การเป็นมนุษย์แม่ของลูกสาววัย 5 ขวบในชีวิตจริง มันช่วยเอื้อประโยชน์เหลือคณานับให้กับ สการ์เลตต์ โจแฮนสัน (Scarlett Johansson) ที่ต้องมาสวมบทคุณแม่บนจอยักษ์ผ่านภาพยนตร์ถึง 2 เรื่องในปี 2019
ในงาน Toronto International Film Festival โจแฮนสัน มีโอกาสได้ให้สัมภาษณ์กับ EW และ PEOPLE เกี่ยวกับบทบาทของเธอใน Jojo Rabbit ผลงานกำกับชิ้นล่าสุดของ ไทกา เวทีที (Taika Waititi) ที่เพิ่งจะเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหนังเรื่องนี้มันพูดถึงเรื่องราวของหนุ่มน้อยชาวเยอรมันผู้โดดเดี่ยวนามว่า “โจโจ้ ‘แร็บบิต’ เบตซ์เลอร์” ซึ่งรับบทโดย โรมัน กริฟฟิน เดวิส (Roman Griffin Davis) ชีวิตของเขาต้องกลับตาลปัตรหลังจากได้รู้ว่า “โรซี่” (สการ์เลตต์ โจแฮนสัน) แม่ของเขาแอบซ่อนเด็กสาวชาวยิวเอาไว้บนห้องใต้หลังคาในบ้านของพวกเขาในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีคนเพียงคนเดียวที่ โจโจ้ รู้สึกว่าเขาจะสามารถไว้วางใจได้นั่นก็คือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (ไทกา เวทีที) เพื่อนในมโนภาพของเขาเอง
“มันเป็นงานของพ่อแม่ที่จะต้องปกป้องลูก ๆ ของพวกเขา” โจแฮนสัน เผย “ฉันคิดว่านั่นมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวข้องกับตัวละครของโรมันในชีวิตจริงของสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นที่บ้านหรอกนะ ฉันคิดว่าเบื้องต้นแล้วฉันพยายามที่จะให้เขามีชีวิตขึ้นมาด้วยหนทางนั้น ฉันยังไม่เคยมีลูกมาก่อนเลยในหนังที่ฉันเคยแสดงมาก่อนหน้านี้ แต่ในปีนี้ฉันได้ทำหนัง 2 เรื่องที่ฉันต้องมีลูกวัย 10 ขวบกับ 11 ขวบขึ้นมาในทันทีทันใด ซึ่งฉันต้องกลายมาเป็นแม่อย่างฉับพลันในปีนี้”
“ฉันว่าสำหรับนักแสดงแล้ว แน่นอนว่ามันมีหลายแนวทางที่จะพาตัวเองไปสู่จุดที่คุณต้องการจะไป ความเป็นมนุษย์แม่ในชีวิตจริงของฉันมันคือตัวช่วยที่ล้ำค่าสำหรับฉันเลย ฉันเข้าใจถึงความรู้สึกของโรซี่ ซึ่งฉันก็อาจจะไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ในจุดอื่น ๆ หรอกนะ เธอแค่เป็นคนที่สนุกไปกับการเล่น เธอเป็นคนอบอุ่น เป็นตัวละครที่น่ารักซึ่งนั่นมันสบายมากสำหรับฉัน แล้วฉันก็อยากให้สิ่งนั้นมันเกิดขึ้นด้วย มันคือการที่เธอรู้สึกสะดวกสบาย แล้วก็มีความอ่อนหวานและอบอุ่น” โจแฮนสัน เสริม
Jojo Rabbit มีกำหนดเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 16 มกราคม 2020