ส่งต่ออีกหนึ่งพลังรักสู้วิกฤติ COVID-19 จากคนดังฮอลลีวู้ด สองสามี-ภรรยา ไรอัน เรย์โนลด์ส (Ryan Reynolds) และ เบลค ไลฟ์ลี่ (Blake Lively) บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 32 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ยากไร้ท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนโดยมอบให้ผ่านองค์กรธนาคารอาหารของอเมริกา และแคนาดา
"COVID-19 มันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้สูงอายุ และครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ เบลค กับผม ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนให้กับองค์กร FEEDING AMERICA และองค์กร FOOD BANKS CANADA หากคุณมีกำลังพอที่จะให้ องค์กรเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณให้ดี ออกจากห้องด้วยความเบิกบานใจ และโทรหาใครสักคนที่ต้องกักตัว หรือใครสักคนที่น่าจะต้องการการติดต่อ" เรย์โนลด์ส ประกาศผ่าน Twitter ส่วนตัวของเขา พร้อมหยอดมุขกระเซ้าแหย่เย้าเพื่อนรัก ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ทิ้งท้ายเพื่อเรียกรอยยิ้มว่า "ติดต่อ ฮิวจ์ แจ็คแมน ได้ที่ 1-555-[อีโมจิร้องไห้]-HUGH"
I think we can all agree, Covid-19 is an asshole. If you can help, visit, https://t.co/gDZHbYYurJ and/or https://t.co/2fserjQQQs pic.twitter.com/4rb4WpoDKo
— Ryan Reynolds (@VancityReynolds) March 16, 2020
ด้าน ไลฟ์ลี่ ก็ได้โพสประกาศข่าวนี้ผ่าน Twitter ของเธอด้วยเช่นกัน พร้อมเสริมอีกว่า "แม้ว่าเราจำเป็นต้องแยกตัวของเราเองออกมาเพื่อที่จะปกป้องผู้ที่ไม่มีโอกาสได้แยกตัวออกมาเพื่อป้องกันเชื้อโรค เราก็ยังสามารถติดต่อกันได้อยู่ดี ส่งความคิดถึงให้กับผู้ที่ต้องแยกไปกักตัวอย่างโดดเดี่ยวได้ทั้งทาง Facetime, Skype และการอัดวิดีโอ รู้ไว้นะว่าความรักสามารถเดินทางผ่านเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ได้ สังคมจะต้องยกระดับขึ้น ช็อปปิ้งให้ผู้สูงอายุ ทำอาหารกลางวันให้เด็ก ๆ เราสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อใครอีกคน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การอยู่บ้านธรรมดา ๆ ก็ตาม ขอส่งความรักให้แรง ๆ" พร้อมปิดท้ายด้วยการหยอกล้อสามีว่า "ตอนนี้จะมีใครสักคนสามารถไปบอกกับไรอันหน่อยได้มั้ยว่า 'การเว้นระยะห่างทางอารมณ์' จากแม่ยายของเขามันไม่ใช่เรื่องนะ ไม่มีอะไรปกป้องเขาได้หรอก"
If you can, give to: https://t.co/WYvxVdz0Y1 and/or https://t.co/H9AtTAdBnt pic.twitter.com/QAshjLKmlk
— Blake Lively (@blakelively) March 17, 2020
ที่มา: Twitter.com