แองเจลิน่า โจลี่ (Angelina Jolie) ได้กลับมาสวมวิกและเขาหงอนอีกครั้งในภาพยนตร์แฟนตาซีภาคต่อ Maleficent: Mistress of Evil และเธอก็ขอยืนยันว่าครั้งนี้เธอจะกลับมาพร้อมสโคปที่มหึมายิ่งกว่าเดิม ขณะที่เดิมพันก็สูงล้ำกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
"ในหนังภาคนี้เราได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาหนึ่ง เราเป็นครอบครัว แล้วเราก็โตขึ้นด้วย" โจลี่ พูดถึงตัวละครของเธอกับ เจ้าหญิงออโรร่า ที่รับบทโดย แอลล์ แฟนนิ่ง (Elle Fanning) "และตอนนี้โลกของเรามันก็กำลังแผ่ขยายใหญ่ขึ้นด้วย มันไม่ใช่แค่เราสองคนมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ หรอกนะ และด้วยสิ่งนั้นมันก็มาถึงจุดที่เราต้องเผชิญกับทุกอย่างจากโลกภายนอก การใช้ชีวิตที่มันต่างออกไปโดยสิ้นเชิง รวมไปถึงมุมมองความคิดต่าง ๆ ที่มันต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเลยด้วย"
ในภาคนี้ ออโรร่า ต้องเป็นคนกลางที่พยายามจะสมานฉันท์รอยร้าวระหว่างแม่บุญธรรม มาเลฟิเซนต์ กับ ราชินีอิงกริด ว่าที่แม่ย่าของเธอที่รับบทโดย มิเชลล์ ไฟเฟอร์ (Michelle Pfeiffer) "เธอเป็นตัวละครที่เป็นที่ยอมรับ อ่อนโยน และก็เป็นผู้หญิงที่นิ่มนวล" แฟนนิ่ง กล่าว "ส่วนออโรร่าเธอเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการที่สุดในหนังเรื่องนี้ เพราะเธอต้องการให้ทุกคนปรองดองกัน"
ถึงแม้ ออโรร่า จะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่มันก็ยังไม่อาจหยุดยั้งการกระทบกระทั่งกันระหว่าง 2 แม่ได้ เพราะ อิงกริด ไม่ได้เป็นเพียงแค่แม่ของ เจ้าชายฟิลลิป เท่านั้น แต่เธอยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของ มาเลฟิเซนต์ อีกด้วย "เธอถูกทำร้ายและจิตวิญญาณของเธอก็มีความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อย เธอเป็นผู้ที่ซึ่งจะต้องปกป้องอาณาจักรของเธอ" ไฟเฟอร์ กล่าว "เธอเป็นคนอำมหิต" ด้าน โจลี่ ก็ยอมรับ "อิงกริด เป็นคนอำมหิต!"
Maleficent: Mistress of Evil ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์
ที่มา: Ew.com