เตรียมเข้าฉายในบ้านเรา 19 ธันวาคมนี้แล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Farewell ในชื่อภาษาไทยว่า กอดสุดท้าย คุณยายที่รัก ผลงานของผู้กำกับคนเก่ง ลูลู่ หวัง พร้อมด้วยนักแสดงคุณภาพอีกคับคั่ง แต่ที่จะไม่พูดถึงตอนนี้คงไม่ได้ เพราะเธอกลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงสำหรับ อควาฟิน่า ซึ่งจากการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งให้เธอคว้ารางวัล Best Actress จากงาน Gotham Awards มาครองได้อีกด้วย แถมเธอยังเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่ลุ้นรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเธอให้มากขึ้น พร้อมกับการรับบทสำคัญอย่าง "บิลลี่" ในภาพยนตร์เรื่องนี้กัน
ต้องบอกว่า นาน ๆ ที เราจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของการแสดงที่ยอดเยี่ยม และสิ่งนั้นมันได้เกิดขึ้นกับ อควาฟิน่า เธอเริ่มเป็นที่รู้จักจากการเป็นนักร้องเพลงแร็พ หลังจากนั้นไม่นานเธอได้เริ่มเส้นทางการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Ocean’s 8 และเรื่อง Crazy Rich Asians ซึ่งเธอนั้นยังไม่เคยได้รับบทดราม่าหนัก ๆ และบุคลิกของเธอที่ออกไปแนวบ้าบอนั้นต่างจากตัวละครของบิลลี่อย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม อควาฟิน่า กลับเข้าใจตัวละครของ "บิลลี่" ได้อย่างถ่องแท้ แล้วเธอนั้นสามารถสวมบทบาทนี้ได้อย่างง่ายดาย
มันมีบางอย่างในตัวละครของ "บิลลี่" และ อควาฟิน่า ที่มีความคล้ายคลึงกัน เธอเกิดและโตในย่าน ควีนส์ นิวยอร์ค เธอได้ถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณย่า เพราะว่าแม่ของเธอได้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตเมื่อเธออายุได้เพียง 4 ขวบเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงเข้าใจบทของภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยความที่เธอเป็นคนอเมริกัน-จีน และความรักที่เธอมีให้ต่อคุณย่า ซึ่งสำหรับผู้กำกับอย่าง ลูลู่ หวัง เมื่อเธอได้เห็น อควาฟิน่า ในเทปการคัดเลือกนักแสดง (ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นเธอยังไม่ได้โด่งดัง) ทำให้เธอมั่นใจมากว่าบทนี้เหมาะกับอควาฟิน่าที่สุด
"ฉันไม่ได้มองหาคนที่สามารถแสดงความตลกขบขันและแสดงความดราม่าได้ดีแค่นั้น แต่ฉันมองไปถึงบุคคลที่สามารถถ่ายทอดภาษาและความซับซ้อนในตัวของบิลลี่ได้" ลูลู่ หวัง กล่าว "อควาฟิน่านั้นมีความเป็นคนอเมริกันสูงมาก แต่เธอกลับพูดภาษาจีนกลางได้ เธอเป็นคนที่ตลก แต่ขณะเดียวกันก็มีความลึกซึ้งในบางอารมณ์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกของคุณที่มีต่อปู่ย่านั้นต้องคือคุณต้องรักพวกท่านจริง ๆ"
อควาฟิน่า กล่าวถึงการแสดงครั้งนี้ของเธอว่า "ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน และเอาจริง ๆ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันสามารถทำมันได้" เธอกล่าว "ในขณะเดียวกันมันก็เป็นความท้าทายที่มีความหมายมากเกินกว่าที่ฉันคาดเดาไว้ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนอเมริกันเชื้อสายเอเซีย ที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับย่าของเธอ แต่ฉันต้องยอมรับว่าแม้กระทั่งตอนถ่ายทำฉันไม่คิดว่าฉันจะทำมันได้ ฉันแค่รู้สึกอยากขอบคุณ ลูลู่ หวัง ที่เห็นบางอย่างในตัวฉัน และเธอก็เชื่อมั่นในตัวฉัน"
ความเชื่อมั่นของหวังนั้นเป็นไปตามสัญชาตญาณ "ฉันรู้สึกว่าสิ่งเดียวที่รั้ง อควาฟิน่า ไว้คือความกลัว ดังนั้นหน้าที่หลักของฉันคือการทำให้เธอรู้สึกสบายใจให้ได้มากที่สุด" ลูลู่ กล่าว "เธอทำให้ฉันเซอร์ไพรส์ได้เสมอ เมื่อเธอเดินทางมาถึงเมืองจีน เธอได้สลัดภาพความเป็นอควาฟิน่าที่ทุกคนรู้จัก ทิ้งออกไปจนหมด และได้กลายมาเป็นบิลลี่ที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อน เธอมีทั้งความเป็นคาแรกเตอร์แบบการ์ตูนนิด ๆ แต่ก็ยังคงไว้ด้วยความสมจริงและดูเป็นมนุษย์มาก การแสดงออกทางสีหน้านั้นยอดเยี่ยม แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เธอไม่พูดอะไรเลย เธอก็ยังสามารถทำมันได้ดี"
อควาฟิน่าบอกว่ารายละเอียดในการแสดงต่าง ๆ ของเธอนั้น มาจากการที่เธอจินตนาการตัวเองให้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับ บิลลี่ "ฉันถามตัวเองอยู่เสมอว่าถ้าฉันรู้ว่าย่ากำลังจะตายและฉันไม่ได้รับอนุญาตให้พูดออกไป ฉันจะแสดงออกยังไง นั่นคือสิ่งที่บิลลี่แสดงออกมา สำหรับฉันแล้ว บิลลี่จะต้องเผชิญหน้ากับความแตกต่างของโลกสองใบอยู่เสมอ ความสงสัยสับสนว่าตนเองมีความเป็นอเมริกัน หรือชาวเอเชียกันแน่ เธอจะต้องไว้อาลัยหรือจะต้องเฉลิมฉลอง หรือว่าจะพูดในสิ่งที่ใจคิดหรือพยายามที่จะปล่อยวาง"
อควาฟิน่ากล่าวถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวว่า "ทุก ๆ ครอบครัว ในทุก ๆ วัฒนธรรมนั้น ต่างมีความแตกต่างและทุกคนกุมความลับเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ มันคือส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในชีวิตของมนุษย์เรา หนังเรื่องนี้นำเสนอวัฒนธรรมจีนที่เราแทบจะไม่เคยเห็นในหนังฮอลลีวูด แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะมาจากวัฒนธรรมไหนก็ตาม คุณจะรู้สึกได้ถึงความรักและความขัดแย้งอยู่ในทุกครอบครัว คุณจะหัวเราะไปกับพวกเขา และคุณจะร้องไห้ไปกับพวกเขา"
สิ่งที่สำคัญที่สุดของ อควาฟิน่า ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของความต่างในวัฒนธรรม แต่เป็นสิ่งที่เธอได้รับจากอาม่า "สำหรับฉัน สิ่งที่สวยงามที่สุดของเรื่องนี้คือ ความรักและความหวังดีจากผู้สูงอายุ ผู้เป็นเสาหลักของบ้าน ความรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่เราได้รับ และความเป็นห่วงเป็นใยของท่านที่พยุงครอบครัวของเราไว้ให้อยู่ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น"
ภาษาได้กลายมาเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับ อควาฟิน่า แม้ว่าเธอจะรู้จักทั้งภาษาจีนกลาง และจีนกวางตุ้ง (แม่ของเธอเป็นคนเกาหลี, ย่าของเธอมาจากจีนปักกิ่ง ส่วนพ่อของเธอก็มีเชื้อสายมาจากจีนใต้) เธอกลับไม่ได้มองว่าตัวเองเชี่ยวชาญในภาษาจีนเลย "ฉันเคยไปอยู่ที่ปักกิ่ง มาหนึ่งปีเต็ม เมื่อฉันอายุได้ 18 ปี ฉันสมัครเข้าคลาสสอนภาษา แต่อาม่าของฉันกลับไม่เข้าใจภาษาจีนที่ฉันพูดเลยสักคำ" เธอกล่าวติดตลก "นี่เป็นเหตุผลที่ฉันกลัวที่จะมาแสดงหนังที่ฉันต้องพูดภาษาจีน"
อย่างไรก็ตาม อควาฟิน่า ได้ลงเรียนคลาสสอนภาษาอีกครั้งก่อนที่จะเปิดกล้องถ่ายทำ แล้วเธอมีโค้ชภาษาส่วนตัวตลอดเวลาเมื่ออยู่ในฉากที่ถ่ายทำ จึงทำให้เธอสามารถสวมบทบาทบิลลี่ได้อย่างมั่นใจ ซึ่งทางโปรดิวเซอร์อย่าง แดเนียล เมเลีย ได้กล่าวว่า "การที่อควาฟิน่าสร้างผลงาน และถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร บิลลี่ บุคคลที่สามารถสื่อสารได้สองภาษานั้นมหัศจรรย์มาก ๆ"