรับฝีมือการแสดงของ สการ์เลตต์ ในเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ เราจะไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเรียกของเธอเลย รู้แค่เพียงว่าเธอเป็นเอเลี่ยนสาวที่เดินทางมายังโลกเพื่อจับมนุษย์ไปยังดาวของเธอ หรือกินเป็นอาหารก็ไม่มีใครทราบได้ แถมภาพยนตร์ยังเป็นประเภทหนังทดลอง จะมีการตัดภาพไปมาและดำเนินเรื่องผ่าน ‘การกระทำ’ มากกว่า ‘คำพูด’ น่าสนใจตรงที่ สการ์เลตต์ เอาบทอยู่ ทั้งสีหน้า ท่าทาง และสายตา เป็นความสวย เซ็กซี่ แบบมีมิติอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งช่วงที่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองหลังจากคลุกคลีอยู่บนโลกมนุษย์มาพักใหญ่ ยิ่งน่ามองและน่าชื่นชม 

 

8. Don Jon (2013) | Comedy, Drama, Romance

อีกหนึ่งบทเซ็กซี่ที่น่าจดจำของ สการ์เลตต์ นั่นก็คือ บาร์บารา สาวสวยที่ทำให้ จอน (โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) อยากหยุดชีวิตเจ้าชู้ไร้แก่นสารของเขาไว้ที่เธอคนเดียว เขาเลยตั้งเป้าหมายกับเพื่อนไว้ว่าเขาต้องคว้าทั้งตัวและใจของสาวสวยคนนี้มาให้ได้ แต่สุดท้ายเรื่องราวทุกอย่างก็พลิกผันเมื่อ เอสเธอร์ (จูลีเอนน์ มัวร์) สาวอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา… ฟังดูอาจเป็นหนังตลก ทะลึ่งใต้สะดือทั่วไป แต่ต้องยอมรับว่าออร่าของขุ่นแม่สการ์เลตต์ ในเรื่องนี้ฟุ้งกระจายมากกก คือเข้าใจเลยว่าทำไมพระเอกถึงหมายปองกันเบอร์นั้น ตัวหนังก็ดูเพลิน ๆ ตลก ๆ ไม่คิดอะไรมาก เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาอะไรเบาสมองดู

 

9. Lucy (2014) | Action, Adventure, Sci-Fi

เรียกว่าเป็นภาพยนตร์เดี่ยวที่ได้บู๊เต็มตัวอีกเรื่อง สำหรับบท ลูซ เบซสัน หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ ลูซี่ หญิงสาวที่ถูกบังคับให้เข้าไปพัวพันกับธุรกิจค้ายาผิดกฏหมาย เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือเมื่อตื่นมา ลูซี่ ก็ได้พบว่าร่างกายของตัวเองนั้นมียาประหลาดไหลเวียนอยู่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความกลัวและตกใจ ลูซี่ รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดให้เร็วที่สุด แต่ระหว่างนั้นฤทธิ์ของยาก็เริ่มทำให้นิสัยใจคอและความคิดในสมองของเธอเปลี่ยนไป เรื่องนี้ สการ์เลตต์ เล่นเป็นหญิงสาวธรรมดา ๆ ที่ต้องกลายเป็นเหมือนหุ่นยนต์ไร้จิตใจได้เริดมาก

 

10. Hail, Caesar! (2016) | Comedy, Drama, Music

ท่ามกลางนักแสดงชั้นนำของฮอลลีวูด สการ์เลตต์ ก็ยังสามารถสวมบทบาทของเธอได้โดดเด่นไม่มีโดนกลบเช่นเดียวกัน ในเรื่องนี้ สการ์เลตต์ รับบทเป็น ดีแอนนา มอแรน นักแสดงและนักเต้นระบำใต้น้ำที่พลาดท้องตอนที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธอพอดิบพอดี เลยเกิดเป็นเรื่องราววุ่น ๆ ให้ เอ็ดดี้ แมนนิกซ์ (จอช โบรลิน) ชายผู้ทำหน้าที่เก็บกวาดเรื่องคาว ๆ ของนักแสดงในสังกัด ต้องมาปวดหัวกับเรื่องว่าที่ดารากระเตงลูกของเธอด้วย 

นอกจาก สการ์เลตต์ และ จอช โบรลิน ภาพยนตร์ชวนหัวเราะนี้ยังร่วมแสดงโดย จอร์จ คลูนีย์, อัลเดน เออห์เรนริค, ราล์ฟ ไฟนส์, ทิลดา สวินตัน, แชนนิ่ง ทาทั่ม, โจนาห์ ฮิลล์ และฟราสเซส แม็คดอร์มานด์ อีกด้วย

 

11. Marriage Story (2019) | Comedy, Drama, Romance

สุดยอดผลงานที่ถูกพูดถึงและเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางของ สการ์เลตต์ กับเรื่องราวความรักของ นิโคล และ ชาร์ลี (อดัม ไดรเวอร์) สองสามี-ภรรยาที่ชีวิตคู่ของพวกเขากำลังติดขัด แต่ก็ตัดไม่ขาดสักทีจนเกือบทำลายทุกสิ่งอย่างที่พวกเขาร่วมสร้างกันมาแบบไม่เหลือชิ้นดี ตัวหนังจะพาเราเจาะลึกเข้าไปในความรู้สึกของตัวละครนำทั้งสอง ตลอดทั้งเรื่องคนดูจะเหมือนถูกตีหัวซ้ำ ๆ ด้วยความเจ็บปวด ความเศร้า ความเหงา และความเข้าใจ เป็นหนังที่บทพูดยาวเป็นหางว่าว แต่ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อยเพราะการแสดงของ สการ์เลตต์ และ อดัม คือเอาอยู่ไปสามโลกมากจริง ๆ

 

12. Jojo Rabbit (2019) | Comedy, Drama, War

ต่ายน้อยโจโจ้กับ สการ์เลตต์ โจแฮนสัน ที่เรื่องนี้เธอรับบทเป็น โรซี่ คุณแม่ของหนุ่มน้อยช่างจินตนาการผู้มีเพื่อนในโลกมโนเป็น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นคุณแม่ที่สร้างสีสันให้กับเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะตอนเถียงกับลูกเรื่องการเมือง ที่แม้จะขัดแย้งกัน แต่ก็ยังดูอบอุ่น ชวนขำ แต่ก็ทำให้รู้ปวดใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเธอเป็นแม่ที่แอบพาสาวน้อยชาวยิวมาแอบไว้ในห้องใต้หลังคาของตัวเอง นับว่าเป็นอุดมการณ์ที่แตกต่างจากลูกของเธอเลย สุดท้ายเธอเลยพยายามช่วยให้ลูกชายหลุดพ้นจากการถูกล้างสมองที่ผิดต่อมนุษยธรรมให้ได้ 

 

ไล่เก็บหนังแม่แล้วอย่างลืมรอดูแม่กันใน

Black Widow 29 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์