ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

20 หนังดีจากต่างแดน ลองเปิดใจดูแล้วจะรู้ว่าคุณภาพคับแก้ว!

14 เม.ย. 2563 11:35 น. | เปิดอ่าน 1528 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

กักตัวจนหนังหมดสต็อกกันรึยังทุกคน! ถ้าใครกำลังประสบปัญหานี้อยู่เรามีภาพยนตร์นานาชาติ 20 เรื่องจาก 20 ประเทศพร้อมรีวิวพอกรุบกริบมาฝากกัน มีทั้งหนังเก่าและหนังใหม่ ซึ่งแม้ว่าภาษาอาจไม่คุ้นหูใครหลาย ๆ คน แต่อยากให้ลองเปิดใจกันดู เพราะแต่ละเรื่องนั้นเป็นภาพยนตร์น้ำดีที่ให้ครบทั้งข้อคิดและความบันเทิงจริง ๆ

 

1. Better Days (2020) | จีน

ในช่วงสอบเอนทรานสซ์ที่เด็กจีนมักจะหยุดกิจกรรมทุกอย่างเพื่ออ่านหนังสือเตรียมตัวให้ตัวเองได้มีอนาคตที่สุดใส แต่กลับมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่เดินหน้าแกล้งเพื่อนอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งเด็กสาวผู้ตกเป็นเหยื่อตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทำให้ เฉินเหนียน (โจว ตงหยู) เพื่อนสนิทคนเดียวของเธอตกเป็นเป้าหมายของการถูกกลั่นแกล้งรายต่อไป คืนหนึ่งเธอได้ช่วยเหลือเด็กหนุ่มชื่อ เสี่ยวเป่ย อี้หยางเชียนซี ไว้โดยบังเอิญ โดยที่ไม่รู้เลยว่า เสี่ยวเป่ย คนนี้จะกลายมาเป็นผู้พิทักษ์คอยปกป้องช่วยเหลือเธอ ไม่ว่าเขาจะต้องแลกกันอะไรก็ตาม

นอกจากหนังจะนำเสนอปัญหาการบูลลี่ที่หลายคนต้องเผชิญไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยแล้ว สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือสองนักแสดงนำอย่าง โจว ตงหยู และ อี้หยางเชียนซี ที่สามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมาได้ทางสายตา โดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย ใครกำลังหาหนังที่ดูแล้วหนักหัวใจ แต่แอบจุดประกายความหวังเล็ก ๆ ในชีวิตได้ ลองดูเลย มันคือที่สุดของปีนี้จริง ๆ

 

2. Confessions (2010) | ญี่ปุ่น

เรื่องราวของครูชื่อว่า โยโกะ โมริกูจิ ที่สงสัยว่านักเรียนในชั้นเป็นฆาตกรคร่าชีวิตลูกสาววัยเพียง 4 ขวบของเธออย่างโหดเหี้ยม เธอจึงคิดอุบายหลอกว่าเธอได้ใส่เชื้อ HIV ลงไปในนมที่พวกเขาดื่มไปแล้วเพื่อให้คนร้ายแสดงตัวออกมา หลังจากนั้นก็เป็นการล้างแค้นอย่างถึงทรวงของเธอคนนี้ เพื่อชดใช้ให้กับชีวิตของลูกสาวผู้เป็นที่รักอย่างสาสม

ตัวหนังมีพลอตที่ฟังแล้วชวนตะลึง ตอนแรกแอบเล่าเอื่อย ๆ ปูเรื่องช้าไปบ้าง แต่พอเราเริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้วหนังก็ดึงให้รู้สึกอินตามทันที เรียกว่าเป็นหนังแก้แค้นที่ขัดต่อศีลธรรมอยู่บ้าง แต่มันทำให้ฉุกคิดเรื่องสังคมรอบข้างเราได้หลายอย่าง แถมทริคการแก้แค้นของผู้หญิงในฐานะแม่คนนึงยังเฉียบขาด เอเนอร์จี้แบบ ชั้นจะไม่ฆ่าพวกแกเพื่อล้างแค้น แต่จะให้พวกแกมีชีวิตอยู่ต่อไปเหมือนตกนรกทั้งเป็น!

 

3. My Sweet Orange Tree (2012) | บราซิล

จากวรรณกรรมเยาวชนคลาสสิกของนักเขียนชาวบราซิล โฮเซ่ วาสคอนเซลอส สู่ภาพยนตร์ดัดแปลงที่เล่าชีวิตของ เซเซ่ เด็กหนุ่มอายุย่างเข้า 8 ขวบในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งกับครอบครัวที่ค่อยอบอุ่นเท่าไรนัก ยิ่งพอพ่อของเขาตกงาน แม่ก็ต้องออกไปหาเงินแทน แถมเขายังถูกพ่อทุบตีหนักข้อเข้าทุกวัน สิ่งเดียวที่ เซเซ่ ทำได้ก็คือการพูดคุยระบายความในใจกับ ‘ต้นส้ม’ ในสวนหลังบ้านของตัวเอง ผ่านการจินตนาการสุดลึกล้ำ จนเจ้าต้นส้มได้กลายเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา เซเซ่ เลือกปลดปล่อยความอัดอั้นในครอบครัวผ่านการออกไปสร้างวีรกรรมแสบ ๆ มากมายในเมือง แต่แล้วชีวิตของ เซเซ่ ก็เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับ ปอร์ตูก้า คุณลุงที่ภายนอกดูเหมือนจะดุ แต่กลับยืนมือมาช่วยเหลือทุกครั้งที่ เซเซ่ ต้องการ

หนังเล่าเรื่องความรุนแรงในครอบครัวผ่านสายตาเด็กคนหนึ่ง ที่เลือกหนีจากชีวิตจริงอันโหดร้ายไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่ตัวเขาสร้างขึ้นมาเอง เราจะได้เห็นว่าเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง มีวิธีต่อสู้กับความเจ็บปวดของเขาได้ยังไง โดยมี ปอร์ตูก้า เป็นตัวแทนของ ‘ความเป็นพ่อ’ ซึ่งเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่อาจทำให้เราเผลอเช็ดน้ำตาป้อย ๆ โดยไม่รู้ตัว

 

4. The Salesman (2016) | อิหร่าน

เรื่องราวของ เอมาดและรานา สองสามี-ภรรยาที่ย้ายมาเช่าห้องพักแ่ห่งใหม่ที่มีผู้เช่าเดิมเป็นโสเภณี แน่นอนต้องเคยมีผู้ชายมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามายังห้องแห่งนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่ได้ติดใจอะไร จะมีก็แต่เพียงสงสัยว่าผู้เช่าเก่านั้นทิ้งสัมภาระเอาไว้ในห้องทำไม? ครั้นจะโยนทิ้งไปพวกเขาก็กลัวว่าเธออาจกลับมาเก็บข้าวของของเธออีกครั้ง จึงตัดสินใจเก็บเอาไว้ให้ก่อนโดยไม่รู้เลยว่า นั่นจะเป็นชนวนที่ทำให้วันหนึ่ง มีชายปริศนาเข้าห้องมาทำร้าย รานา ในขณะที่เธออยู่บ้านเพียงคนเดียว เมื่อเอมาดกลับมาเห็นว่าภรรยาของเขาบาดเจ็บสาหัส เลือดในตัวก็เดือดพล่านขนาดที่เขาปฏิญาณเลยว่าต้องหาตัวคนร้ายมาล้างแค้นให้ได้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกดึงเข้าไปผัวพันกับสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ

เป็นหนังดีที่ทำให้เราลุ้นแทบนั่งไม่ติดเบาะเป็นพัก ๆ ตลอดทั้งเรื่อง มีความฉลาดในการเล่าและผูกปม รู้ว่าจะต้องแอบแง้มคำใบ้ตรงไหน หลอกล่อคนดูยังไงให้ติดกับสถานการณ์ชวนน่าสงสัยทั้งหมดในเรื่อง คือเหมือนได้ดูหนังสืบสวนสอบชวนชั้นดี นอกจากนี้ หนังยังสะท้อนภาพสังคมของอิหร่านที่ยังก้ำกึ่งระหว่างยุคใหม่กับยุคเก่าผ่านการขัดแย้งของศีลธรรมและศาสนาได้เป็นอย่างดี

 

5. The Hunt (2012) | เดนมาร์ก

เมื่อชีวิตที่เรียบง่ายของ ลูคัส (แมดส์ มิคเคลสัน) ชายผู้ทำงานอยู่ที่เนิร์สเซอรี่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งต้องพลิกผัน! หลังจากมีเด็กกล่าวหาว่าเขาโชว์ ‘ของลับ’ ให้เด็ก ๆ ดู นำมาสู่ความเข้าใจผิดและการพยายามขับไล่มนุษย์คนหนึ่งโดยไม่คิดจะตามหาเหตุผลใด ๆ ยิ่ง ลูคัส พยายามต่อสู้เพื่อความจริงเท่าไร ก็ดูเหมือนว่าสังคมจะรังเกียจเขามากขึ้นเท่านั้น แถมความหวังในการที่จะได้กลับมาอยู่กับลูกชายตัวเองอีกครั้งหลังถูกการหย่าร้างพรากไปเนิ่นนานก็ริบหรี่ลงไปทุกวัน โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าการล่าแม่มดครั้งนี้จะจบลงเมื่อไร..

เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ แมดส์ มิคเคลสัน ฝากผลงานไว้ได้อย่างน่าประทับใจ การเล่าเรื่องของก็สมูธในเรื่อกของการนำเสนออีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ “การล่าแม่มด” และ “แพะรับบาป” โดยการปักใจเชื่อแบบฟังความข้างเดียวที่เห็นกันบ่อยในสังคม หนังสร้างบรรยากาศน่าอึดอัด ชวนสิ้นหวังได้ดี ดูแล้วก็คิดขึ้นมาได้บางที เด็กก็ไม่ได้ใส ๆ อินโนเซนส์เสมอไป

 

6. Memories of Murder (2003) | เกาหลี

อีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงของ บง จุนโฮ ผู้กำกับดีกรีออสการ์จาก Parasite สร้างจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฉวาซแง ที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลีในช่วงปี 1986-1991 แต่ไม่สามารถตามตัวคนร้ายได้ และเพิ่งมีการเปิดเผยหน้าผู้ต้องสงสัยนำไปสู่การรับสารภาพของฆาตกรจนเพิ่งปิดคดีได้ในปี 2019 โดยภาพยนตร์เล่าเรื่องผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจสามคนที่ได้รับมอบหมายให้สืบคดีนี้ แต่กลับเกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน โอกาสที่จะตามหาตัวคนร้ายเจอจึงค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ

บง จุนโฮ ฉลาดในการหยิบเอาประเด็นที่หนักหน่วงมาผสมผสานกับอารมณ์ขันเป็นระยะ ๆ ทำให้ดูแล้วไม่รู้สึกเครียดกับเรื่องมากเกินไป เพราะฉากฆาตกรรมในเรื่องคือดูแล้วรู้สึกอึดอัดแทนตัวเหยื่อมาก ส่วนในตอนท้ายนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในฉากจบที่เงียบ ดาร์ก แต่ทรงพลังที่สุดของวงการหนังเกาหลีเลยทีเดียว

 

7. Let the Right One In (2008) | สวีเดน

หนังอินดี้แนวโรแมนติก-แวมไพร์สัญชาติสวีเดน เล่าจุดเริ่มต้นเรื่องราวความสัมพันธ์และความรักของ ออสการ์ เด็กหนุ่มวัย 12 ปีที่ตกเป็นเหยื่อถูกเพื่อนกลั่นแกล้งตลอดเวลา กับ อีลาย เด็กสาวที่เขาบังเอิญเจอแล้วพบว่าเธออาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ เขานี่เอง ระหว่างนั้นก็มีข่าวพบศพคนตายอย่างปริศนามากมายในเมือง จนกระทั่ง อีลาย เปิดเผยกับ ออสการ์ ว่าเธอเป็นแวมไพร์และจำเป็นต้องดื่มเลือดมนุษย์เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ออสการ์รักเธอน้อยลง เพราะ อีลาย เป็นไม่มีคนที่อยู่เคียงข้างเขา และมอบความกล้าหาญให้เขาต่อสู้กับพวกเด็กเกเร อย่างที่เค้าไม่เคยคิดจะทำมาก่อน

หนังเสนอบรรยากาศเหงา ๆ เศร้า ๆ ในเมืองหนาวได้จับใจ ทั้งยังเป็นเรื่องราวของแวมไพร์ที่ประเด็นค่อนข้างสดใหม่ ไม่ซ้ำกับใครแม้จะเป็นความรักของวัยเด็ก แต่เรื่องราวที่เจอระหว่างทางนั้นไม่เด็กเลยแม้แต่น้อย แถมยังมีฉากโหด ๆ และเส้นเรื่องของการแก้แค้นมาให้ลุ้นระทึก สรุปรวม ๆ คือกลมกล่อมเอามาก ๆ ขนากฮอลลีวูดยังซื้อไปรีเมคใหม่เป็นเรื่อง Let Me In (2012) เลยทีเดียว

 

8. The Invisible Guest (2016) | สเปน

เอเดรียน ดอเรีย เป็นหนุ่มนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้าน ทั้งมีครอบครัวที่อบอุ่น ฐานะมั่นคงเพียบพร้อม การงานก็ก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผัน เมื่อจู่ ๆ เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมชู้สาวของเขา เอเดรียน จึงขอให้ทนายความสาวฝีมือดีที่สุดเข้ามาช่วยสืบหาความจริงเบื้องหลังทั้งหมด

เรื่องนี้คือขั้นสุดยอดของหนังหักมุมผ่านการสืบสวนสอบสวน การเฉือนคมของเหล่าตัวละคร และเล่ห์เหลี่ยมการทำงานของทนายความสาว แถมยังเล่าเรื่องได้ชวนติดตาม พลิกแพลงจนคาดเดาไม่ได้ ใครชอบหนังดีพล็อตมีชั้นเชิง บทเฉียบ ๆ แอ็คติ้งปัง ๆ บอกเลยเรื่องนี้ตอบโจทย์สุด

 

9. ILO ILO (2013) | สิงคโปร์

เรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพและครอบครัวของ เจียเล่อ เด็กชายวัย 10 ขวบที่มีนิสัยซุกซน ขี้แกล้ง โดยเฉพาะกับ เทเรซ่า พี่เลี้ยงชาวฟิลิปปินส์ เพราะรู้สึกไม่ถูกชะตาในตอนแรก เขาพยายามหาวิธีปั่นหัวเธอสารพัดเพื่อให้เธอทนไม่ได้แล้วลาออกไปจากบ้าน แต่แล้วก็มีจุดพลิกผันทำให้ เจียเล่อ ยอมเปิดใจให้กับพี่เลี้ยงต่างเชื้อชาติคนนี้ พวกเขาเริ่มสนิทและผูกพันกันขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวัน ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ดี แต่วิกฤติเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงทำให้มิตรภาพของพวกต้องสั่นคลอน

ตัวหนังเป็นภาพสะท้อนของครอบครัวชนชั้นกลางที่ถูกพิษเศรษฐฏิจเล่นงาน ให้เราได้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนได้รับผลกระทบยังไงไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เรียกว่าเป็นอะไรที่ใกล้ตัวเราทุกคนเอามาก ๆ มีการสอดแทรกประเด็นที่ค่อนข้างเรียล เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องเคยเจอกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งในหนังเรื่องนี้กันมาแล้วแน่นอน

 

10. The Baader-Meinhof Complex (2008) | เยอรมัน

หนังอิงประวัติศาสตร์ช่วงเกิดการก่อการร้ายของกลุ่มนักศึกษาหัวขบถชื่อ Red Army Faction ในช่วงต้นของยุค 70 โดยนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ ความขัดแย้ง และปมต่าง ๆ ของคนในกลุ่มกับทั้งเหล่าสมาชิกด้วยกันเอง และกับสังคม แน่นอนว่าอุดมการณ์ของพวกเขาแรงกล้าจนก่อเรื่องรุนแรงมาแล้วมากมาย แต่เพราะยังเป็นวัยรุ่นที่วุฒิภาวะอาจจะยังไม่มากพอ ทำให้สถานการณ์ค่อย ๆ ดิ่งลงไปยังจุดวิกฤติอย่างรวดเร็ว

ตัวหนังเล่าเรื่องแบบกึ่ง ๆ สารคดีมีการเล่าเเหตุการณ์จริงแทรกเป็นระยะ แต่ก็เดินเรื่องได้กระชับ ไม่งง ใครไม่รู้ประวัติศาสตร์เบอรมันมาก่อนก็บันเทิงกับเรื่องราวของตัวละครได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหาอ่านเพิ่มเติมก็อาจจะมีความอินมากกว่า แนะนำสำหรับคนที่ชอบหนังการเมือง ซึ่งแม้จะอิงมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว แต่ยังมีแนวคิดการเมืองสมัยใหม่ที่ยังคงร่วมสมัยอยู่ในปัจจุบัน

 

11. Loveless (2017) | รัสเซีย

ว่าด้วยเรื่องของสองสามี-ภรรยาที่ชีวิตคู่ของพวกเขากำลังพังทลาย และอยูในระหว่างการตัดสินใจหย่าร้าง ขายอพาร์ตเมนต์ของเขาเพื่อตัดขาดต่อกัน เพราะต่างคนก็ต่างไปมีคนใหม่แล้วเรียบร้อย แต่ติดปัญหาตรงที่จู่ ๆ ลูกชายวัย 12 ปีของพวกเขาก็หายตัวไป แม้ที่ผ่านมาพวกเขาจะไม่ได้สนใจลูกของตัวเองเท่าไรนัก แถมแทนที่จะลุกลี้ลุกลนรีบออกไปตามหา ยังมีเวลามาทะเลาะกันเรื่องใครแคร์ลูกมากกว่ากันอีก ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ลงทุนตามหาอย่างสุดความสามารถเท่าที่พ่อแม่คนหนึ่งจะทำได้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่เคยได้เห็นหน้าลูกชายของพวกเขาอีกเลย

ฟังแล้วหลายคนคงคิดว่าทำไมพ่อแม่ถึงทำตัวอีรุงตุงนังกันแบบนั้น แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับหลายครบครัวที่ล้มเหลวในสังคม เพียงแต่หนังเรื่องนี้สอดแทรกความสิ้นหวัง ความเจ็บปวด ความเย็นชา และกาปราศจากความรักตามชื่อเรื่องได้อย่างแยบยล บอกเลยว่าไม่ใช่หนังฟีลกู้ดที่พ่อแม่สำนึกตัวเองได้ระหว่างตามหาลูกแล้วแฮปปี้เอนดิ้งแน่นอน

 

12. Animal Kingdom (2010) | ออสเตรเลีย

เมื่อเด็กหนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่งจำเป็นต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติ หลังจากแม่ของเขาเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด แต่ชีวิตใหม่ของเขากลับระทึกกว่าที่คิด เพราะกลายเป็นว่าสมาชิกในบ้านญาติของเขานั้นเป็นมาเฟียกันทั้งบ้าน! แถมเขายังไม่เป็นที่รักของญาติเองเท่าไร การใช้ชีวิตให้อยู่รอดในดงสัตว์การหายเลือดที่พร้อมจะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆ ตลอลดเวลาจึงเริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ตำรวจก็พยายามติดต่อให้เขาไปเป็นพยานเอาผิดเกี่ยวกับธุรกิจมืดของครอบครัวเขาให้ได้ สุดท้ายเขาจะเลือกเดินไปทางไหน… ระหว่างโลกที่อาจทำให้มือของเขาต้องเปื้อนเลือดไปตลอดชีวิต หรือเป็นพลเมืองดีมีคุณธรรมยอมร่วมมือกับตำรวจเพื่อจับกุมญาติ ๆ ของตัวเอง?

นี่คือม้ามืดของหนังแก๊งสเตอร์ในปีนั้นเลยเอาจริง! กลับมาดูตอนนี้อีกรอบก็ยังสนุกกับความเลือดเย็นของทุกคนในบ้านเชือดสัตว์ คือลุ้นตามพระเอกไปตลอดทั้งเรื่อง นักแสดงก็แบกเรื่องได้ดีมากโดยเฉพาะ เบน เมนเดลโซห์น ผู้เป็นเหมือนจ่าฝูงของบ้าน และแจ็คกี้ วีเวอร์ เจ้าป้าโคตรโหดที่บทบาทโคตรเฉียบ

 

13. Life Is Beautiful (1997) | อิตาลี

หนังคลาสสิกชื่อดังเกี่ยวกับชีวิตของ กุยโด หนุ่มชาวยิวที่มาอาศัยอยู่ในอิตาลี่ในช่วงปี 40s เขาได้พบกับ ดาร่า จีบกัน รักกัน ได้แต่งงานกันแล้วมีโซ่คล้องใจด้วยกันหนึ่งคน กุยโด สามารถสานฝันเปิดร้านหนังสือเป็นของตัวเองได้สำเร็จ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์กวาดล้างเผ่าพันธุ์ยิวเพราะสงครามโลกครั้ง 2 โดยกลุ่มนาซีเยอรมันในอิตาลี่หลังจากนั้นไม่กี่ปี แน่นอนว่า กุยโด พร้อมลูกชายถูกจับตัวไปยังค่ายกักกันทันที พร้อมกับ ดอร่า ที่ตกลงไปด้วยแม้จะไม่ใช่ชาวยิวเพราะไม่อยากพรากจากสามีและลูกชายของเธอ ในความโหดร้ายและสิ้นหวัง กุยโด พยายามรักษาความไร้เดียงสาของลูกชายวัย 5 ขวบเอาไว้ให้ได้ โดยการเลือกที่จะโกหกตบแต่งเรื่องราวทุกอย่างให้สวยงามที่สุดเพื่อให้ทั้งเขาและลูกยังมีรอยยิ้มต่อไป

เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้วมีแต่คำว่าว่าจุกเต็มไปหมด แม้ตัวละครจะมีรอยยิ้ม หัวเราะได้ไม่ว่าเขาต้องเจอกับสถานการณ์ที่ร้ายแรงแค่ไหน แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกเศร้า รู้สึกหงอยตลอดเวลา ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังให้ข้อคิดดี ๆ ของการเป็นคนคิดบวก เลือกใช้การโกหกที่ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องไม่ดีมาทำให้เกิดเรื่องดี ๆ ขึ้นมาได้ มันเทา ๆ หม่น ๆ ใครอยากขอบน้ำตารื้นก็ลองหามาดูกันได้

 

14. 07:19 La Hora del Temblor (2016) | เม็กซิโก

สร้างจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจริงในเม็กซิโกเมื่อปี 1985 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 40,000 คนในเวลานั้น โดยตัวเดินเรื่องคือ มาร์ติน และ เฟอร์นานโด พนักงานต้อนรับสองคนที่กำลังทำงานปกติ แต่จู่ ๆ ก็เกิดแผ่นดินไหวย่างกะทันหันทำให้พวกเขาถูกคอนกรีตเจ็ดชั้นของตึกที่ทำงานถล่มลงมาทับ เคราะห์ดีที่พวกเขายังสามารถหายใจต่อไปได้ แต่ในสถานการณ์ที่ตะโกนเท่าไรก็ไม่มีใครได้ยินใต้ซากอาคารแบบนี้ พวกเขาจะเอาชีวิตรอดกันไปได้อย่างไร ในเวลา 7.19 น. ของวันที่ 10 กันยายน 1985

หนึ่งในหนังภัยพิบัติที่ดูแล้วหายใจได้ไม่ค่อยทั่วท้อง เล่นกับความรู้สึกคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง มีทั้งลุ้น ทั้งเศร้า ตัวพลอตไม่ค่อยแปลกใหม่ แต่การดำเนินเรื่องกับตัวเอกทั้งสองคนนั้นทำหน้าที่แบกหนังไว้ได้ดีมาก

 

15. And Breathe Normally (2018) | ไอซ์แลนด์

ภาพยนตร์ดราม่าน้ำดีจากฝั่งไอซ์แลนด์ของ ลาร่า ซิงเกิลมัมถังแตกที่ต้องพาตัวเองกับลูกชายวัยเพียง 6 ขวบเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้ จนกระทั่ง ลาร่า ได้งานใหม่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินเคฟลาวิก เธอได้พบกับ อัดย่า หญิงสาวที่แฟนสาวของเธอถูกฆ่าเพราะเป็นเลสเบี้ยน อัดย่า พยายามหาทางหนีออกไปแคนาดา แต่ ลาร่า ตรวจพบว่าข้อมูลในพาสปอร์ตของเธอมีบางอย่างแปลก ๆ อัดย่า จึงถูกกักตัวไว้จนกว่าจะตรวจสอบเรื่องวีซ่าให้เสร็จสิ้น แต่เมื่อทั้งสองได้ใช้เวลาพูดคุยกัน อยู่ด้วยกันระหว่างการดำเนินการ ความรู้สึกของทั้งคู่ก็เริ่มเปลี่ยนไป เกิดเป็นมิตรภาพครั้งใหม่ให้แก่กัน

สิ่งที่โดดเด่นในเรื่องคือวิวทิวทัศน์และบรรยากาของอุทยานเรย์คจาเนส เพนอินซูล่า ที่ถูกแต่งแต้มเรื่องราวของสองสาวให้ดูเหงาหงอยและเงียบสงบลงไปอีก เพราะประเด็นความขัดแย้งของแต่ละตัวละครที่มีทั้งเรื่องเพศ ความยากจน และการลักลอบเข้าเมือง แต่ทำออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อ ด้วยความเสน่ห์ของสองตัวละครหลักดึงดูดสายตามากจริง ๆ

 

16. A Twelve-Year Night (2018) | อุรุกวัย

เปิดเรื่องราวชีวิตในคุกของ โฮเซ่, เมาซิริโอ้ และเอเลเตริโอ้ สามสมาชิกกลุ่มโจรสังคมนิยมนักต่อต้านชื่อว่า ตูปามาโร่ ที่ถูกจับตัวมาคุมขังไว้ด้วยกัน ตลอดระยะเวลา 12 ปีพวกเขาต้องทุกข์ทนกับการโดนทรมานสารพัดทั้งร่างกายและจิตใจ ให้ยอมคายความลับของกลุ่มโจรออกมา ทั้งต้องเป็นเครื่องมือในฐานะตัวประกันคนกลางของกองทัพทหารไม่ให้ถูกพวกของพวกเขาเองลอบโจมตี สุดท้ายแล้วพวกเขาจะใช้วิธีไหนเพื่อให้ตัวเองได้รับอิสรภาพคืนมา

หนังสร้างจากหนังสือ El regreso del Gran Tuleque ฉบับตีพิมพ์ปี 1987 ของนักเขียนเมาริซิโอ้ โรเซนคอฟ ตัวจริงของหนึ่งในสามนักโทษตัวเอกในเรื่อง โทนหนังค่อนข้างเรียล ดูเจ็บจริง ทุกข์จริง ทรมานจริงด้วยการแสดงของนักแสดงนำทั้งสามคน คือสีหน้าแววตาออกมาให้เห็นเลยว่า ความสิ้นหวัง มันเป็นยังไง ใครชอบหนังแนว ๆ The Shawshank Redemption หรือ The Green Mile ห้ามพลาดเรื่องนี้เลย

 

17. The Wolf's Call (2019) | ฝรั่งเศส

เมื่อนาวิกโยธินหนุ่ม ชานเตอเรด มีสัมผัสการรับฟังอ่อนไหวกว่าคนปกติทั่วไป ทำให้เขามีความสามาถพิเศษคือสามารถแยกเสียงและระบุได้ทันทีว่าเสียงที่เขาได้ยินนั้นคืออะไร วันหนึ่งเขาได้รับมอบหมาให้ปฏิบัติภารกิจในเรือดำน้ำบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกชีวิตขึ้นอยู่กับเขาทั้งหมด แต่แล้ว ซานเตอเรด กลับทำภารกิจผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจทำให้เพื่อนของเขต้องตกอยู่ในอันตราย และยิ่งเขาพยายามเรียกความเชื่อใจของทุกคนกลับมาเท่าไร ก็ดูเหมือนจะทำให้สถานการณ์แย่ลงมากขึ้นเท่านั้น

ตัวพลอตอาจฟังดูเหมือนหนังทหารปฏิบัติภารกิจกู้โลกทั่วไป แต่หนังเรื่องนี้พิเศษตรงที่การดำเนินเรื่องที่กระชับรวดเร็ว เพลงประกอบอลังการ มีจุดหักมุมที่มาได้ถูกจังหวะ รวมถึงมุมกล้องต่าง ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกลุ้นตามทุกวินาที ฟีลเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในเรือดำน้ำนั้นด้วยจริง ๆ 

 

18. The Night Comes for Us (2018) | อินโดนีเซีย

เล่าถึงชีวิตในโลกมืดของเด็กข้างถนน 6 คนที่มีเจ้าพ่อมาเฟียค้ายารายใหญ่แถบสามเหลี่ยมทองคำรับเลี้ยงไว้ เพื่อเอามาฝึกฝนอย่างหนักให้เป็นลูกน้องรับใช้ที่ซื่อสัตย์ ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์พี่น้องที่พวกเขาสัญญาว่าจะดูแลกันไปจนวันตาย แต่แล้ว อิโต หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเกิดใจอ่อนไว้ชีวิตเด็กสาวคนหนึ่งในภารกิจสังหารหมู่แก๊งค้ายาฝ่ายศัตรู นั่นทำให้เจ้านายของเขาโกรธขนาดสั่งเก็บตัวเขาและพี่น้องทุกคนของเขาให้หมด ชีวิตที่ต้องต่อสู้เอาชีวิตของตัวเองและพวกพ้องให้รอดลอดภัยจึงเกิดขึ้นนับตั้งแต่วินาทีนั้น 

หนังแอ็คชั่นเดือดพล่านเกิดคาดจากอินโดนีเซีย โปรดักชั่นอลังการ ฉากบู๊ชวนตื่นตาตื่นใจ รวมกันพลอตเรื่องที่นอกจากจะชวนลุ้นระทึกเอาใจช่วยพระเอกตลอดเวลาแล้ว ยังทำให้รู้สึกประทับใจในความรักและมิตรภาพของหกพี่น้องต่างสายเลือด หนังไปสุดทุกทางทั้งโหด มันส์ บันเทิง ใครเป็นแฟนหนัง The Raid มาก่อน บอกเลยเรื่องนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

 

19. Dear Ex (2018) | ไต้หวัน

พบกับความรักสุดซับซ้อนของครอบครัวที่สูญเสียสามี เหลือเพียง ซานเหลียง ผู้เป็นแม่และ จวิ้นเหยียง ลูกชายกันเพียงสองคน แต่ความโศกเศร้าที่ควรมีดันกลายเป็นความงุนงงเพราะเงินประกันทั้งหมดที่ครบครัวควรได้รับ กลับตกเป็นของชายคนหนึ่งทำให้ ซานเหลียง รู้ว่าสามีของเธอแอบคบชายชู้มาโดยตลอด ปฏิบัติการทวงความยุติธรรมและเงินประกันจึงเกิดขึ้น ซานเหลียง บุกไปถึงที่พักของชายชู้คนนั้นอยู่บ่อยครั้งเพื่อเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่กลับต้องพบกับจุดพลิกผันครั้งใหญ่ เมื่อ จวิ้นเหยียง ที่ไม่ค่อยถูกกับแม่มาตลอดเกิดเบื่อความอารมณ์ร้อน จุกจิกขี้บ่นของแม่ตัวเอง แล้วขอหนีไปอยู่กับชายชู้คนนั้นด้วยโดยอ้างว่าจะเป็นคนไปทวงเงินให้แม่เอง นำไปสู่วังวนความสัมพันธ์ ความเข้าอกเข้าใจ และความผูกพันครั้งใหม่ที่พวกเขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน

หนังสะท้อนภาพความรักหลากหลายรูปแบบผ่านความสัมพันธ์ของคนสี่คน พ่อ แม่ ลูก และชู้รักของพ่อ แต่เรื่องคบชู้ที่สังคมตราหน้าว่าไม่ดี กลับทำให้เห็นถึงความจริงใจ และความทุ่มเทของคน ๆ หนึ่งต่อคนที่เขารักสุดชีวิต หนังมีการเล่ากลับไปกลับมาระหว่างอดีต ปัจจุบัน ทำให้เราค่อย ๆ เข้าใจถึงการเดินทางของแต่ละตัวละครว่าพวกเขาทำอะไรผิดพลาดไปตรงไหน เรื่องมันเลยวุ่นวายมาถึงตอนนี้ได้ แอบต้องลำดับความคิดเองนิดนึง แต่ก็เข้าได้ไม่งง และยังคงประทับใจกับความละเมียดละไมของหนังได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

 

20. 3 Idiots (2009) | อินเดีย

หนังดราม่า-คอมเมดี้น้ำดีจากอินเดีย เล่าถึงมิตรภาพของ แรนโช, ฟาร์รัน และราจู สามเพื่อนซี้ที่สัญญากันเอาไว้สมัยมหาลัยว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ในวันที่ 5 กันยายนพวกเขาต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง จะได้ดูว่าใครมีชีวิตประสบความสำเร็จมากกว่ากัน ก่อนเล่าย้อนไปถึงชีวิตในรั้วมหาลัยที่สอบเข้ายากที่สุดในอินเดียของพวกเขา ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องสนุกสนานเฮฮา จากการที่เพื่อนทั้งสามมีนิสัยแตกต่างกันออกไป โดยมีความมองโลกในแง่ดี แฮปปี้เสมอของ แรนโช ช่วยดึงสติและผลักดันให้ทั้งตัวของเขาและคนรอบข้าง

ซูฮกบทภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้ตลกถูกจังหวะ ทำให้ขำก๊ากได้โดยไม่ต้องหยาบคาย ทะลึ่ง แถมยังแฝงแง่คิดดีที่นำไปใช้ได้จริงตลอดทั้งเรื่อง โดยรวมคือนักแสดงนำแต่ละคนเอาหนังอยู่มาก ๆ ดูแล้วจะหลงรักพวกเขาทั้งสามคน คือองค์ประกอบทั้งหมดมันลงตัว กลมกล่อม จบด้วยความประทับใจ ได้รับพลังงานบวกกลับมามหาศาลเลย

 

:

 
 
 
ร่วมแสดงความคิดเห็น
 
ชื่อ :
 
ความคิดเห็น :