ไม่ใช่หนังทุกเรื่องจะฮอตฮิตติดใจคนดู ไม่ใช่ทุกเรื่องจะขึ้นไปครองตาราง Box Office ได้ ยิ่งในประเทศที่ อุตสาหกรรมภาพยนตร์แข่งขันกันสูงปรี๊ดดดอย่างเกาหลีใต้ ยิ่งเป็นเรื่องยาก นั่นเท่ากับว่า หนังเรื่องที่ครอง Box Office ณ แดนกิมจิได้ ต้องโดนใจผู้ชมจริงๆ ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง 

แล้วเหตุผลเหล่านั้นคืออะไรล่ะ? เรามาสำรวจตรวจสอบไปพร้อมกันดีกว่า ว่าหนังแบบไหนบ้างที่จะขึ้นครองชาร์ต Box Office เกาหลีใต้ได้

อ้อ…จะบอกให้ว่า “Exit ฝ่าหมอกพิษ ภารกิจรัก” หนังที่นำแสดงโดย อิม ยุน-อา แห่ง SNSD ก็มีเหตุผลตามนี้ครบทุกข้อ หนังถึงขึ้นท็อปบน Box Office 2 สัปดาห์ติด และมียอดขายตั๋วทะลุ 9 ล้านใบที่เกาหลีใต้ พร้อมได้รับคำวิจารณ์จากแฟนๆ  ว่าสนุกและลุ้นไม่แพ้ Train to Busan เลยทีเดียว!

 

 

ดาราปัง แสดงเปรี้ยง

ชื่อของนักแสดงนำเป็นเหมือนด่านแรกที่ดึงดูดให้คนสนใจหนัง ถ้าเป็นดาราดังหรือมีแฟนคลับเหนียวแน่น หนังก็เหมือนได้รับบัตรผ่านกลายๆ การันตีได้ว่ามีคนดูชัวร์ๆ แต่จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับด่านถัดไป นั่นคือตัวละครที่นักแสดงคนนั้นๆ สวมบทว่าเปรี้ยงหรือเปล่า ถ้าเป็นบทที่เข้าทาง หรือท้าทายความสามารถ เอื้อโอกาสให้ได้โชว์ทักษะการแสดงอย่างเต็มที่ ก็จะเกิดเป็นคำชมที่กระจายในหมู่คนดูแบบปากต่อปาก คนที่ยังไม่ดูก็จะอยากมาพิสูจน์ว่า นักแสดงที่ว่าปังคนนี้แสดงได้เปรี้ยงจริงไหม และนี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้หนังเรื่องหนึ่งๆ ขึ้นไปครองแชมป์ Box Office ได้

ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วใน Train to Busan (2016) หนังรถด่วนขบวนซอมบี้ที่นำแสดงโดย กงยู หรือ My Sassy Girl (2001) ซึ่งมี ชอน จี-ฮยอน กับ ชา แท-ฮยอน มารับบทยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม ทั้งสองเรื่องต่างถล่ม Box Office จนสนั่นในปีที่ตัวเองฉายด้วยหลายเหตุผล ซึ่งหนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือมีดาราชื่อปังนำแสดง แถมยังเล่นได้เปรี้ยงอีก

หรือใน Exit ก็มี อิม ยุน-อา แห่ง Girls’ Generation (SNSD) แสดงร่วมกับดาราหนุ่มอารมณ์ดี โจ จอง-ซอก ในบทบาทที่แหวกแนวและสุดจะท้าทายทั้งคู่ จองซอกเล่นเป็นหนุ่มตกงานที่บังเอิญพบสาวที่เคยชอบ ซึ่งเล่นโดยยุนอา ก่อนเหตุการณ์ประหลาดจะเกิดในเมือง ทำให้พวกเขาต้องเอาตัวรอดออกจากดินแดนที่หนาแน่นไปด้วยก๊าซพิษนี้ – รับรองว่าทั้งปังทั้งเปรี้ยงแน่นอน!

 

เนื้อหาดี ประเด็นโดน 

ถัดจากนักแสดงก็ต้องเป็นเนื้อหา ที่บางทีแค่เรื่องย่อกับตัวอย่างของหนังที่ปล่อยไปก่อนฉายจริง ก็ชี้วัดได้แล้วว่าคนให้ความสนใจแค่ไหน คำถามคือ ถ้าคิดแบบเร็วๆ เนื้อหาประมาณไหนที่จะโดนใจคน ตอบแบบเร็วๆ อีกเหมือนกันว่า คนดูสมัยนี้ ถ้าไม่ชอบอะไรใหม่ๆ ชวนอึ้งทึ่งว้าว ก็จะชอบอะไรเก่าๆ ที่ชวนให้หวนคิดถึงอดีตไปเลย 

เช่น Along with the Gods: The Two Worlds (2017) แค่ไอเดียที่ให้คนสามัญที่ตายกะทันหันร่วมฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า ก็ดูเข้าท่าแล้ว! หรือ The Admiral: Roaring Currents (2014) ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของสงครามระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่นในปี 1597 ก็เป็นเนื้อหาที่ทำให้คนรำลึกนึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นส่วนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของชาติตัวเอง

ไม่ก็ต้องเป็นเนื้อหาที่ทันกระแส ต่อติดง่าย ตรงใจคน เช่น Exit ที่มีฉากหลังเป็นเหตุประหลาดในเมือง เมื่อจู่ๆ ก็มีก๊าซพิษลึกลับแพร่กระจายไปทั่ว ชาวเมืองผู้ประสบชะตากรรมร่วมกัน เลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหนีเอาชีวิตรอดออกไปจากเมืองที่เต็มไปด้วยก๊าซนี้ให้ได้

เมื่อต้นปี เกาหลีใต้เผชิญปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างหนักจนรัฐต้องประกาศมาตรการฉุกเฉิน และคนก็แทบอยู่กันไม่ได้เลยเพราะกลัวอันตรายจากฝุ่น เจ้าก๊าซพิษในหนังก็คงไม่ต่างกับฝุ่นนี้เท่าไร ไม่แปลกที่คนเกาหลีจะต่อติดกับเนื้อหาหนังได้ทันที (คนไทยเองก็คงเหมือนกัน)

 

 

ฉากดราม่า น้ำตาจะไหล 

นอกจากจะใช้สองตาและสองหูดูหนังแล้ว คนยังใช้หัวใจในการดูด้วย ฉันใดฉันนั้น หนังที่จะเข้าไปนั่งในใจคนได้ ก็คงต้องเป็นหนังที่สร้างขึ้นมาด้วยหัวใจเหมือนกัน 

เกาหลีใต้ขึ้นชื่อในการทำหนังเมโลดราม่า มีหนังที่พร้อมจะเรียกน้ำตาคนดูเต็มตลาด หนังที่จะโผล่เหนือทะเลน้ำตาขึ้นไปบนชาร์ต Box Office จึงต้องเป็นหนังที่ทำให้คนดู ‘รู้สึก’ จากหัวใจได้จริงๆ อย่างเรื่องราวความรักที่มีต่อลูกสาวของชายผู้ป่วยเป็นออทิสติกซึ่งติดคุกด้วยความผิดที่เขาไม่ได้ก่อ ใน Miracle in Cell No. 7 (2013) หรือเรื่องของสัญญารักไม่ลืมเลือนใน Ode to My Father (2014) 

Exit อาจเป็นหนังแอ็คชั่นคอเมดี้ที่ไม่มีทีท่าจะเรียกน้ำตาจากคนดูได้เลย แต่อย่างที่บอก เกาหลีใต้ขึ้นชื่อในการทำหนังให้จับหัวใจคนอยู่แล้ว ฉะนั้น ทางที่ดี เตรียมผ้าเช็ดหน้าและน้ำตาไปให้พร้อมก่อนดีกว่า

 

 

 

รุ่มรวยอารมณ์ขัน 

ไม่จำเป็นต้องขำก๊ากตลอดเรื่อง ไม่ต้องมาตั้งหน้าตั้งตาเล่นมุกทุกห้านาที หนังที่ตลกจริงๆ จะต้องแม่นจังหวะ รู้ว่าช็อตไหนปู ช็อตไหนตบ มุกไหนเวิร์ค หนังตลกที่เน้นปริมาณ ยิงมุกเรี่ยราด มักลงเอยแบบเดียวกัน คือไม่ตลกเท่าที่ควร

ต่างจากหนังที่ตลกน้อยๆ แต่ร้อยคุณภาพเหล่านี้ ที่ฮาจนพาตัวเองขึ้นไปยืนเด่นบนชาร์ต Box Office ได้สำเร็จ ทั้ง Miss Granny (2014) เมื่อเมื่อหญิงชราวัย 70 กลับไปเป็นสาวสวยเหมือนเมื่อ 50 ปีก่อนอย่างน่าอัศจรรย์, Welcome to Dongmakgol (2005) จะเป็นยังไงเมื่อยัยตัวจุ้น เข้าไปวุ่นสมรภูมิรบจนปั่นป่วน หรือ Extreme Job (2019) เมื่อฐานที่มั่นของตำรวจในการสืบสวนคดีค้ายา ดันเป็นร้านไก่ทอดซะได้ เรื่องมันจะดำเนินไปอีท่าไหนเนี่ย!

Exit ก็เข้าข่ายนี้ ด้วยมุกที่คัดสรรมาอย่างดี เล่นโดยนักแสดงที่เคมีสุดแสนจะเข้ากัน ในจังหวะที่แม่นราวกับจับวาง จะไม่ให้ฮาจนน้ำหูน้ำตาไหลได้ไงไหว 

 

 

เข้าถึงทุกวัย ดูได้ทุกเพศ

เรียกง่ายๆ ว่าความแมสนั่นเอง แน่นอนว่าหนังที่สร้างมาให้ใครดูก็ได้ ร้อยทั้งร้อยต้องขึ้นชาร์ต Box Office ก่อนหนังเฉพาะกลุ่ม หรือถ้ามันมีเนื้อหาเฉพาะทาง ซ่อนสัญญะแยบยล ก็ต้องมีวิธีถ่ายทอดที่หลักแหลมแนบเนียนเข้าไปถึงคนทุกเพศทุกวัย เช่น Parasite หนังเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ผลงานกำกับของ บองจุนโฮ 

ว่าด้วยครอบครัวชนชั้นล่างฐานะยากจนที่อาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านใจกลางมหานครโซล ถึงจะถูกพะยี่ห้อว่าเป็นหนังรางวัล แต่ผู้ชมก็ยังเสพสาระของหนังได้อย่างบันเทิง ไม่ต้องปีนบันไดดู

Exit ไม่ใช่หนังสายประกวดหรือหนังรางวัลเหมือน Parasite แต่ทั้งสองเรื่องเหมือนกันตรงที่เข้าถึงทุกวัย ดูได้ทุกเพศ อาจจะมีคนดูที่เคยว่างงานหลายปี แล้วบังเอิญมาเจอสาวที่แอบรักในงานวันเกิดครบรอบ 70 ปีของแม่ตัวเอง ก่อนจะเกิดเหตุประหลาด มีก๊าซพิซแพร่กระจายอยู่ทั่วเมือง ก็เป็นได้…ใครจะรู้ 

ร่วมหนีก๊าซพิษและพิสูจน์ความสนุกพร้อมกัน 26 กันยายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์