ผู้กำกับรุ่นเก๋า มาร์ติน สกอร์เซซี่ (Martin Scorsese) เปิดประเด็นร้อนไว้ในบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร Empire โดยการแสดงความเห็นว่าหนัง Marvel มันไม่นับเป็นภาพยนตร์ ซึ่งความเห็นดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตเกิดอาการหัวร้อนออกมาแสดงความไม่พอใจกันยกใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ 2 ผู้กำกับผู้อยู่เบื้องหลังหนัง Marvel อย่าง เจมส์ กันน์ (James Gunn) และ จอส วีดอน (Joss Whedon) ที่อดรนทนไม่ไหวขอออกมาตอบโต้ความเห็นของรุ่นพี่ สกอร์เซซี่ ด้วยเช่นกัน

สกอร์เซซี่ ให้สัมภาษณ์กับทาง Empire เอาไว้ว่า

"ผมไม่ได้ดูหนังพวกนั้นหรอกนะ แต่ผมเคยพยายามจะดูแล้ว คุณเข้าใจใช่มั้ย? แต่หนังพวกนั้นมันไม่นับว่าเป็นภาพยนตร์หรอก ด้วยความสัตย์จริงเลยนะ สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดที่ผมจะสามารถนึกถึงหนังพวกนั้นได้ตามที่หนังพวกนั้นได้ทำออกมา รวมถึงเหล่านักแสดงที่ต่างก็พยายามทำในสิ่งที่พวกจะสามารถทำได้ออกมาให้ดีที่สุดภายใต้เหตุการณ์เหล่านั้น นั่นก็คือสวนสนุก มันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่มีความเป็นมนุษย์ในการพยายามที่จะถ่ายทอดความรู้สึก แล้วก็ประสบการณ์ทางด้านจิตใจไปสู่มนุษย์คนอื่น ๆ"

ซึ่ง กันน์ ผู้กำกับ Guardians of the Galaxy ก็ได้ออกมาทวีตแสดงความผิดหวังต่อความเห็นของ สกอร์เซซี่ อย่างรวดเร็ว

"มาร์ติน สกอร์เซซี่ คือหนึ่งใน 5 ผู้กำกับขวัญใจของผมที่ยังมีชีวิตอยู่ ผมเคยหยุดทำงานไปตอนที่ผู้ชมเลือกจะตัดสินหนัง The Last Temptation of Christ โดยที่ยังไม่ได้ดูมัน และผมก็เสียใจจริง ๆ ที่ตอนนี้เขากำลังตัดสินหนังของผมด้วยหนทางเดียวกันนั้น" "นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการจะพูด แต่ผมก็ยังรัก สกอร์เซซี่ เสมอไป ผมยังคงชื่นชมการสนับสนุนของเขาที่มีต่อโลกภาพยนตร์ แล้วก็แทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ชม The Irishman" กันน์ เสริม พร้อมเคลียใจให้ชัดเจนด้วยว่าเขาเสียใจกับทุกคน "ที่เลือกจะตัดสินหนังหลาย ๆ เรื่องโดยที่ยังไม่ได้ดูมันจริง ๆ"

ขณะเดียวกัน วีดอน ผู้กำกับ The Avengers (2012) และ Avengers: Age of Ultron (2015) ก็ออกมาช่วยปกป้อง กันน์ ด้วยการบอกว่า

"คุณบอกว่า 'มันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่มีความเป็นมนุษย์ในการพยายามที่จะถ่ายทอดความรู้สึก แล้วก็ประสบการณ์ทางด้านจิตใจไปสู่มนุษย์คนอื่น ๆ' หรอ อันดับแรกเลยนะ ผมคิดว่าสำหรับ เจมส์ กันน์ แล้ว เขาใส่หัวใจและความกล้าหาญอัดแน่นเข้าไปใน GOTG ผมเองก็นับถือ มาร์ตี้ นะ แล้วผมก็เข้าใจวัตถุประสงค์ของเขาด้วย แต่... มันก็มีเหตุผลว่าทำไม 'ผมถึงโกรธทุกที' ด้วยเหมือนกัน"

นอกจากผู้กำกับทั้ง 2 คนแล้ว ปีเตอร์ แรมซีย์ (Peter Ramsey) ผู้กำกับ Spider-Man: Into the Spider-Verse (2019) และ ลีห์ แวนเนลล์ (Leigh Whannell) ผู้อยู่เบื้องหลังหนังแฟรนไชส์ชุด Saw และ Insidious ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน ด้าน แรมซีย์ บอกว่า

"มาร์ติน สกอร์เซซี่ คือพระเจ้า ส่วนหนัง Marvel พวกมันคือความสนุกและความดีงาม ชิลล์ ๆ น่ะ" ขณะที่ แวนเนลล์ บอกว่า "ผมนับถือ มาร์ติน สกอร์เซซี่ นะ แต่หนัง Marvel บางเรื่องมันก็ช่วยเติมเต็มให้กับผมด้วยฉากแอ็คชั่นอันสุขล้นเมื่อผมได้ดูมันด้วยเหมือนกัน อย่างตอนที่ผมได้ดู RoboCop ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเด็ก ๆ น่ะ ผมเคยเขียนบทหนังที่มันเกี่ยวกับหุ่นเชิดปีศาจที่ตัดลิ้นผู้คนไปทั่ว ดังนั้นมันคงไม่ใช่ธุระของผมที่จะมาแสดงความเห็นต่อหนังของคนอื่น"

คาเรน กิลแลน (Karen Gillan) ผู้รับบท เนบิวล่า ใน MCU ก็ให้สัมภาษณ์กับทาง The Hollywood Reporter ถึงประเด็นดังกล่าวว่า

"ฉันคงพูดได้อย่างแน่แท้เลยนะว่าหนัง Marvel มันคือภาพยนตร์ ภาพยนตร์คือการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพต่าง ๆ" ซึ่ง กิลแลน ยังบอกอีกว่าหนัง Guardians มันคือตัวแทนของผู้กำกับ เจมส์ กันน์ อย่างแท้จริง "มันเต็มไปด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ มันคือจิตวิญญาณของ เจมส์ ที่อยู่ในนั้น เขาใส่ตัวตนของเขาลงไปในหนังเรื่องนั้นมากมายเลย แล้วก็ยังมีอารมณ์ขันของเขาอยู่อีกด้วย นั่นมันคือตัวแทนที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ ของสิ่งที่เขาเป็นในฐานะคน ๆ หนึ่ง เพราะฉะนั้นมันจึงมีความเป็นภาพยนตร์อยู่สูงมาก เขาคือศิลปินคนหนึ่ง"

ฝ่าย ซามูเอล แอล แจ็คสัน (Samuel L. Jackson) ผู้รับบท นิค ฟิวรี่ ใน MCU ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Variety ถึงประเด็นนี้เช่นกันว่า

"นั่นมันเหมือนกับบอกว่า บักส์ บันนี ไม่สนุกอ่ะแหละ หนังยังไงมันก็คือหนัง คุณรู้ใช่มั้ยทุกคนก็ไม่ได้ชอบหนังของเขาเองไปซะทุกเรื่องหรอก คือผมจะสื่อว่าเราทำให้มันเกิดขึ้น แต่ทุกคนไม่ได้ทำแบบนั้น มันยังมีชาวอิตาเลียน-อเมริกันอีกมากมายที่ไม่คิดว่าเขาควรที่จะทำหนังเกี่ยวกับพวกเขาแบบนั้นออกมา ทุกคนต่างก็มีความคิดเห็นของตัวเอง ซึ่งมันก็โอเคนะ แต่ความคิดพวกนั้นมันก็ไม่ได้จะไปหยุดใครคนไหนจากการทำหนังออกมาได้หรอก"

ที่มา: Hollywoodreporter.com | Ew.com