แม้จะล้มลุกคลุกคลานมาตลอดกระบวนการตั้งแต่เริ่มแผนพัฒนา แต่ในที่สุด No Time to Die หนัง James Bond เรื่องที่ 25 ก็ถ่ายทำเสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยจนได้ ซึ่งหลังจากปิดกล้อง แดเนียล เคร็ก รวมถึงเพื่อนนักแสดงและทีมงานก็ได้ยกทีมไปฉลองกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี และขณะฉลอง เคร็ก ก็ได้เผยความรู้สึกจากใจถึงเพื่อนร่วมงานของเขาทุกคนด้วย
"ผมแค่อยากจะบอกว่า... จริง ๆ แล้วตอนนี้ผมก็ดื่มไปค่อนข้างเยอะนะ ดังนั้นผมคงจะไม่พูดอะไรให้มันยืดยาว นี่คือหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุด มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมาเลย พวกคุณทุกคนร่วมกันสร้างชิ้นงานที่น่าอัศจรรยที่สุด ผมคงจะไม่มีอะไรที่มันจะทำให้ผมภูมิใจไปกว่าการที่ได้มาร่วมงานกับพวกคุณทุกคนในกองถ่ายนี้ ผมอยากจะขอขอบคุณสำหรับเย็นวันนี้ ขอบคุณ บาร์บาร่า ที่ทำให้มันเกิดขึ้น ขอบคุณพระเจ้า ค่ำคืนนี้เราทำมันสำเร็จแล้ว"
ใน No Time to Die บอนด์ จะทิ้งภาระหน้าที่เอาไว้เบื้องหลัง แล้วเพลิดเพลินไปกับชีวิตอันแสนสงบสุขในประเทศจาไมกา แต่ชีวิตอันแสนสงบของเขามันช่างสั้นนัก เมื่อ เฟลิกซ์ ไลเทอร์ (เจฟฟรีย์ ไรท์) เพื่อนเก่าของเขาจากหน่วยซีไอเอปรากฏตัวออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ ภารกิจช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกจับเป็นตัวประกันมันกลายเป็นเรื่องอันตรายยิ่งกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ แล้วมันก็ได้นำทางให้ บอนด์ ได้มาพบกับวายร้ายลึกลับอาวุธครบมือที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ สุดล้ำด้วย
แดเนียล เคร็ก จะกลับมาในฐานะ 007 ร่วมด้วย ราล์ฟ ไฟนส์ (เอ็ม), ลีอา แซดู (เมเดอลีน สวอนน์), นาโอมิ แฮร์ริส (มันนี่เพนนี), เบน วิสชอว์ (เอ), โรรี่ คินเนียร์ (แทนเนอร์) และ เจฟฟรีย์ ไรท์ (เฟลิกซ์ ไลเทอร์) พร้อมสมาชิกใหม่ ดาลี เบนส์ซาลาห์, บิลลี่ แม็กนัสเซน, อนา เดอ อาร์มาส, เดวิด เดนชิค, ลาชานา ลินช์ และ รามี่ มาเลค กำกับการแสดงโดย แครี่ ฟุกุนากะ No Time to Die พร้อมฉาย 2 เมษายนปีหน้า
ที่มา: Movieweb.com