ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการภาพยนตร์แอนิเมชั่นสัญชาติจีนได้เริ่มต้น หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Ne Zha ของผู้กำกับ อวี๋ หยาง (เจี่ยวจือ) เข้าฉายไปได้เพียงแค่ 2 สัปดาห์ มันก็ทุบสถิติเดิมที่เคยมีมาแต่เก่าก่อนด้วยยอดรายได้สูงถึง 1.5 พันล้านหยวน และก้าวขึ้นเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลในประเทศจีนไปเป็นที่เรียบร้อย หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของสเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค, บทภาพยนตร์อันเฉียบแหลม หรือฉากต่อสู้ประจัญบานเพียงเท่านั้น แต่นี่ยังเป็นการเดินทางของลิตเติ้ลฮีโร่ "นาจา" ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
คล้าย ๆ กับหนังจีนอีกหลาย ๆ เรื่อง Ne Zha คือหนังอีกหนึ่งเรื่องที่อิงมาจากเรื่องเล่าในตำนานสุดคลาสสิคของชาวจีน ซึ่งผลงานที่โด่งดังเป็นที่รู้จักมากที่สุดเลยก็คือ Investiture of the Gods แต่นาจาก็ยังมีโอกาสได้ไปปรากฎตัวในผลงานชิ้นอื่น ๆ อีกหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ Journey to the West ตามเรื่องราวที่เล่าขานมาแต่ดั้งเดิมนั้นบอกไว้ว่า นาจา ต้องเกิดมาเพื่อที่จะเป็นผู้นำกองทัพ และเขาก็สามารถพูดและเดินได้ในทันทีที่เกิดมาด้วย หลังจากได้รับการฝึกฝนโดยไท้อี่เจินเหริน เขาก็ได้เข้ามาพัวพันในความขัดแย้งระหว่างดรากอน คิง กับครอบครัวของเขาเอง
Ne Zha คือผลงานชิ้นล่าสุดที่จะกลับมาตอกย้ำเรื่องราวของนาจาให้ทุกคนได้รู้ได้เห็นกันอีกครั้ง แต่สำหรับครั้งนี้มันจะไม่ได้เน้นถ่ายทอดไปตามเรื่องราวคลาสสิคในตำนานไปซะทีเดียว แต่มันจะขับเคลื่อนไปด้วยเรื่องราวของการเรียนรู้อย่างถ่องแท้ในการกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองของใครคนหนึ่ง แล้วหนทางไหนที่มันจะดีไปกว่าการที่ต้องทำแบบนั้นกับเด็กแสบหัวรั้นผู้มีพลังแห่งเทพกันล่ะ?
ที่ผ่านมาผู้ชมต่างก็รู้จักต้นกำเนิดของนาจาดีกว่าที่เขารู้จักตัวเองซะอีก ด้วยภาพลักษณ์ของเขาที่ทั้งเอาแต่ใจเอะอะโวยวาย เห็นแก่ตัว ตรงไปตรงมา แล้วก็ดูเป็นเด็กน่าเกลียดน่ากลัว แต่หนังเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนต้องหันกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่าจริง ๆ แล้วโดยพื้นฐานของเด็กคนนี้เขาเป็นคนดีหรือไม่ดีกันแน่ เส้นแบ่งกั้นระหว่างความเป็นคนดีกับปีศาจมันจะพร่ามัวไปตลอดทั้งเรื่องของหนัง แม้แต่ตัวร้ายอย่างดรากอนคิง ก็จะมีบางอย่างที่ซับซ้อน แล้วก็ควรค่าแก่ความเห็นใจอยู่เหมือนกัน แถมยังมีลุ้นอีกว่า Ne Zha อาจจะได้เป็นตัวแทนแอนิเมชั่นจากฝั่งเอเชียที่ได้เข้าไปท้าชิงบนเวทีออสการ์ปีนี้อีกด้วย แต่เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลจะเป็นอย่างไร จะซาบซึ้ง ยิ่งใหญ่ ดีงามขนาดไหน หรือมันจะแตกต่างจากเรื่องราวที่คุณเคยรู้มามากน้อยแค่ไหนกัน ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาคุณเอง 5 ธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ ทั้งในระบบปกติ และระบบ IMAX
ที่มา: Thebeijinger.com